- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 27 February 2015 16:07
- Hits: 1795
บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Outlook
SET กลับมายืนเหนือ 1,590 จุด เป็นสัญญาณ “บวก”...กลุ่มสื่อสารมีแนวโน้ม Rebound
ต่อ: แม้แรงขายทำกำไรหุ้นกลุ่มธนาคาร กดดัน SET ทำจุดต่ำสุดที่ 1,567 จุด ในช่วงระหว่างวัน แต่แรงซื้อหุ้นกลับในช่วงท้ายตลาดส่งผลให้ SET ปิดตลาด +0.27% ที่ 1,593.55 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.6 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นสุทธิ 2.86 พันล้านบาท...การกลับมายืนเหนือ 1,590 จุด ของ SET วานนี้ ถือว่าเป็นปัจจัย “บวก” ทางเทคนิค แต่ยังไม่มีสัญญาณ “ยืนยัน” จบรอบการพักฐาน ทำให้ SET มีแนวโน้มเคลื่อนไหว “ผันผวน” ต่อไป โดยหุ้นกลุ่มสื่อสารมีจังหวะ Rebound ต่อเนื่องจาก 1) รัฐบาลยังมีความพยายามให้เกิดการประมูล 4G ภายในปีนี้ 2) ADVANC-INTUCH ให้ปันผลเกือบ ~3% สำหรับการถือครอง 1 เดือนข้างหน้า 3) TRUE (ต้าน 15.4) มีแนวโน้มประกาศกำไรเติบโตแกร่ง 4Q14
“ซื้อ” กลุ่มรับเหมาฯ และ SAWAD: แนะนำ “ซื้อ” กลุ่มรับเหมาฯ โดยเฉพาะ CK SEAFCO ที่เป็นผู้ได้รับผลดีจากการลงทุนโครงการภาครัฐฯ โดยตรง (ดูรายงานกลุ่มรับเหมาฯ: “Worth to Wait” วันนี้) รวมไปถึง SAWAD ล่าสุดประกาศกำไร 4Q14 เติบโตกว่า 100% ตามคาด พร้อมประกาศจ่ายหุ้นปันผล 50 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ และแจก Warrant 25:1
Tactical Portfolio (1-3 months)
TNS แนะนำ AOT, BLA, BGH, CK, ROBINS, SAMART, SAWAD, SEAFCO, SPALI และ TUF ต่อเนื่อง
SAWAD…”ซื้อ” กำไร 4Q14 เติบโตกว่า 100% ตามคาด พร้อมแจกหุ้นปันผล และ Warrant: แนะนำ “ซื้อ” SAWAD ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 42 บาท ล่าสุดประกาศผลการดำเนินงาน 4Q14 กำไร 854 ล้านบาท +101% y-y ตามคาด พรอ้มประกาศจ่ายหุ้นปันผล 50:1 และแจก Warrant 25:1 ด้วยราคาใช้สิทธิ 60 บาท อายุ 5 ปี
CK และ SEAFCO…”ซื้อ” ปรับเป้าหมายพื้นฐานขึ้นเป็น 35 บาท และ 15 บาท ตามลำดับ: แนะนำ “ซื้อ” CK ด้วยเป้าหมายพื้นฐานใหม่ที่ 35 บาท เป็น Top Picks ในกลุ่มรับเหมาฯ เนื่องจาก 1) ได้รับผลดีจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานโดยตรงในระยะ 5 ปีข้างหน้า 2) ธุรกิจในกลุ่ม โดยเฉพาะ BMCL และ CKP มีแนวโน้มเติบโตสูง ขณะที่ Market Cap ของบริษัทลูกในปัจจุบันคิดเป็น 74% ของมูลค่าตลาดของ CK หรือหมายความว่า “ซื้อ” ธุรกิจรับเหมาฯ ในราคา 1.2 หมื่นล้านบาทเท่านั้น (12% ของ Backlog ปี 2015) และ 3) โอกาส Re-rating ของ BMCL+ BECL ในอนาคต ขณะที่ SEAFCO เป็นทางเลือกที่ “ถูก” สำหรับการลงทุน ด้วย PE2015 ที่ 14x ปีนี้ ต่ำกว่า CK-STEC ที่ 36-25x
Technical
จังหวะซื้อ: SET หลุดเส้นค่าเฉลี่ย 1 เดือนที่ระดับ 1600 จุด และหลุดกรอบสามเหลี่ยม 1590 จุดตามลำดับ ยืนยันสัญญาณขายระยะสั้นด้วยเป้าหมายขาลงอยู่ที่ 1560 จุด แต่ด้วยแรงซื้อหุ้นกลับทำให้เมื่อวานนี้ดัชนี SET ลงไปต่ำสุดเพียงแค่ 1567 จุด ฟื้นตัวที่ระดับเส้นแนวโน้มขึ้นระยะกลางกลับขึ้นมาปิดสูงกว่า 1592 จุด เกิดเป็นรูปแบบแท่งเทียน Hammer เป็นสัญญาณบวกระยะสั้นชดเชยสัญญาณลบ และเป็นจังหวะซื้อหุ้นกลับอีกครั้ง สำหรับวันนี้คาดว่าดัชนี SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1576-1602 จุด มีแนวสมดุลที่ 1585 จุด
หุ้นซื้อระยะสั้น: BMCL ฟื้นตัวขึ้นหลังจากปรับฐานลงมาและแกว่งตัวทะลุเหนือกรอบ Sideways ได้ สัญญาณจาก MACD พลิกกลับมาเป็นบวก แนวต้านแรก 2.28 บาท เป้าหมายถัดไปที่จุดสูงสุดเดิม 2.38 บาทAAV ดีดตัวขึ้นพร้อมปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น สัญญาณ DI+ เริ่มชี้ขึ้นสอดคล้องกับการเกิด Golden Cross ของเส้นค่าเฉลี่ย 7-14-21 วัน แนวต้านแรกที่จุดสูงเดิม 5.50 บาท เป้าตามกรอบแนวโน้ม 5.80 บาท
TFEX Recommendation
SET50 Futures: แนะนำ “Trading” กรอบ 1,036-1,050 จุด สัญญา S50H15 รอยืนยันทิศทางระยะสัปดาห์ โดยการ Rebound ในช่วงระหว่างวันเมื่อวานนี้ ยังไม่ทำให้สถานะ Long กลับมาดูได้เปรียบ เว้นแต่ว่าจะสามารถปรับสูงขึ้นเหนือแนวต้านที่ 1,050 จุด ถึงจะเป็นจังหวะในการ “เปิด” สถานะ Long อีกครั้ง
Gold Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Short สัญญา GFG15 ต่อเนื่อง แต่ต้องระวังการ Rebound มากขึ้นหลังเกิดสัญญาณ Rebound ในกราฟระดับวัน โดยกำหนด Trailing Stop ที่ 18,700 บาท
Oil Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Long ด้วยเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 2,050 เป็นเป้าหมายแรก หลังเกิดสัญญาณฟื้นตัวตั้งแต่เมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตามการปรับลดลงของราคาน้ำมันดิบ Brent เมื่อคืน –US$1.58 ทำให้ควรกำหนด Trailing Stop ที่ 1,960
นพดล พิริยวุฒิ
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล
วิชนันท์ ธรรมบำรุง