- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 02 March 2015 17:24
- Hits: 1381
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“คาด SET ยังอยู่ในกรอบ 1550-1620 จุด”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ROJNA (จากซื้อเป็น ถือ), SEAFCO (จากซื้อเป็น Fully Valued), WHA(จากซื้อเป็น ถือ)ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ปิดลดลง 6.54 จุด ที่ 1587.01 ปัจจัยกดดันยังเป็นเรื่องภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา การเปิดประมูล 4G ที่ยังไม่แน่นอน แนวโน้มการฟื้นตัวของกำไรบจ.ในช่วง 1H58 ที่ยังไม่แข็งแกร่งมากนัก โดยเฉพาะในกลุ่มที่อิงกับอุปสงค์ในประเทศ ภาคส่งออกอ่อนแอกว่าคาด อย่างไรก็ดี สถาบันในประเทศกลับมาซื้อสุทธิ ขณะที่ต่างชาติยังคงขายสุทธิต่อในระยะสั้นปัจจัยกระตุ้นจากภายนอกเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางจีนอีก 0.25% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นการปรับลดครั้งที่ 2 ในรอบกว่า 20 ปี (ปรับลดครั้งแรกเมื่อพ.ย.57) ส่วนปัจจัยจับตาในเดือนมี.ค.58 คือ การเข้าซื้อตราสารหนี้ภาครัฐและเอกชนของ ECB ตามโครงการ QE ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เดือนมี.ค.58 ถึงก.ย.59 มูลค่าซื้อตามแผนอยู่ที่ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน ซึ่งตลาดคาดว่าสภาพคล่องที่สูงขึ้นน่าจะส่งผลดีต่อตลาดในระดับหนึ่งแม้ว่าจะมีมากเท่ากับ QE สหรัฐก็ตาม สำหรับในประเทศ วันนี้สิ้นสุดรายงานผลประกอบการปี 57 ซึ่งพบว่ากำไร 4Q57 ลดลงแรงเมื่อเทียบ YoY และQoQ ฉุดโดยผลขาดทุนในสต็อกของกลุ่มพลังงาน & ปิโตรเคมี ส่วนทั้งปี 57 กำไรสุทธิลดลงกว่า 10%YoY อย่างไรก็ตาม มีความหวังว่าปี 58 บจ.จะมีกำไรเติบโตได้ 10-12% และอาจดีกว่านี้ถ้ามีกำไรจากสต็อกในกลุ่มพลังงาน & ปิโตรเคมีเข้ามาหนุนเพิ่ม กลยุทธการลงทุน : เลือกและทยอยซื้อหุ้นพื้นฐานดีเพื่อลงทุนระยะกลาง-ยาว โดยเฉพาะจังหวะที่ราคาหุ้นอ่อนตัว หุ้นพื้นฐานแนะนำซื้อลงทุนวันนี้เป็น SIRI กำไร 4Q57 ฟื้นตัวแกร่ง แนวโน้มไปได้ดีต่อในปี 58 มี Valuation ต่ำทั้งในด้าน P/E และ P/BV รวมทั้งจ่ายปันผลสูง
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้นมากสัญญาณเป็นบวกเล็กๆ แนวต้านระยะสั้นให้ไว้ที่ 1600-1610 จุด ค่าลบควรชะลอการลงทุน การซื้อใหม่เน้นตามด้วยค่าบวกของดัชนีและราคาหุ้น การอ่อนตัวจะมีแนวรับ 1570, 1550 จุด การปรับขึ้นของ SET แล้วไม่ผ่าน High เดิม คือ 1620 จุด ให้ขายออกไปก่อน
สำหรับการ Scan หุ้นมีสัญญาณบวกทางเทคนิคและมีโอกาสทำ New high พบว่าหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ RCI, WHA, UWC, AAV หุ้นที่เข้ามาใหม่ คือPSL, SEAFCO, PTG, EPCO, MONO หุ้นที่หลุด List คือ TVD ส่วนหุ้นที่อยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take profit คือ WORK, TGCI, ANAN
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
+ ยูโรโซน : การเข้าซื้อพันธบัตรตามโครงการ QE ของ ECB จะเริ่มในเดือนมี.ค.58 นี้ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยกระตุ้นตลาดได้ แม้ว่าประสิทธิผลของQE ยูโรโซนจะไม่มากเท่ากับ QE สหรัฐก็ตาม
- สหรัฐ : GDP ประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับ 4Q57 ขยายตัวลดลงเป็น 2.2% ต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ 2.6%
+/• สหรัฐ : ความเชื่อมั่นผู้บริโภคท้ายเดือนก.พ.เพิ่มจากคาดการณ์เบื้องต้นแต่ลดลง MoM ผลสำรวจของรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐขั้นสุดท้ายของเดือนก.พ.ขยับขึ้นเป็น95.4 จากตัวเลขเบื้องต้น 93.6 แต่ต่ำกว่าระดับ 98.1 ของเดือนม.ค.
