- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 13 March 2015 16:44
- Hits: 1210
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Selective Buy
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้เปิดซึมตัวหลุดแนว 1,540 จุด จากความกังวลวันก่อนหน้าที่ต่างชาติขายทั้ง 3 ตลาดพร้อมกัน แต่เมื่อสัญญาณบวกจากค่าเงินบาทแข็งค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ จีนรายงานยอดสินเชื่อเติบโตดีกว่าคาด ทำให้บรรยากาศช่วงบ่ายกลับมาฟื้นตัว ปิดตลาด SET INDEX อยู่ที่ 1,544.34 จุด บวกเล็กน้อย 0.50 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบางเพียง 43,225 ล้านบาท
ทั้งนี้ต่างชาติคงขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 เพียง 414 ล้านบาท Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 3 อีก 1,500 สัญญา แต่เร่งขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 5 มากถึง 9,513 ล้านบาท เพื่อปิดความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยน เมื่อค่าเงินบาทแข็งค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย ย่อมเปิดโอกาสให้นักลงทุนกลุ่มนี้ขายตราสารหนี้มากขึ้น
ปัจจัยสำคัญวันนี้
นายกฯ ประกาศยกเลิกพิจารณาร่างกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอย่างไม่มีกำหนด
กองทุนทริกเกอร์ฟันด์ของ SCBAM ขายได้เต็มจำนวน 1,000 ล้านบาท ส่วน บลจ.ทิสโก้อยู่ระหว่างการขาย IPO กองทุนทริกเกอร์ฟันด์ วงเงิน 1,000 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า
การประชุม ครม.วันที่ 17 มี.ค. คาดจะมีการพิจารณาความคืบหน้าโครงการรถไฟรางคู่ไทย - จีน หลังคณะทำงานหารือรอบที่ 3 เสร็จสิ้นวันที่ 11 มี.ค.
การประชุมเฟด วันที่ 18 มี.ค. มุมมองต่อทิศทางนโยบายการเงิน ภายใต้ความเสี่ยงเศรษฐกิจโลก ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่า และอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ
ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะรับพิจารณา คดีทุจริตจำนำข้าว ของอดีตนายกฯ คุณยิ่งลักษณ์ วันที่ 19 มี.ค. หรือไม่
การถอดถอนหุ้น BAY ออกจากดัชนี FTSE ณ ราคาปิดวันที่ 20 มี.ค.
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองการลงทุนเป็น "กลาง" วันที่ 5 พร้อมประเมินกรอบแกว่ง SET INDEX ในวันนี้จนถึงสัปดาห์หน้าระหว่าง 1,530 - 1,560/65 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เหลือเพียง 4.0-5.0 หมื่นล้านบาท/วัน ทั้งนี้ นักลงทุนต่างรอดูความชัดเจนในประเด็นต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ สัปดาห์หน้า หากผ่านพ้นไปได้อย่างเรียบรื่น เชื่อว่าช่วงโค้งสุดท้ายของไตรมาสที่ 1 ของปี 2558 จะเห็น SET INDEX ที่ฟื้นตัวขึ้นและอาจทดสอบแนว 1,600 จุดได้เช่นกัน เพราะเม็ดเงินทั้งจากกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ และ การทำ Window Dressing ของกองทุนในประเทศ
ทั้งนี้นักลงทุนควรติดตามการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อประเมินทิศทางเงินทุนต่างชาติต่อการลงทุนในไทย เราเชื่อว่า แรงขายของนักลงทุนต่างชาติต่อตลาดหุ้นไทยจะเป็นไปอย่างจำกัด และอาจหาจังหวะเข้าสะสมหุ้นหลักที่แนวโน้มผลการดำเนินงานยังโดดเด่นใน 1Q58-2Q58 เราเชื่อว่ากลุ่มท่องเที่ยว ทั้งธุรกิจโรงแรม / สายการบิน / สนามบิน จะเป็นเป้าหมายลำดับต้นๆ ของการลงทุนที่ได้ประโยชน์จากการลดอัตราดอกเบี้ยของกนง.ในรอบนี้ นอกเหนือไปจากหุ้นหลักที่เด่นเรื่องเงินปันผลในช่วงที่เหลือของเดือนนี้ ต่อเนื่องถึงเดือนเม.ย.
