- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 25 February 2015 15:49
- Hits: 1326
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET ผันผวนแต่ทรงตัวได้ ถือเป็นการสร้างฐานเพื่อรอขึ้นต่อ!!
กลยุทธ์ : แม้ว่า SET ยังมีจังหวะแกว่งตัวผันผวน แต่ก็ถือว่ามีลักษณะแกว่งทรงตัวได้ดี ทำให้ยังสามารถลุ้นโอกาสกลับไปแกว่งตัวบวกขึ้นต่อเนื่องได้ในที่สุด ดังนั้นซื้อแล้วเรายังแนะนำให้เน้นถือไว้ก่อนดีกว่า
หุ้นเด่นทางเทคนิค : TRUE, SITHAI, KCE(buy back)
แนวโน้ม : SET กลับมาแกว่งทรงตัวด้านบวกได้อีกครั้ง หลังวันก่อนปรับตัวลงแรงพอควร ซึ่งคาดว่ามาจากแรงขายในลักษณะ sell on fact จากข่าว รมว.คลังยูโรโซนและกรีซได้บรรลุข้อตกลงในการขยายโครงการช่วยเหลือทางการเงินออกไปอีก 4 เดือน ขณะที่เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปยังเคลื่อนไหวและปิดในด้านบวกได้ ทั้งจากปัจจัยสนับสนุนในเรื่องของกรีซที่ได้รับอนุมัติแผนปฏิรูปเศรษฐกิจจากยูโรกรุ๊ปแล้ว และยังมีข่าวว่าเมื่อคืนนี้หลังการแถลงต่อสภาคองเกรสวันแรก ประธานเฟดได้ส่งสัญญาณว่าจะไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ด้วย ซึ่งช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ยังเปิดเป็นบวกได้ ขณะที่ในบ้านเราแม้ว่าจะยังมีแรงขายของนักลงทุนทั้งสถาบันในประเทศและต่างชาติกดดัน แต่ด้วยค่าเงินบาทที่ยังทรงตัวในด้านแข็งค่า ก็พอที่จะทำให้นักลงทุนยังมีความมั่นใจในทิศทางของ SET ได้อยู่ ทำให้ FSS ยังคาดว่าถ้าดัชนีปรับลงอีกก็ไม่น่าจะลึกมากนัก และยังมีลุ้นแรงซื้อกลับเข้ามาช่วยผลักดันให้มีจังหวะแกว่งบวกต่อเนื่องอีกครั้งได้ด้วย
แนวรับ 1597-1595 , 1593-1587 จุด
แนวต้าน 1602-1605 , 1608-1612 จุด
Fund Flow วานนี้ยังไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคต่อเนื่องในปริมาณที่หนาแน่นขึ้น โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไต้หวัน US$392.2 ล้าน เกาหลีใต้ US$82.6 ล้าน อินโดนีเซีย US$32.6 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$12.1 ล้าน และเวียดนาม US$5.7 ล้าน แต่ขายไทย US$16.8 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้ค่อนข้างนิ่ง Flow น่าจะไหลเข้าต่อ
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) S11 เริ่มซื้อขายวันนี้ S11 เป็นผู้ให้สินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ครอบคลุมพื้นที่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล สินเชื่อที่ปล่อยกว่า 90% เป็นยี่ห้อฮอนด้า รองลงมาเป็นยามาฮ่า คาวาซากิ และซูซูกิ บริษัทมีกำไรโตก้าวกระโดดจาก 11 ล้านบาทในปี 2011 ซึ่งเริ่มกิจการ เป็น 116 ล้านบาทในปี 2013 ในงวด 9M14 กำไรโต 38% Y-Y ตามการขยายสาขาของ Dealer เราคาดกำไรปี 2014-15 เติบโต 63% และ 40% ราคา IPO 5.30 บาทคิดเป็น PE ปีนี้ 12.2 เท่า เราประเมินราคาเป้าหมายที่ 6.65 บาท อิง PBV 2.5 เท่าและคิดเป็น PE 15 เท่า (FSS เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ของ S11)
(+) M กำไรสุทธิ 4Q14 ดีกว่าคาดมาก +25% Q-Q, +20% Y-Y เป็น 650 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีกว่าคาดและค่าใช้จ่ายน้อยกว่าคาด ส่วนยอดขายสาขาเดิมของร้าน MK และร้าน Yayoi พลิกเป็นบวกที่ 1% Y-Y และ 7% Y-Y ตามลำดับ ทำให้กำไรสุทธิทั้งปีทรงตัว ส่วนปี 2015 เรายังคงคาดกำไรโต 12% Y-Y จากกำลังซื้อที่ดีขึ้นและการเปิดสาขาใหม่อีก 62 แห่ง คงราคาเป้าหมาย 74 บาท แนะนำซื้อ
(+) VIBHA กำไร 4Q14 โดดเด่นเซอร์ไพร้ส์เรา +29% Q-Q, +30% Y-Y ทำให้กำไรทั้งปี 2014 โต 9% Y-Y เราปรับกำไรสุทธิปี 2015 ขึ้น 12% เป็น 680 ล้านบาท โต 14% Y-Y ทำสถิติสูงสุดต่อเนื่อง ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 17 บาทจาก 15.60 บาท แต่ upside ของราคาหุ้นจำกัด จึงแนะนำถือ (ปรับขึ้นจากขาย) VIBHA ประกาศปันผล 0.30 บาท/หุ้น แตกพาร์จาก 1 บาทเป็น 0.10 บาทและแจกวอร์แรนท์ในอัตราส่วน 12 : 1
