- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 25 February 2015 15:48
- Hits: 1330
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Selective buy
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้เปิดฟื้นตัวและไต่ระดับขึ้นทดสอบแนว 1,600 จุด +/- ผลักดันด้วยหุ้น PTT / KBANK / SCC ซึ่งเป็นหุ้นที่ถูกขายหนาแน่นในวันก่อนหน้า ขณะที่หุ้นหลักในกลุ่ม ICT โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็น TRUE / ADVANC / JAS ช่วยดัน SET INDEX อีกด้านหนึ่ง แต่เกิดแรงขาย ณ ราคาปิด กดให้ SET INDEX หลุดแนว 1,600 จุด มาอยู่ที่ 1,598.66 จุด บวก 4.77 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 58,010 ล้านบาท
เงินทุนต่างชาติยังคงชะลอตัว แม้คงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 8 อีก 546 ล้านบาท แต่กลับมา Long สุทธิใน SET50 Index Futures 332 สัญญา และคงการซื้อตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 4 อีก 2,036 ล้านบาท สะท้อนมุมมองของต่างชาติต่อการลงทุนในไทยเป็นกลาง
ปัจจัยสำคัญวันนี้
•ติดตามการให้ความเห็นด้านเศรษฐกิจของประธานเฟด ต่อ สภาคองเกรส คืนนี้เป็นวันสุดท้าย
•กรีซเสนอแผนปฎิรูปการคลังต่อ รมว.คลัง อียูแล้ว ณ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณา
•ติดตามการประชุม ครม. เศรษฐกิจวันนี้ ต่อการพิจารณาร่างกฎหมายด้านภาษี งบลงทุนก่อสร้างถนน รวม 5.0 หมื่นล้านบาท
•ติดตามตัวเลขการส่งออก – นำเข้าเดือนม.ค. กระทรวงพาณิชย์
•ตลาดหุ้นทุกตลาดในเอเชียเปิดทำการ
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองเป็น “กลางถึงบวก” เป็นวันที่ 3 พร้อมประเมินภาพ SET INDEX แกว่งขึ้นทดสอบ 1,605-1,610 จุด ผลักดันด้วยกลุ่มธนาคาร / ICT ที่มีความเด่นด้วยปันผลงวดปี 2557 หรือ 2H57 ขณะที่ Downside risk ของตลาดหุ้นไทยเป็นไปอย่างจำกัดในช่วงนี้จนถึงเดือนมี.ค. ที่มีตัวช่วยคือ โครงการ QE ของ ECB วงเงิน 6.0 หมื่นล้านยูโร/เดือน
เราให้น้ำหนักกับความเห็นด้านเศรษฐกิจสหรัฐฯ ของประธานเฟด Janet Yellen ต่อสภาคองเกรส เพื่อประเมินถึงโอกาส / น้ำหนัก ที่เฟดจะตัดสินใจขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ในช่วงกลางปีนี้ หรือไม่ เพราะถือเป็นปัจจัยเสี่ยงต่างประเทศที่สำคัญในปีนี้ และเป็นที่จับตามองของนักลงทุนในตลาดตราสารหนี้ และ ตลาดทุนทั่วโลก แต่ที่แน่นอน ประธานเฟดส่งสัญญาณคงอัตราดอกเบี้ยต่ำเช่นนี้ต่อไปอีกในการประชุม 2 ครั้งหน้า
ด้านตัวเลขการส่งออก – นำเข้า เดือนม.ค.ของไทย ประกาศในวันนี้ Bloomberg consensus คาดส่งออกไทยจะขยายตัว 1.90% yoy จากเดือนธ.ค.ที่ +1.9% yoy ส่วนการนำเข้าคาดหดตัว 11.20% yoy เร่งตัวขึ้นจากเดือนธ.ค.ที่ลดลง 8.74% yoy
ตลาด Nikkei (7.20 น.) เปิดลบ จากแรงกดดันของค่าเงินเยนที่แข็งค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ Kospi เปิดบวกเด่น สอดคล้องกับ DJIA คืนวานนี้
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ “นักลงทุนที่ทยอยสะสมหุ้นเป้าหมายไปบ้างแล้วใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ควรถือเพื่อรอขายทำกำไรบริเวณ 1,620 จุด +/- หรือผลตอบแทนจากการลงทุนระยะสั้นราว 5-10% เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจขายทำกำไรรอบสั้น”
Portfolio Top Pick in 1Q15: ADVANC / BJCHI / ITD / KTB
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ KTB/ TTA/ ADVANC/ MONO / TASCO/ WHA
Accumulative Buy: KTB
Speculative Buy: ANAN
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “ทยอยสะสม” ได้แก่
1.KTB : ราคาปิด 23.20 บาท ราคาเหมาะสม 27.00 บาท
a)MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มธนาคารจะ Outperform ตลาดในวันนี้ จากกระแสเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นเอเซีย หลังประธานเฟดแถลงว่าจะยังคงใช้นโยบายทางการเงินแบบยืดหยุ่น และจะยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยไปอีกอย่างน้อย 2 รอบการประชุมในเดือน มี.ค. และ เม.ย.