ด้านภาพรวมรายกลุ่มอุตฯ เราคาดว่าในช่วงสั้น กลุ่มอสังหาฯ ที่ปรับตัวลง 5.41% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา มากกว่า SET INDEX ที่ลดลง 4.28% ด้วยแรงกดดันของอุปสงค์ที่เปราะบาง และความกังวลต่อร่างกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง แต่เมื่อนายกฯ ประกาศยกเลิกการพิจารณาภาษีดังกล่าวออกไปอย่างไม่มีกำหนด ย่อมทำให้บรรยากาศการลงทุนกลุ่มอสังหาฯ กลับมาดีขึ้น อีกทั้งเป็นกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง ภายใต้การซื้อขาย PER15 ที่ต่ำเพียง 7.96x
ตลาด Nikkei - Kospi (7.29 น.) เปิดบวกเด่น 0.75% ทั้ง 2 ตลาด หลัง DJIA คืนวานนี้ปิดบวกถึง 1.47% จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่า
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนอาจพิจารณาขายทำกำไรในหุ้นเป้าหมายที่แนะนำทยอยสะสมไปก่อนหน้านี้ โดยพิจารณาจากผลตอบแทนการลงทุนรอบสั้นราว 5-10% เป็นเกณฑ์ตัดสินใจ แทนการตัดสินใจจากการพิจารณาบน SET INDEX"
Portfolio
Top Pick in 1Q15: ADVANC / BJCHI / ITD / KTB
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ KTB/ TTA/ ADVANC/ MONO / TASCO/ WHA
Accumulative Buy: INTUCH
Speculative Buy: AAV
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "ทยอยสะสม" ได้แก่
1. INTUCH : ราคาปิด 78.50 บาท ราคาเหมาะสม 114.00 บาท
a) INTUCH จะขึ้น XD เงินปันผล 2H57 หุ้นละ 2.23 บาท วันที่ 31 มี.ค. คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดีที่ 2.84%
b) และมี Discount 13.9% จาก NAV ของมูลค่าเงินลงทุนใน ADVANC และ THCOM จึงเชื่อว่า Downside Risk ค่อนข้างจำกัด
c) คาดการณ์เงินปันผลปี 2558 หุ้นละ 5.29 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 6.7%
d) อีกทั้ง กสทช.เตรียมหารือกับ บอร์ดดีอี ในการประชุมนัดแรกวันที่ 18 มี.ค. เกี่ยวกับความชัดเจนของแผนการประมูล 4จี หลัง คสช.สั่งระงับการประมูลออกไป 1 ปี ซึ่งจะครบกำหนดในเดือนก.ค. 2558 นี้
และ "ซื้อเก็งกำไร" ได้แก่
2. AAV : ราคาปิด 5.50 บาท ราคาเหมาะสม 6.50 บาท
a) ทิศทางราคาน้ำมันดิบที่มีแนวโน้มลดลง จากการเปิดท่าเรือ Houston ของสหรัฐฯ ทำให้การนำเข้าน้ำมันมีมากขึ้น เป็นการเพิ่มปริมาณสต็อกน้ำมันของสหรัฐฯ บวกกับการสไตค์ของพนักงานโรงกลั่น ในสหรัฐฯ ใกล้ได้ข้อสรุป จะเป็นอีกแรงกดดันของราคาน้ำมันดิบ
b) ขณะที่ AAV นับตั้งแต่ต้นปี มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากราคาน้ำมันดิบ (hedging policy) ในสัดส่วนที่ต่ำ ทำให้ได้ประโยชน์ทางตรงเต็มที่ จากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
c) บวกกับแนวโน้มจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ 4Q57 โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเป็นฐานลูกค้าต่างชาติที่สำคัญของ AAV เข้ามาท่องเที่ยวไทยทำระดับสูงสุดใหม่ในเดือนม.คง และมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง
d) คาดกำไรสุทธิปี 2558 เติบโตสูงถึง +1,149.2% yoy เป็น 2,024 ล้านบาท จากต้นทุนราคาน้ำมันอากาศยานที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากเฉลี่ย US$124.00/barrel เหลือ US$85.00/barrel ในปี 2558