(+) KTC ผู้บริหารตั้งเป้าสินเชื่อปีนี้โต 10% เน้นขยายตลาดไปในกลุ่มลูกค้าในต่างจังหวัดและลูกค้าที่เพิ่งเริ่มงานเพราะมีกำลังซื้อและจับจ่ายสูง ขณะเดียวกันก็เข้มงวดในการจัดเก็บหนี้ (ปี 2014 NPL เหลือเพียง 1.4% Coverage ratio สูงถึง 364%) เราปรับกำไรสุทธิปี 2015 ขึ้น 17% เป็น 1.99 พันล้านบาท +14% Y-Y โดยปรับสินเชื่อเป็นโต 10% เพิ่ม Spread เป็น 14.4% จาก 14% จากแผนรีไฟแนนซ์หนี้เป็นระยะสั้นมากขึ้น ปรับเป้าหมายขึ้นเป็น 116 บาทจาก 77 บาท ปรับคำแนะนำจากซื้อเก็งกำไร เป็น ซื้อ
(+) HMPRO กำไรสุทธิ 4Q14 ดีตามคาด +34% Q-Q, +11% Y-Y เป็น 1,029 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้กำไรสุทธิทั้งปีโต 8% Y-Y เรายังคาดกำไรปี 2015 โตต่อ 18% Y-Y จากการเปิดสาขาใหม่ HMPRO 7-8 แห่งและ Mega Home 2-4 แห่ง คงราคาเป้าหมายก่อน XD 10.70 บาท หลัง XD เป็น 10 บาท (ปันผลเป็นหุ้น 15 : 1)
(+) AAV จะรายงานงบการเงินเย็นนี้ เราคาด 4Q14 จะพลิกมาเป็นกำไร 409 ล้านบาท +74% Y-Y กลบผลขาดทุนใน 2Q-3Q14 ทำให้ทั้งปีมีกำไร 163 ล้านบาท เราคาดกำไรปี 2015 โตโดดเด่นเป็น 1,405 ล้านบาท +762% จากฐานต่ำปีก่อน และเป็นกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากการเติบโตของการท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวจีนที่เป็นตลาดหลักของ AAV และราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำซึ่งบริษัทได้ป้องกันความเสี่ยงโดยการ Hedge แล้ว 50% เราประเมินราคาเป้าหมายใหม่ได้ 6.50 บาท (เดิม 5.40 บาท) แนะนำซื้อ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวในแดนบวกทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์หลัง FED ส่งสัญญาณว่าจะยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็ววันนี้
ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกันหลังที่ประชุมยูโรโซนมีมติเห็นชอบให้ขยายเวลาเงินกู้กรีซออกไปอีก 4 เดือน รวมถึงตอบรับเชิงบวกต่อถ้อยคำแถลงของประธาน FED
ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวในแดนบวก แต่อย่างไรก็ตามตลาดจับตาดูตัวเลข PMI ภาคการผลิตของจีน
ค่าเงินบาทยังคงแกว่งตัวออกข้าง ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 32.50-32.58 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน มี.ค. ปิดที่ 49.28 เหรียญ/บาร์เรล ลดลง 0.17 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยตลาดยังกังวลปัจจัยด้านอุปทานที่ล้นตลาด
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ปิดที่ 1197.30 ดอลาร์/ออนซ์ ลดลง 3.50 เหรียญ/ออนซ์ แต่เช้านี้เริ่มมีการรีบาวด์กลับขึ้นได้หลังประธาน FED กล่าวว่าจะยังไม่รีบขึ้นอัตราดอกเบี้ยซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
24-25ก.พ. - สหรัฐ: การแถลงนโยบายการเงินของประธานเฟด Janet Yellen ต่อ Senate Banking Committee และ House Financial Service Committee
25 ก.พ. - ไทย: ดุลการค้า (ม.ค.), S11 เริ่มเทรด (ราคา IPO 5.30 บาท)
- จีน: HSBC China Manufacturing PMI (ก.พ.)
- ฮ่องกง: 4Q14 GDP
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านใหม่ (ม.ค.)
26 ก.พ. - สหรัฐ: คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (ม.ค.), อัตราเงินเฟ้อ (ม.ค.)
27 ก.พ. - ไทย: ดุลการค้า (ม.ค.), อัตรการใช้กำลังการผลิต (ม.ค.)
- สหรัฐ: 4Q14 GDP (ตลาดคาด +2.1% Q-Q annualized ลดลงจากคาดการณ์ครั้งก่อนที่ +2.6%), Pending home sales (ม.ค.)
1 มี.ค. - จีน: Manufacturing PMI (ก.พ.)
2 มี.ค. - ไทย: อัตราเงินเฟ้อ (ก.พ.)
- สหรัฐ: Personal Income (ม.ค.), ISM Manufacturing (ก.พ.)
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (ก.พ.)
3 มี.ค. - ไทย: BIG (เดิมชื่อ SUN) เริ่มกลับเข้ามาเทรดในกลุ่มพาณชย์ ไม่มี Ceiling & Floor
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852