- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 12 March 2015 15:29
- Hits: 1509
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selection >> ADVANC, RATCH, SCB, SCC
Stock S R Comment
ADVANC 220.00 240.00 ปันผลสูง คาดเลื่อน 4G ไม่กระทบผลประกอบการ
RATCH 58.50 62.50 โรงไฟฟ้าหงสาหนุนกำไรปี 58
SCB 170.00 187.00 laggard สุดในกลุ่มแบงก์ใหญ่
SCC 515.00 545.00 อานิสงส์น้ำมันต่ำ เร่งเติบโตขยาย M&A
The White Knight
กนง. มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามที่เราคาดไว้สู่ระดับ 1.75% โดยให้เหตุผลถึงเศรษฐกิจไทยที่ยังคงฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้ การกระตุ้นจากภาคการคลังที่ต้องใช้เวลากว่าจะเห็นผล การส่งออกที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และแรงกดดันเงินเฟ้อในระดับต่ำ
เหตุผลต่างๆเหล่านี้ล้วนเป็นเหตุผลที่เราบอกกล่าวมาตลอดในช่วงที่ผ่านมา มองการปรับลดดอกเบี้ยครั้งนี้ถือเป็น Positive surprise ต่อตลาดหุ้นผ่านปรากฏการณ์ PE expansion และ Risk appetite ของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้น ในการที่จะแสวงหาสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนมากกว่าตราสารทางการเงินที่อิงกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก
จากโมเดล Regression ของเราพบว่าการปรับลดดอกเบี้ย 0.25% นั้นจะสามารถทำให้ Forward PE ของ SET Index ขยายตัวได้ราว 0.5 เท่า หรือเทียบเคียงเท่ากับดัชนีราว 50 จุด (อิงระดับ EPS คาดการณ์ของ SET Index ล่าสุดในตลาดที่ 104.4 บาท) ดังนั้นเมื่อเรานำ 50 จุดนี้บวกกับระดับดัชนีก่อนการประกาศลดดอกเบี้ยที่ 1528 จุด ทำให้มองว่า SET Index มีโอกาสปรับตัว Sideways up ขึ้นทดสอบระดับ 1570-1580 จุดในช่วงถัดไปได้ (สำหรับสถิติการลดดอกเบี้ย 0.25% รอบที่แล้วเมื่อเดือนมีนาคมปี 2014 ปรากฏว่า Forward PE ของ SET Index ขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.26x, 0.39x, และ 1.29x และ SET Index ปรับตัวสูงขึ้น 2.4%, 1.4%, และ 7.4% ในช่วง 1, 2, และ 3 เดือนหลังจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง)
สำหรับ กระแสความกังวลที่ว่าการลดดอกเบี้ยครั้งนี้จะทำให้ Fund flow ไหลออก เรามองว่ามีความเป็นไปได้ในช่วงสั้นเนื่องจากส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างไทยกับต่างชาติจะลดลง อย่างไรก็ดีมอง Fund flow ที่จะไหลออกจากตลาดหุ้นมีจำกัด เนื่องจากปริมาณการถือครองหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ ณ ขณะนี้อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี ดังนั้นเราไม่ให้ราคากับประเด็นดังกล่าว และมองว่าปัจจัยดังกล่าวจะสามารถถูกชดเชยได้ด้วย Risk appetite ของนักลงทุนในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้น
สำหรับกลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์ยังมองไปที่กลุ่มเช่าซื้อและที่อยู่อาศัย โดย Top pick ในกลุ่มเช่าซื้อได้แก่ GL, ASK ส่วนกลุ่มที่อยู่อาศัยในระยะสั้นอาจได้รับผลกระทบเชิง Sentiment จากประเด็นข่าวการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ดังนั้นในระยะสั้นจึงแนะนำโฟกัสไปยังกลุ่มเช่าซื้อมากกว่า
ส่วนหุ้นอีกกลุ่มที่น่าจับตามองได้แก่กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่าซึ่งได้แก่กลุ่มส่งออกทั้งหมวดอิเล็กทรอนิกส์และอาหาร โดย Top pick ของเราในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ยังคงได้แก่ KCE ส่วนกลุ่มอาหารถือว่าน่าสนใจในแง่ของราคาที่ปรับตัวลงมาหนักมากในช่วงที่ผ่านมาทั้ง CPF และ TUF
กลยุทธ์การลงทุน : การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของกนง.ถือเป็น Catalyst ที่สามารถเข้ามาผลักดันดัชนีได้ในระยะสั้นผ่านปรากฏการณ์ PE expansion มอง Upside จากประเด็นดังกล่าวราว 50 จุดหรือเทียบเคียง SET Index ที่ระดับ 1570-1580 จุด แนะนำโฟกัสการลงทุนในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการลดดอกเบี้ยอาทิกลุ่มเช่าซื้อ (GL, ASK) และกลุ่มส่งออกที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทที่อ่อนค่า (KCE, CPF, TUF) ส่วนกลุ่มหุ้นใหญ่ที่เรายังคงชื่นชอบได้แก่กลุ่มธนาคารพาณิชย์ (BBL, SCB, KBANK) ซึ่งเมื่อวานนี้มีการปรับตัวขึ้นมาได้ดีพอสมควรถึงแม้จะมีการปรับลดดอกเบี้ยลง โดยเรามองว่าธนาคารขนาดใหญ่แทบไม่ได้รับผลกระทบจากการลดดอกเบี้ยในครั้งนี้ เนื่องจากจะสามารถทยอยปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากเพื่อชดเชยได้ หลังปัจจุบันสภาพคล่องของแต่ละธนาคารค่อนข้างสูง
แนวรับ 1,520 แนวต้าน 1,562
บทวิเคราะห์วันนี้ :
KCE (ซื้อเมื่ออ่อนตัว ราคาเป้าหมาย 53 บาท) โรงงานใหม่ ใหญ่และดีกว่าเดิม
หุ้นมีข่าว :
BANK: กนง.มีมติ 4 ต่อ 3 ลดดอกเบี้ย 0.25% หวังกระตุ้นศก.
Today's Event :
AYUD XD 1.50 บาท PRANDA XD 0.15 บาท UTP XD 0.10 บาท
DRACO XD 0.10 บาท PRIN XD 0.05 บาท UVAN XD 0.30 บาท
EA XD 0.02 บาท SPCG XD 0.45 บาท WORK XD 0.0444444444 บาท
KBS XD 0.15 บาท SPG XD 0.70 บาท WORK XD 2.5:1
KSL XD 0.0811111111 บาท TEAM XD 0.05 บาท NPP ลูกหุ้นเข้า 15,538,117 หุ้น
KSL XD 5:1 UNIQ XD 0.19 บาท STHAI ลูกหุ้นเข้า 2,996,720,238 หุ้น
NCH XD 0.037 บาท
นักวิเคราะห์ :
ดุลเดช บิค, CFA, FRM, CAIA (ID: 29932) E-mail: [email protected]
ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379) E-mail: [email protected]