e) Valuation ยังไม่สูงมากนัก หากพิจารณาจาก P/BV58 ณ ปัจจุบันซื้อขายที่ 1.38x เทียบกับ NOK ที่ 2.09x ส่วน THAI ที่ยังมีปัญหาเชิงธุรกิจและความสามารถในการทำกำไร ย่อมเหมาะสมที่จะซื้อขายในระดับต่ำเพียง 0.48x
f) นอกจากนั้น เชื่อว่าแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจของ THAI จะส่งผลให้ Supply ของอุตสาหกรรมลดลง และเป็นบวกต่อ AAV ที่มีเส้นทางบินครบวงจรทั้งในและต่างประเทศ
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 4 แต่ลดลงเหลือเพียง US$10 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$306 ล้าน
จะเห็นว่ากระแสเงินทุนต่างชาติชะลอตัวทุกตลาด
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติขายทั้ง 3 ตลาด ต่อเนื่อง แต่เน้นๆ ตราสารหนี้
นักลงทุนต่างชาติคงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 เพียง 414 ล้านบาท รวม 2 วันทำการ ขายสุทธิ 2,214 ล้านบาท เทียบกับ 5 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 4,645 ล้านบาท และ 12 วันทำการก่อนหน้าขายสุทธิมากถึง 14,759 ล้านบาท และ YTD ขายสุทธิขยับขึ้นเล็กน้อย เป็น 8,738 ล้านบาท
คงการ Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 3 ชะลอตัวเหลือ 1,500 สัญญา จากวันก่อนหน้า Short สุทธิ 1,846 สัญญา รวม 3 วันทำการ Short สุทธิ 8,925 สัญญา คาดว่าจะเป็นการเพิ่มสถานะ short ใน SET50 Index Futures มากขึ้น และผลักดันให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิ 35,515 สัญญา เมื่อ S50H15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index แคบลงเป็นวันแรกในรอบ 9 วันทำการ เท่ากับ 10.98 จุด จากวันก่อนหน้า Discount มากถึง 11.24 จุด
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้คงการขายสุทธิเป็นวันที่ 5 เร่งขึ้นเป็น 9,513 ล้านบาท รวม 5 วันทำการ ขายสุทธิ 23,006 ล้านบาท เทียบกับ 10 วันทำการ ซื้อสุทธิ 27,691 ล้านบาท เมื่อราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยขยับขึ้นแรงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 พิจารณาจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย อายุ 10 ปี ลดลงเป็นวันที่ 2 อีก 3.55bps ปิดที่ 2.704%
ทั้งนี้การขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติทั้ง 3 ตลาดเป็นวันที่ 2 หลัง กนง.ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 25bps เป็น 1.75% บวกกับค่าเงินบาทที่แข็งค่าราว 5-7 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐฯ ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายวานนี้ ทำให้นักลงทุนต่างชาติเร่งการขายตลาดตราสารหนี้ เพื่อปิดความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยน อีกทั้งนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยมาตั้งแต่ปี 2556 ทำให้ตลาดหุ้นรอบนี้ ไม่ใช่เป้าหมายของการลดน้ำหนัก เหมือนกับตลาดตราสารหนี้
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ลดลงเป็นวันที่ 2 เหลือ 730 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 1,345 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ขายสุทธิเป็นวันที่ 2 แต่ กลับสะสม ICT หนาแน่น