+ สหรัฐ : ตัวเลขภาคที่อยู่อาศัยออกมาดี โดยดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ปรับตัวขึ้น 1.7%MoM และ8.4%YoY แตะ 104.2 ในเดือนม.ค.58 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีครึ่ง
• จีน : PMI ภาคผลิต & บริการก.พ.58 ขยับขึ้นเล็กน้อย สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) และสหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน(CFLP) เปิดเผยว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขยับขึ้นเป็น53.9 ในเดือนก.พ.58 จากระดับ 53.7 ในเดือนม.ค.58 สำหรับ PMI ภาคการผลิตอยู่ที่ 49.9 ในเดือนก.พ. เพิ่มเล็กน้อยจาก 49.8 ในเดือนก่อนหน้า
+ จีน : ธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอีกรอบ โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะสั้น 1 ปี ปรับลงอีก 0.25%เป็น 5.35% และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลง 0.25% เป็น 2.50% ซึ่งเป็นการปรับลดลงครั้งที่ 2 หลังปรับไปครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปีช่วงเดือนพ.ย.57ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
- ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลง โดยดัชนี DJIA ลดลง 81.72 จุด หรือ -0.45%ดัชนี S&P 500 ลดลง 6.24 จุด หรือ -0.3% และดัชนี Nasdaq ลบ 24.36จุด หรือ -0.5% ซึ่งเป็นผลจากการขายทำกำไรก่อนที่ ECB จะเริ่มทำ QE ในเดือนมี.ค.58 นี้
+ สัญญาน้ำมันดิบรีบาวด์ สัญญา WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ปรับตัวขึ้น1.59 ดอลลาร์ หรือ +3.3% ปิดที่ 49.76 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ดีดขึ้น 2.53 ดอลลาร์ หรือ 4.2% ปิดที่ 62.58 ดอลลาร์/บาร์เรล เมื่อในวันศุกร์บริษัท เบเกอร์ ฮิวส์ เปิดเผยข้อมูลแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในสหรัฐที่ยังคงทำงานอยู่ลดลง 43 แห่ง มาอยู่ที่ 1,267 ณ วันที่ 27 ก.พ.58 ซึ่งลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 12 ติดต่อกัน และลดลง 502 แห่งจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
+ สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเม.ย.เพิ่มขึ้น 3.00 ดอลลาร์หรือ +0.25% ปิดที่ระดับ 1,213.10 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
• เศรษฐกิจไทยเดือนม.ค.58 : ฟื้นตัวอย่างช้าๆ โดยภาคที่มีการเติบโตดีขึ้นชัดเจน คือ ภาคท่องเที่ยว ทั้งนี้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเพิ่มขึ้น 15.9%YoY โดยหลักเป็นจีนและมาเลเซีย และจำนวนเพิ่มขึ้นดีต่อเนื่องมาในเดือนก.พ.58 เพราะเป็นช่วงเทศกาลตรุษจีนส่วนการใช้จ่ายภาคเอกชนทรงตัว เนื่องจากผู้บริโภดระมัดระวังการใช้จ่าย เพราะมีภาระหนี้ครัวเรือนสูง รวมถึงราคาสินค้าเกษตร โดยเฉพาะยางพาราที่ตกต่ำทำให้กำลังซื้อหดตัวด้วย (โดยรายได้ภาคเกษตรเดือนม.ค. -10%YoY) การลดลงของน้ำมันค้าปลีกในประเทศยังไม่ช่วยกระตุ้นการบริโภคมากนัก
