- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 06 March 2015 17:15
- Hits: 1728
บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Outlook
SET อ่อนแอกว่าที่ควรเป็น …ขณะที่ ECB เริ่มซื้อพันธบัตร 9 มี.ค.นี้: SET อ่อนแอกว่าที่
คาดการณ์ไว้ ปิดตลาดที่ 1,553.33 จุด หรือ -0.61% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.7 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,018.12 จุด...SET อ่อนแอกว่าที่ควรเป็น แม้มีแรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่อย่าง KBANK SCB BBL เนื่องจากการปรับลดลงของ BAY (ถูกถอดออกจาก FTSE) JAS (XD ปันผลพิเศษ 1.5 บาท/หุ้น) PTT (ราคาน้ำมันกดดัน) TPIPL (กำไร 4Q14 อ่อนแอ) และ CPF (กำไร 4Q14 อ่อนแอ) ขณะที่การประชุม ECB ให้สัญญาณซื้อพันธบัตรผ่านมาตรการ QE มูลค่า EUR6 หมื่นล้าน/เดือน ตั้งแต่ 9 มี.ค.นี้
กลุ่มธนาคารขนาดใหญ่แข็งแกร่งกว่าตลาด...”ซื้อ” KBANK KTB: แม้ SET อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาในรายละเอียดแล้วจะเห็นว่าการปรับลดลงของ SET อยู่ในลักษณะการ “ปรับพอร์ต” มากกว่า “ลดพอร์ต” โดยกลุ่มหุ้นที่ยังปรับขึ้นไม่มาก และพื้นฐานแกร่ง ปันผลน่าสนใจมีแนวโน้ม “แข็งแกร่ง” กว่าตลาด แนะนำ “ซื้อ” KBANK (ได้รับผลดีจากการฟื้นตัวเศรษฐกิจ) KTB (ปันผล 3.9% ขึ้น XD 21 เม.ย.) SIRI (ปันผล 5.9% ขึ้น XD 13 มี.ค.) INTUCH (ปันผล 2.9% ขึ้น XD 31 มี.ค.)
Tactical Portfolio (1-3 months)
TNS แนะนำ AOT, BDMS, BLA, CK, ICHI, KBANK, ROBINS, SAMART, SCC และ SPALI ต่อเนื่อง
SAMART… “ซื้อ” ราคาหุ้นปรับลดลงมากเกินไป: แนะนำ “ซื้อ” SAMART ด้วยเป้าหมายพื้นฐานที่ 45 บาท และระยะสั้นมีจังหวะ Rebound เป้าหมาย 36.5/39.0 บาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) ราคาหุ้นปรับลดลงแรงกว่า 20% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนผลการดำเนินงาน 4Q14 ที่อ่อนแอ และความชัดเจนต่อการลงทุนโรงไฟฟ้าขยะที่ล่าช้า ไปแล้ว 2) คาดการณ์ผลการดำเนินงานปี 2015 กลับมาขยายตัวอีกครั้ง รวมไปถึงคาดการณ์ธุรกิจพลังงานมีความชัดเจนในช่วง 1-3 เดือนข้างหน้า โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าขยะอย่างน้อย 2 โรง 3) ประกาศจ่ายเงินปันผล 0.43 บาท/หุ้น หรือ Dividend Yield 1.2% โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 17 มี.ค.นี้ และจ่ายเงินวันที่ 19 พ.ค. 4) SAMART-W เข้าซื้อขายวันนี้เป็นวันแรก โดยประเมินราคาทางทฤษฎีเบื้องต้นที่ 8-10 บาท เป็นปัจจัยหนุนการเก็งกำไรระยะสั้น และ 5) ราคาหุ้นมีจังหวะ Rebound ในกราฟระดับนาที โดยมีเป้าหมายการฟื้นตัวระยะสั้น 36.50 บาท และถัดไปที่ 39.0 บาท
Technical
รอจังหวะ: ดัชนี SET ลงปิดต่ำลึกกว่าที่คาด ทำให้ตลาดยังคงความเป็นแนวโน้มขาลง วันนี้จึงควรรอจังหวะซื้อถ้า SET พลิกกลับขึ้นมายืนเหนือระดับ 1560-1570 จุดได้อย่างมั่นคง ส่วนนักลงทุนที่ซื้อหุ้นเข้าพอร์ตแล้วที่ระดับ 1560 จุด (เน้นหุ้นกลุ่มธนาคาร) ควรตั้งจุดตัดขายเมื่อ SET ลงลึกกว่าระดับ 1545 จุด เพราะอาจมีความเสี่ยงที่ดัชนีจะลงไปถึง 1520 จุด สำหรับวันนี้คาดว่า SET จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1545-1562 จุด ถ้าฟื้นตัวกลับไปปิดเหนือระดับ 1560 จุดได้ จะมีโอกาสเกิดสัญญาณกลับตัวขึ้นระยะสั้นด้วยรูปแบบแท่งเทียน Morning Star
หุ้นซื้อระยะสั้น: AP ดีดตัวขึ้นผ่านกรอบแนวต้านรูปแบบสามเหลี่ยม Ascending พร้อมปริมาณการซื้อขายสนับสนุนในจังหวะ Breakout มีแนวต้านแรกบริเวณ 7.40 บาท และมีเป้าหมายถัดไปที่ 7.70 บาทCWT ฟื้นตัวขึ้นหลังจากผ่านการพักตัวระยะสั้น และมีปริมาณการซื้อขายลดลงช่วงพักตัว แท่งเทียนทำรูปแบบ Bullish Engulfing เป็นสัญญาณการกลับตัวขึ้น แนวต้านแรกที่ 6.00 บาท ถัดไปที่ 6.50 บาท
TFEX Recommendation
SET50 Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Short สัญญา S50H15 ต่อจากช่วงต้นสัปดาห์ในรูปแบบ Let the profit run แม้จะปรับลดลงถึงเป้าหมายที่ 1,015 จุดไปแล้ว วานนี้ ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 1,026 จุด
Gold Futures: แนะนำ “Trading” ในกรอบ 18,500-18,900 บาท สัญญา GFG15 รอยืนยันทิศทางระยะสัปดาห์ไปก่อน ทั้งนี้แม้ ECB ยืนยันการเข้าซื้อพันธบัตรตั้งแต่ 9 มี.ค.เป็นต้นไป แต่ราคาทองคำกลับปรับลดลง US$4.7 ปิดที่ US$1,196.20/ออนซ์ จากการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินดอลลาร์ฯ
Oil Futures: แนะนำ “Trading” ในกรอบ 1,920-2,050 รอยืนยันทิศทางระยะสัปดาห์ไปก่อน โดยราคาน้ำมันดิบยังถูกกดดันจากรายงานสต็อกน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นในสหรัฐฯ
นพดล พิริยวุฒิ
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล
วิชนันท์ ธรรมบำรุง