การซื้อขายผ่าน NVDR ขายสุทธิอีก 223 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 1,452 ล้านบาท เป็นที่น่าสนใจว่า การขายของ NVDR ยังคงเป็น Basket orders ตามน้ำหนักของกลุ่มหลักๆ ของตลาดหุ้นไทย ยกเว้น ICT ที่กลับมาสะสมอย่างหนาแน่น อาจเป็นเพราะเงินปันผล สรุปภาพ NVDR ได้ดังนี้
1. กลุ่มพลังงานโดนขายสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 5 อีก 271 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 424 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มธนาคาร ขายสุทธิ 187 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 378 ล้านบาท กลุ่มค้าปลีก ขายสุทธิ 63 ล้านบาท และกลุ่มปิโตรเคมี ขายสุทธิ 55 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่ม ICT ถูกซื้อสุทธิสูงสุดอีกครั้ง 241 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 108 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มอสังหาฯ ซื้อสุทธิ 89 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
แคมเปญการหารือเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี พรรค Republican เสนอลดภาษีขนานใหญ่: พร้อมยืนยันไม่ให้รัฐบาลขาดดุลงบประมาณมากขึ้น แต่การเสนอแผนลดภาษีขนานใหญ่ เพื่อคาดหวังกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตมากขึ้น จากการลดภาษีการลงทุน, ค่าจ้าง และรายได้ของธุรกิจ พร้อมตั้งเป้าลดการจัดเก็บภาษีให้ได้อย่างน้อย US$1.7 ล้านล้านในช่วง 10 ปีแรก ซึ่งจะเป็นบวกต่อกลุ่มผู้มีรายได้สูงสุดราว 1% ของจำนวนประชากรสหรัฐฯ ทั้งหมด
ตัวเลขเศรษฐกิจออกมาเป็นกลางถึงลบ
ยอดขอสวัสดิการว่างงาน สิ้นสุดสัปดาห์ก่อน เพิ่มขึ้น 2.89 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 3.09 แสนตำแหน่ง และสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 3.09 แสนตำแหน่ง
ยอดค้าปลีกเดือนก.พ. กลับหดตัวลง 0.6% mom สวนทางกับที่ Bloomberg consensus คาดการณ์ เพิ่มขึ้น 0.3% mom และเดือนก่อนหน้าที่หดตัว 0.8% mom โดยยอดขายรถยนต์หดตัว 2.5% mom จากเดือนก่อนหน้าที่เพิ่มขึ้น 0.5% mom หากยอดค้าปลีกไม่รวมรถยนต์ จะหดตัว 0.1% mom จากเดือนม.ค.ที่ลดลง 1.1% mom
ระดับสต็อกสินค้าภาคธุรกิจ เดือนม.ค. ทรงตัวไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่ Bloomberg consensus คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% mom กลายเป็นระดับสต็อกไม่เปลี่ยนแปลง 2 เดือนติดต่อกัน
ยุโรป
ผลผลิตโรงงานในอังกฤษหดตัวสวนทางกับที่ตลาดคาด: ผลผลิตลดลง 0.5% mom ในเดือนม.ค. จากเดือนธ.ค.ที่เพิ่มขึ้น 0.1% mom และสวนทางกับ Bloomberg consensus คาด +0.2% mom โดยการผลิตในส่วนธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์หดตัวลงแรง 9.5% mom เป็นการลดลงแรงสุดในรอบ 13 ปี ส่งผลให้ภาพรวมผลผลิตภาคอุตฯ เดือนม.ค. ลดลง 0.1% mom สวนทางกับ Bloomberg consensus คาดเพิ่มขึ้น 0.2% mom
สถานการณ์กรีซ
ECB เตรียมขยายวงเงิน ELA ให้แก่ธนาคารพาณิชย์กรีซ อีก 600 ล้านยูโร สอดคล้องกับที่ธนาคารกลางกรีซร้องขอ หลังจากวันที่ 5 มี.ค. ECB ได้ขยายวงเงินให้ไปแล้ว 500 ล้านยูโร ทั้งนี้ ECB จะมีการพิจารณาวงเงิน ELA ให้แก่ธนาคารกรีซอีกครั้งวันที่ 18 มี.ค.