b)ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในอัตราสูง โดยคาดว่า KTB จะประกาศเงินปันผลปี 2557 ในสัปดาห์นี้หุ้นละ 0.90 บาท คิดเป็น Dividend Yield 3.9%
c)คาดสินเชื่อปี 2558 เติบโต +8% yoy จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ผลักดันให้สินเชื่อรายย่อย และ SME ขยายตัว นอกจากนั้น KTB ยังได้ประโยชน์โดยตรงจากการปล่อยกู้สินเชื่อโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐฯ ที่จะเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากในปีนี้
d)Coverage Ratio อยู่ในระดับสูงที่ 127% สิ้นสุด 4Q57 จาก 108% ใน 3Q57 จากการตั้งสำรองพิเศษจำนวนมากในปี 2557 ที่ผ่านมา
e)คาดกำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +9.2% yoy เป็น 3.62 หมื่นล้านบาท และซื้อขายระดับ PBV 2558 เพียง 1.3x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารที่ PBV 1.5x และหุ้นในกลุ่ม ได้แก่ BAY 2.9x, KBANK 1.8x, SCB 1.9x และ TMB 1.7x
และ “ซื้อเก็งกำไร” ได้แก่
2.ANAN : ราคาปิด 3.82 บาท ราคาเหมาะสม 4.60 บาท
a)ANAN จะรายงานผลประกอบการ 4Q57 ในวันนี้ โดยคาดว่าผลประกอบการ 4Q57 จะขยายตัวโดดเด่นเติบโต +100% qoq ที่ 450 ล้านบาท +/- จากการบันทึกรายได้ของโครงการ Ideo สาทร – ท่าพระ และ Elio Del Ray
b)และเชื่อว่าหากการควบคุมค่าใช้จ่าย และอัตรากำไรขั้นต้นทำได้ดีต่อเนื่องใน 4Q57 อาจส่งผลให้กำไรสุทธิ 4Q57 ออกมาดีกว่าคาดการณ์และเป็น Positive Surprise ให้กับตลาดได้เช่นกัน
c)ตั้งเป้า Presales ปี 2558 ที่ 23,000 ล้านบาท เติบโต +14% yoy จากการเปิดตัวโครงการใหม่ 12 โครงการรวม 28,500 – 29,500 ล้านบาท ซึ่งจะเป็น Catalyst ต่อราคาหุ้นได้ หากการเปิดขายได้รับการตอบรับเชิงบวกจากตลาด และเราประเมินว่ามีความเป็นไปได้สูง เนื่องจากจุดเด่นของ ANAN อยู่ที่ทำเลโครงการ, ภาพลักษณ์ และมีกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจน
d)ราคาหุ้นปัจจุบัน PER 2558 ที่ 11.3 เท่า และจะลดลงเหลือ 8.5 เท่าในปี 2559 เนื่องจากมี Backlog รอรับรู้รายได้ในปี 2558 ราว 4.7 พันล้านบาท และเพิ่มขึ้นสูงถึง 9.7 พันล้านบาท และ 8.3 พันล้านบาท ในปี 2559 และ 2560 ตามลำดับ ช่วยสนับสนุนการเติบโตของกำไรให้ขยายตัวโดดเด่นในปี 2559 – 2560
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 3 อีก US$111 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$68 ล้าน
ตลาดหุ้น วานนี้(US$ ล้าน) วันก่อนหน้า(US$ ล้าน) YTD(US$ ล้าน) 2557(US$ ล้าน) 2556(US$ ล้าน)
TAIEX Closed Closed 4,599.7 13,190.4 9,188.0
KOSPI 82.6 n.a -341.5 6,165.50 4,875.1
JSE 32.6 55.1 674.3 3,750.60 -1,806.4
PSE 12.1 14.1 874.5 1,256.1 678.4
ตลาดหุ้นเวียดนาม Closed Closed 40.2 135.6 263.2
SET INDEX -16.8 -1.3 -65.7 -1,091.4 -6,210.5
