- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 09 June 2014 18:24
- Hits: 2835
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today's Selection : AOT, MAJOR, SINGER, MACO
Follow Buy : -
Follow Sell : -
Sideway up แรงกดดันการเมืองลดลง
ตลาดหุ้นยุโรปและตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานของสหรัฐฯเดือน พ.ค. ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ โดยตัวเลขการจ้างงานเพิ่มขึ้น 215,000 ตำแหน่ง ทำระดับสูงกว่า 200,000 ตำแหน่งติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวอยู่ที่ระดับ 6.3%
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ คาด Sideway up ขึ้นไปทดสอบที่บริเวณ 1465-1470 จุด ด้วยปัจจัยบวกภายใน หลัง คสช. ยกเลิกเคอร์ฟิวเพิ่มเติมในเขตท่องเที่ยว เช่น เกาะช้าง อ.หาดใหญ่ และเกาะพะงัน ซึ่งคาดว่าเป็นปัจจัยบวกโดยตรงต่อกลุ่มท่องเที่ยว เช่น CENTEL, AAV, NOK, AOT ขณะที่สถานการณ์การเมืองไทยเริ่มคลี่คลายลงเรื่อยๆ โดยเรามองว่าความมั่นใจการลงทุนในไทยของต่างชาติจะฟื้นตัวดี นอกจากนี้ วันนี้จะมีการหารือโครงการบริหารจัดการน้ำใหม่ทั้งหมด มูลค่า 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งหากมีความคืบหน้า คาดว่าจะเป็นผลดีต่อ ITD และ LOXLEY ทั้งนี้ เราคาดว่าประเด็นสำคัญสุดที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ได้แก่ การปรับปรุงโครงการพลังงาน เช่น ราคา LPG ดีเซล เบนซิน ซึ่งคาดว่าหุ้นกลุ่ม PTT จะยังคง underperform ตลาด จนกว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ปัจจัยหลักที่ส่งผลบวกต่อตลาดในระยะยาว ยังคงเป็น roadmap กระตุ้นเศรษฐกิจที่ทยอยออกมา เช่น การส่งเสริมการลงทุน การปรับปรุงโครงสร้างภาษี ซึ่งกลุ่มหุ้นที่ยังสามารถปรับตัวขึ้นต่อ ได้แก่ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ท่องเที่ยว นิคมฯ และการเงิน
คาดตัวเลขส่งออก-นำเข้าจีน สร้างความกังวลเชิง Sentiment ต่อการลงทุนในตลาดภูมิภาค หลังตัวเลขส่งออกจีนเดือน พ.ค. ขยายตัวมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ 7% แต่ตัวเลขนำเข้าหดตัว ซึ่งถือว่าเป็น negative surprise ต่อตลาด อาจส่งผลให้ราคา commodities เช่น ปิโตรเคมี ถ่านหิน สินแร่ ผันผวนได้ในระยะสั้น
กลยุทธ์การลงทุน: คาด SET Index ปรับตัว Sideways up ต่อไป โดยยังคงมองปัจจัยสนับสนุนหลักได้แก่ Fund Flow ที่เตรียมไหลเข้าจากปรากฏการณ์ EUR carry trade และคาดการณ์การทำ QE ของ ECB ในช่วงถัดไป ยังคงระดับเป้าหมายเดิมที่ 1480-1500 จุด และแนะนำให้เริ่มหันมา Switch การลงทุนเข้าสู่หุ้นกลุ่มขนาดใหญ่มากขึ้นโดยเฉพาะธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากน่าจะเป็นเป้าหมายหลักของ Fund Flow และการทำ Window dressing ในช่วงถัดไป
Stock S R Comment
AOT 193.00 198.50 เริ่มประกาศยกเลิกเคอร์ฟิลบางพื้นที่
MAJOR 17.70 19.10 พระนเรศวรหนุนรายได้ 2Q57
SINGER 20.60 21.40 กำลังซื้อดีขึ้น หนุนธุรกิจฟื้นตัว
MACO 11.50 13.00 VGI เข้าถือหุ้นหนุนการเติบโตระยะยาว
แนวรับ 1,438 แนวต้าน 1,470
หุ้นมีข่าว :
IFEC ศึกษาโรงไฟฟ้าขยะ: โดยบริษัทลงนามบันทึกข้อตกลงกับเทศบาลกรุงพนมเปญ เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ รูปแบบ และแผนการลงทุนในการบริหารจัดการขยะในกรุงพนมเปญและการแปรรูปขยะดังกล่าว เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้าต่อไป ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาในการศึกษา วางแผน ราว 6-12 เดือน จึงจะได้ข้อสรุป (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 6.15 บาท)
SPCG เพิ่มทุน 83.99 ล้านหุ้น ขายให้ "กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GED) " ราคาหุ้นละ 21.93 บาท: ซึ่งจะรับเงินสดเข้ามาทันที 1.8 พันล้านบาท ดังกล่าว เพื่อนำเงินมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และเพื่อการขยายโอกาสทางธุรกิจพลังงานทดแทนในอนาคต โดยปีนี้จะมีการลงทุนในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาโรงไฟฟ้าทั้งขนาด 30 MW 50 MW และ 100 MW คาดว่าจะสรุปได้ภายในปีนี้ ทั้งนี้ เรามองว่าการได้ partner ใหม่อย่าง GED สามารถสร้าง synergy benefit ระหว่างกันในระยะยาว นอกจากนี้ ประเมิน dilution effect บนราคาหุ้นไว้ที่ 1.7% จากราคาปัจจุบัน (ถือ ราคาเป้าหมาย 23.40 บาท)
PTTEP ออกหุ้นกู้ 19,600ล้าน: จำนวน 2 ชุด โดยชุดที่ 1 มีอายุ 5 ปี ที่อัตราดอกเบี้ย 3.91% มูลค่า 8.2 พันล้านบาท และชุดที่ 2 อายุ 15 ปี ทีอัตราดอกเบี้ย 1.14 หมื่นล้านบาท เพื่อไปใช้พัฒนาโครงการสำรวจและการผลิต รวมถึงรองรับการลงทุนในอนาคต ทั้งนี้ เรามองว่าผลประกอบการ 2Q57F อ่อนตัวเล็กน้อยหลังแหล่ง JDA ปิดซ่อมบำรุง 28 วัน ขณะที่ได้แรงหนุนจากแหล่งผลิตหลัก เช่น เวียดนาม 16-1 โครงการ S1 ทั้งนี้ เรามองว่า PTTEP เป็นอีกหนึ่งในกลุ่มพลังงานที่คาดว่าได้รับผลกระทบน้อยจากการกระแสการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพลังงาน(ซื้อ ราคาเป้าหมาย 183 บาท)
Analysts :
ดุลเดช บิค, CFA, FRM, CAIA (ID: 29932)
E-mail: [email protected]
ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]