จีน
ยอดสินเชื่อเดือนก.พ.เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด: ยอดสินเชื่อ ณ สิ้นเดือนก.พ. เท่ากับ 1.35 ล้านล้านหยวน สูงกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 1.02 ล้านล้านหยวน โดยเป็นสินเชื่อใหม่สกุลเงินหยวน 1.02 ล้านล้านหยวน ดีกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 7.50 แสนล้านหยวน และปริมาณเงิน M2 ที่เพิ่มขึ้น 12.5% yoy สูงกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 11.0% yoy ทั้งนี้เป็นผลจากการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายถึง 2 ครั้ง และการลด RRR
เอเชียแปซิฟิก
IMF แนะนำให้อินเดียใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวด เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ: อัตราเงินเฟ้อของอินเดียควรอยู่เหนือ 6.0% ในปีงบประมาณ 2558 เริ่มในเดือนเม.ย. 2558 ดังนั้นธนาคารกลางอินเดียควรที่จะเข้มงวดนโยบายการเงิน
อัตราการว่างงานในออสเตรเลียลดลง: อัตราการว่างงาน เดือนก.พ. เท่ากับ 6.3% ลดลงจากเดือนม.ค.ที่ 6.4% และต่ำกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 6.4% โดยมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 15,600 คน เร่งขึ้นจากเดือนม.ค.ที่จ้างงานเพิ่มขึ้น 14,600 คน อย่างไรก็ตาม อัตราการว่างงานยังอยุ่ระดับสูงกว่า 6.0% เป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกัน สะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังอ่อนแอ
กองทุนบำเหน็จบำนาญ ฟิลิปปินส์ เตรียมเพิ่มการลงทุนในหุ้น แทนตราสารหนี้: กองทุนบำเหน็จบำนาญที่ใหญ่ที่สุดในฟิลิปปินส์ The Government Service Insurance System ขนาดเงินลงทุน 8.60 แสนล้านเปโซ หรือ US$1.94 หมื่นล้าน มีแผนที่จะขอขยายเพดานการลงทุนในหุ้นเป็น 30% ของขนาดสินทรัพย์ จากปัจจุบันที่ 20% ณ ปัจจุบัน พอร์ตการลงทุนเป็นส่วนของหุ้นอยู่ราว 18.5% ของเงินลงทุนทั้งหมด ขณะที่ผลตอบแทนจากตลาดตราสารหนี้อยู่ในระดับต่ำ
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมมาเลเซียชะลอตัวลงเล็กน้อย: เพิ่มขึ้น 7.0% yoy ในเดือน ม.ค.เท่ากับที่ Bloomberg Consensus คาด แต่ลดลงจากเดือน ธ.ค.ที่ขยายตัว 7.4% yoy นำโดยภาคการผลิตที่ขยายตัว 6.5% yoy เป็นผลจากการผลิตไฟฟ้าและอุตสาหกรรมเหมืองที่ขยายตัว 6.3% yoy และ 8.3% yoy ตามลำดับ
ตัวเลขเศรษฐกิจอินเดียออกมาเป็นกลาง:
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ม.ค.ขยายตัว 2.6% yoy เร่งตัวจากเดือน ธ.ค.ที่เพิ่มขึ้น 1.7% yoy และดีกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดที่ 0.7% yoy ภาคการผลิตเพิ่มขึ้น 3.3% yoy การผลิตสินค้าทุนเพิ่มขึ้น 12.8% yoy ขณะที่สินค้าบริโภคลดลง 1.9% yoy
อัตราเงินเฟ้อเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 5.37% yoy เร่งตัวจากเดือน ม.ค. 5.11% yoy และสูงกว่าที่ Bloomberg Consensus คาด 5.21% yoy
ไทย
นายกฯ สั่งชะลอแผนเก็บภาษีที่ดิน - บ้าน: นายกฯได้สั่งการในที่ประชุมให้ชะลอเรื่องการออกกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูก สร้างออกไปก่อน โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาถึงความเหมาะสมในระยะยาว ไม่ให้กระทบต่อประชาชน เนื่องจากขณะนี้เศรษฐกิจอยู่ในช่วงชะลอตัว สถานการณ์เศรษฐกิจยังไม่ค่อยพร้อม ตอนนี้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยยัง มีภาระอยู่ อยากให้ชะลอไปก่อน ให้เป็นไปในแนวทางการศึกษาและดูว่าสิ่งต่าง ๆ ที่อาจมีการดำเนินการต้องไม่กระทบกับประชาชนในอนาคต ส่วนจะชะลอไปนานหรือไม่นั้น จะต้องดูสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโดยรวมต่อไป
นายกฯ จี้เดินหน้าโครงการรถไฟไทย - จีน: นายกฯ เปิดเผยว่ารถไฟความเร็วสูงยังอยู่ระหว่างการหารือร่วมกัน ล่าสุดทราบว่ามีภาคเอกชนไปรวมกลุ่มและสนใจจะเข้ามาเสนอร่วมลงทุนกับรัฐบาล โดยภาคเอกชนอาจจะไปกู้เงิน แต่จะไปรวมกันกี่รายนั้นขณะนี้ยังไม่ชัดเจน ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะใช้แหล่งทุนทั้งในและต่างประเทศ รูปแบบการก่อตั้งเป็นโฮลดิ้งแล้วมาเจรจารัฐบาลว่าจะลงทุนอัตราส่วนอย่างไร เช่น 30:70 หรือ 50:50 หรือรูปแบบแบ่งปันผลประโยชน์จากกรณีสัมปทาน ซึ่งคิดว่าภาคเอกชนคงต้องเร่งกำหนดรูปแบบเพื่อให้ได้ข้อสรุปชัดเจนภายในปีนี้
ผลการประชุมหารือไทย - จีน มีความคืบหน้า: พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมประชุมความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 3 ในช่วงวันที่ 10-11 มีนาคมนี้ที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดหนองคายว่าวาระเรื่องรูปแบบการลงทุนที่จะลงลึกในรายละเอียดกว่าครั้งที่ 1-2 ที่ผ่านมา อาทิ สัดส่วนเงินกู้ ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง หรือเรื่องการเดินรถเพื่อให้ได้ความชัดเจนมากที่สุดภายในเดือนมีนาคม-เมษายนนี้เพื่อนำไปสู่การร่างสัญญาต่อกัน โดยสัญญาช่วงที่ 1-2 จะแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้ และสัญญาช่วงที่ 3-4 จะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2558 นอกจากนั้น หารือเรื่องการฝึกอบรมด้านเทคโนโลยีให้สามารถรองรับเทคโนโลยีใหม่แก่ประเทศไทย
กสชท.ดันประมูล 4 จีน เข้าบอร์ดดีอี: คณะกรรมการดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ดดีอี) ชั่วคราว จะประชุมนัดแรกในวันที่ 18 มี.ค. 2558 นี้ โดย กสทช.ในฐานะเป็นหนึ่งในคณะกรรมการชุดดังกล่าวจะนำเรื่องการประมูล 4G หารือในที่ประชุมด้วย ไม่ว่าจะเป็นประเด็นการขอความชัดเจนจาก คสช. ว่าจะให้เดินหน้าประมูลคลื่นความถี่ทั้งย่าน 1800 MHz และย่าน 900 MHz ได้เมื่อไหร่ เบื้องต้น ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจต้องการให้กสทช.เข้าไปชี้แจงรายละเอียดของจดหมายที่ กสทช.สอบถามความชัดเจนในการประมูล 4G หลังจากที่คสช.สั่งให้ระงับการประมูลออกไป 1 ปีและจะครบกำหนดในเดือนก.ค. 2558 นี้
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530