ส่วนการลงทุนยังกระเตื้องไม่มาก เพราะเอกชนรอดูโครงการลงทุนภาครัฐก่อน โดยดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมม.ค.ยังหดตัว 1.3%YoYและอัตราการใช้กำลังการผลิตของภาคอุตสาหกรรมเฉลี่ยยังต่ำที่ 60.9%มูลค่าส่งออกหดตัว 2.6%YoY เป็น 17,163 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นตามอุปสงค์ในจีนที่ชะลอและมูลค่าส่งออกน้ำมัน & ปิโตรเคมีลดลงตามราคาที่ร่วงแรง ปัญหาอุปทานกู้งไม่เพียงพอ การถูกตัดสิทธิ GSP ในสินค้าที่ส่งออกไป EU
สินเชื่อขยายตัว 4.3%YoY ในเดือนม.ค.58 โดยหลักมาจากสินเชื่อสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่เติบโต ส่วนสินเชื่อธ.พ.เพิ่มขึ้นไม่มาก ส่วนที่เพิ่มเป็นสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภค แต่สินเชื่อลงทุนยังไม่เพิ่มขึ้น แต่ธ.พ.ยังมี CAR ที่แข็งแกร่ง 16.81% ในสิ้นม.ค.58 (จากขั้นต่ำที่ 8.5%)ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไป -0.41% ตามราคาพลังงานที่ลดลงแรงขณะเดียวกันราคาเนื้อสัตว์ในประเทศลดลงตามอุปทานที่เพิ่มขึ้นเงินทุนเคลื่อนย้ายม.ค.58 เป็นติดลบ 1,894 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไหลออกสุทธิต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 จากการออกไปลงทุนต่างประเทศและการขายสุทธิของต่างชาติในตราสารหนี้และตราสารทุน แต่การเข้ามาลงทุนโดยตรง (FDI) ยังเพิ่มขึ้น
กลยุทธ์การลงทุน แนะนำเป็น Selective Buy โดยเลือกหุ้นที่มีธุรกิจมั่นคง คาดว่าจะเติบโตได้ดีต่อเนื่องในปี 58-59 ซึ่ง Top Picks ของเดือนมี.ค.58 เป็น AP, AOT, INTUCH, TOP และ Dark Horse คือ SEAFCO,TH, VNG
• ธปท.แจงสภาพคล่องการเงินสูงมาก ไม่จำเป็นต้องลดดอกเบี้ยโดยธปท.ระบุว่าสภาพคล่องในระบบการเงินไทยสูงมาก เห็นได้จากในสิ้นวันธนาคารพาณิชย์จะนำเงินที่เหลือจากการปล่อยกู้และทำธุรกิจต่างๆโอนกลับมาฝากไว้ที่ธปท.วันละ 7-9 แสนล้านบาททุกวัน
• แต่...หลายฝ่ายยังผลักดันให้มีการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเนื่องจากมองว่าอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงในระดับสูงมากเกินไป (เทียบกับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปีนี้ที่ 0-1%) ซึ่งก็ต้องไปดูผลการลงมติในที่ประชุมกนง.วันที่ 20 มี.ค.58 ต่อไป
• บอร์ดตลาดหลักทรัพย์ฯอนุมัติให้มี Silent Period 1 ปี สำหรับหุ้นที่ขายให้นักลงทุนเฉพาะเจาะจง (PP) ที่ราคาต่ำกว่า 90% ของราคาตลาด ซึ่งเป็นหลักการเดียวกับหุ้น IPO ... ส่วนนี้จะทำให้การจัดสรรหุ้น PP ในราคาต่ำมากจะน้อยลงไป ซึ่งเป็นผลดีกับผู้ถือหุ้นเดิมที่ไม่ได้รับสิทธิซื้อหุ้น PP
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 [email protected]