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติเลือกที่จะพักเงินในตลาดตราสารหนี้
วานนี้ วันก่อนหน้า
ตลาดหุ้น (ล้านบาท) -546 -44
SET50 Index Futures (สัญญา) +332 -24
SSF (สัญญา) +2,910 +226
Metal Futures (สัญญา) +128 -491
ตลาดตราสารหนี้ (ล้านบาท) +2,036 +829
นักลงทุนต่างชาติ คงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 8 อีก 546 ล้านบาท รวม 8 วันทำการ ขายสุทธิ 5,800 ล้านบาท และ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิ 2,237 ล้านบาท
แต่ SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Long สุทธิอีกครั้ง 332 สัญญา คาดเป็นการเปิดสถานะ Long ใน SET50 Index Futures อีกครั้ง เมื่อ S50H15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index กว้างขึ้นเป็น 4.71 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 3.63 จุด
ทั้งนี้นักลงทุนกลุ่มนี้นำเงินสดเข้าพักที่ตลาดตราสารหนี้ ด้วยการซื้อสุทธิเป็นวันที่ 4 อีก 2,036 ล้านบาท รวม 4 วันทำการ ซื้อสุทธิ 3,101 ล้านบาท กดให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยลดลง อายุ 10 ปี ผลตอบแทนลดลงเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 0.17bps ปิดที่ 2.7918%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ขยับขึ้นเป็น 724 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 434 ล้านบาท
Stock Total Value(mn Bt) % of trading Volume Avg.Price(Bt)
SCC 72.73 9.40% 532.82
ADVANC 66.74 5.24% 237.19
KBANK 59.08 4.51% 221.10
AOT 53.28 9.99% 307.99
JAS 52.08 1.30% 9.02
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 เน้นใน 3 กลุ่มหลัก
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิเร่งขึ้นเป็น 1,124 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 303 ล้านบาท เน้นการสะสมกลุ่มอาหาร, พลังงาน และอสังหาฯ อย่างโดดเด่น สรุปภาพการลงทุนของ NVDR ได้ดังนี้
1.กลุ่มอาหาร ถูกซื้อสุทธิสูงสุด 316 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มพลังงาน ซื้อสุทธิ 271 ล้านบาท กลุ่มอสังหาฯ ซื้อสุทธิ 222 ล้านบาท และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ซื้อสุทธิ 130 ล้านบาท
2.ด้านกลุ่ม ICT ถูกขายสุทธิสูงสุด แต่ก็เพียง 47 ล้านบาท
ซื้อสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการซื้อขาย ขายสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการขาย
CPF 339.97 15.45 INTUCH -181.20 43.92
ADVANC 225.63 16.55 BBL -71.20 28.72
PTT 120.95 19.16 DTAC -59.87 15.99
SCC 119.26 44.38 ITD -59.69 12.52
LH 102.91 33.62 HEMRAJ -36.50 25.99
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Assistant Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong