- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 09 June 2014 18:35
- Hits: 2825
บล.กรุงศรี : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มและปัจจัยการลงทุนวันนี้
เลือกซื้อเก็งกำไรเหนือ 1460 จุด – ต่ำกว่าขาย
SET เมื่อวันจันทร์เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ +/-8 จุดและยังสามารถทรงตัวปิดบวกได้ต่อเนื่อง โดยปิดที่ 1458.02 จุด (+4.83 จุด, +0.33%) สวนทางกับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาค กลุ่มหลักและรองปรับ ตัวขึ้นนำตลาด ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้นที่ 32.53 บาท/US$ มูลค่าการซื้อขายทรงตัวลงเหลือ 45,392 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่อง 4 วันทำการอีก 307 ล้านบาท (ต้นเดือนมิ.ย.
– ปัจจุบันซื้อสุทธิ 8,043 ล้านบาท ขณะที่กองทุนในประเทศขายทำกำไรต่อเนื่อง 3 วันทำการอีก 697 ล้านบาท
ปัจจัยการลงทุนวันนี้
ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศลดอัตราดอก เบี้ยลงสู่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ถือเป็นครั้งแรกที่ใช้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากแบบติดลบ ซึ่งหมาย ความว่ามีการคิดเงินกับธนาคารที่ฝากเงินไว้ชั่วข้ามคืนเพื่อกระตุ้นให้ธนาคารต่างๆ ไม่ต้องนำเงินมาฝากไว้กับธนาคารกลางและนำไปปล่อยกู้แก่ภาคธุรกิจรวมถึงผู้บริโภค อีซีบีปรับลดอัตราดอก เบี้ยเงินฝากลงเป็น -0.1% จาก 0% ซึ่งเป็นการคิดค่าธรรมเนียมกับธนาคารต่างๆ ที่ฝากเงินไว้ชั่วข้ามคืน ทั้งยังลดอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์เหลือ 0.15% จาก 0.25% และลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ฉุกเฉินลงเหลือ 0.40% จาก 0.75% อีซีบีได้ปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อลงด้วย โดยคาดว่าเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 0.7% ปีนี้ ซึ่งนับว่าลดลงมาจากเป้าหมายเดิม 2% สำหรับปี 58 คาดว่าเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 1.1% และเพิ่มเป็น 1.4% ในปี 59
หัวหน้า คสช. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คาดว่าจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลมีนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่เกิน 3 เดือน นับจากนี้ มีแนวคิดที่จะประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวในพื้นที่ท่องเที่ยวเพิ่มเติม (หัวหิน ชะอำ หาดใหญ่ กระบี่)
สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติเสนอให้ คสช. ยกเลิกคำสั่งกำหนดมาตรการเพื่อแก้ไขและป้อง กันการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง หรือกองทุนน้ำ มันเชื้อเพลิงที่มีขึ้นตั้งแต่ปี 2547 การยกเลิกกอง ทุนน้ำมันจะทำให้ผู้บริโภคซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงในราคาที่เป็นธรรมมากขึ้น
การประกาศลดอัตราดอกเบี้ยติดลบนั้นจะมีผลบวกต่อทุนเคลื่อนย้ายจากฝากยุโรป โดยดาวน์โจนส์และยุโรปปิดบวกเมื่อวันศุกร์ และเช้านี้ภูมิภาคปรับตัวขึ้นเกือบหมด ขณะที่เงินบาทกลับมาแข็งค่าที่ 32.41 บาท/US$ คาดว่าทุนเคลื่อนย้ายจะมีผลบวกต่อ SET ในระยะนี้ จากที่ SET ทรงตัวขึ้นในกรอบแคบตลอด 4 วันทำการผ่านมาซึ่งการปรับตัวขึ้นแสดงลักษณะอ่อนลงในเชิงโมเมนตัม เราคาดว่าวันนี้หาก SET ไม่สามารถปรับขึ้นเหนือแนวต้าน 1,460 จุดคาดว่า SETจะปรับฐานทางลงในกรอบ 1,460-1,440 จุด แนะนำขายทำกำไรสั้นไปก่อน แต่ถ้า SET ปรับขึ้นเหนือ 1,460จุด เราคาดหวังแรงดีดขึ้นเกิน (Extending Momentum) สู่ระดับ 1,475 จุด แนะนำเลือกหุ้นเก็งกำไรสั้นเช่น PTTEP, SCC, CPN, DTAC
แนวโน้มการลงทุนสำหรับระยะกลาง
คงน้ำหนักพอร์ตลงทุน ถือหุ้น 100%
คงน้ำหนักพอร์ตจำลองการลงทุนในหุ้นเป็น 100% และเงินสด 0%
Accumulate : สะสมหุ้น
Trading : เลือกซื้อเก็งกำไรเหนือ 1460 จุด ต่ำกว่า รอดู
เปรียบเทียบดัชนี
จากต้นปี-ปัจจุบัน กลุ่ม HEALTH ขึ้นมากสุดถึง 37.9% ขณะที่กลุ่ม พลังงาน ปิโตรฯ อาหาร และมีเดียส์เป็นกลุ่มที่ Laggard เมื่อเทียบกับตลาดและกลุ่มอื่น
สถานะพอร์ตจำลอง (เริ่ม 25 พ.ย. 56)
พอร์ตหุ้น 100% ถือเงินสด 0%
หลังการปรับราคา XD
ผลตอบแทนพอร์ตจำลอง (100%) = +7.8%
ผลตอบแทน SET = +7.8%
พอร์ตจำลองสุทธิ = SET
หมายเหตุ : Cash/Equity weighting เป็นการแสดงมุมมองของ KSS Research เพื่อใช้เป็นแนวทางว่าด้วยแนวโน้มระยะกลาง (3-6 เดือน) ว่าจะมีแนว โน้มเชิงบวก หรือ เชิงลบ โดยหุ้นที่แนะนำในพอร์ตจำลองเป็นหุ้นพื้นฐานที่เราประเมินว่าจะมีแนวโน้มที่ดี ไม่มีนัยสำคัญเพื่อคำแนะนำว่าควร “ซื้อ” หรือ “ขาย” หุ้นดังกล่าวในเวลาใด
Analysts :
Kasamapon Hamnilrat Registration No. 17622
Apisak Limthumrongkul Registration No. 13130