- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 24 February 2015 13:56
- Hits: 1594
บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Outlook
กลุ่มพลังงานกดดัน SET...ขณะที่ตลาดหุ้นโลกรอถ้อยแถลงประธาน Fed วันที่ 24-25 ก.พ.นี้: SET อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้ จากแรงขายกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่อย่าง PTT SCC AOT KBANK ส่งผล SET ปรับลดลง 0.60% ปิดที่ 1,593.89 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นสุทธิ 44 ล้านบาท...สำหรับแนวโน้ม SET วันนี้ คาดเคลื่อนไหว Sideways รอความชัดเจนจาก 1) กรีซเลื่อนส่งแผนรัดเข็มขัดเป็นวันอังคารนี้ รอ EU เห็นชอบเพื่อให้เงินช่วยเหลือต่อ 2) ถ้อยแถลงนโยบายการเงินของประธาน Fed ต่อสภาคองเกรสวันที่ 24-25 ก.พ.นี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานมีแนวโน้มถูกกดดันจากการปรับลดลงของราคาน้ำมันดิบ Brent เมื่อคืนนี้ (เป็นปัจจัยบวกต่อสายการบิน AAV NOK BA)
“ซื้อ” ROBINS…เป้าหมายระยะสั้นที่ 50 บาท: กลยุทธ์หลักแนะนำ “Selective” กลุ่มหุ้นใน Tactical Portfolio ต่อเนื่อง และแนะนำ “ซื้อ” ROBINS จาก 1) ผลการดำเนินงาน 4Q14 ดีกว่าคาดการณ์ 2) การเปิดสาขารูปแบบ Lifestyle Center เพิ่มขึ้น 5 สาขาในปี 2014 และ 3 สาขา/ปี
ในช่วง 2015-17 หนุนรายได้ค่าเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้น และ 3) ยอดขายต่อสาขาเดิมกลับมาเติบโต 4.0% y-y อีกครั้งในปี 2015 จาก -5.8% ในปี 2014
Tactical Portfolio (1-3 months)
TNS แนะนำ AOT, BLA, BGH, CK SAMART, SAWAD, SEAFCO, SPALI และ TUF ต่อเนื่อง ขณะที่แนะนำ “ขาย” RS (แนะนำ “ซื้อ” ในทางพื้นฐานด้วยเป้าหมาย 25 บาท) และ “ซื้อ” ROBINS เข้ามาแทน จากแนวโน้มการ Turnaround ของกำไรในปี 2015 เป็น 2.35 พันล้านบาท หรือ +22% y-y
ROBINS…”ซื้อ” รายได้ค่าเช่าแข็งแกร่ง ขณะที่ Same Store Sale มีแนวโน้มกลับมาเติบโตอีกครั้ง: แนะนำ “ซื้อ” ROBINS ด้วยเป้าหมายพื้นฐานที่ 58 บาท และระยะสั้นที่ 50 บาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) ผลการดำเนินงาน 4Q14 ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ที่ 600 ล้านบาท +13% y-y และ +69% q-q จากรายได้ค่าเช่าที่ออกมาดีกว่าคาด 2) รายได้ค่าเช่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในอนาคตจากการเพิ่ม Lifestyle Center เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ 11 สาขา เป็น 20 สาขาในปี 2017 หนุนรายได้ค่าเช่าเพิ่มเป็น 3.3 พันล้านบาท (48% ของ EBITDA) จากปัจจุบันที่ 1.8 พันล้านบาท 3) ยอดขายต่อสาขาเดิมมีแนวโน้มกลับมาขยายตัว 4.0% y-y ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจปีนี้ 4) Valuation PE2015 ที่ 22.6x ต่ำเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มค้าปลีก (MC ต่ำที่สุดที่ PE 15.1x) ที่มีค่าเฉลี่ย 26.7x และ 5) เกิดสัญญาณ “กลับตัว” ทางเทคนิค ด้วยเป้าหมายระยะสั้นที่ 50 บาท และถัดไปที่ 52 บาท
Technical
เลือกซื้อหุ้นรายตัว : ดัชนี SET ถอยลงปิดต่ำสุดของวันส่งสัญญาณลบด้วยการปิดต่ำกว่า 1600 จุด หลุดแนวรับลงไปปิดอยู่ใต้แนวเส้นค่าเฉลี่ย 7-14-21 วัน ระมัดระวังความเสี่ยงระยะสั้นที่อาจเกิดขึ้นแทนที่ SET จะขึ้นข้างบนทะลุกรอบ 1620 จุด แต่ถ้าปรับตัวลงต่อเนื่องต่ำกว่า 1588-90 จุด จะเป็นเงื่อนไขให้เกิดจังหวะขายลดพอร์ตระยะสั้นจากการที่ดัชนีหลุดกรอบสามเหลี่ยมลงมาเป็นสัญญาณขายเพื่อลดความเสี่ยง ที่ตลาดจะพลิกลงไปสู่เป้าหมาย 1560 จุด สำหรับวันนี้คาดว่าดัชนี SET จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1588-1605 จุด
หุ้นซื้อระยะสั้น: MAJOR ทะลุกรอบสามเหลี่ยมปิดที่จุดสูงสุดของวัน สอดคล้องกับเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นที่เรียงตัวกันตามแนวโน้มขึ้นมีโอกาสทดสอบแนวต้านจุดสูงเดิม 31.00 บาท ถัดไปที่ 31.50 และ 33 บาท TFD ฟื้นขึ้นเหนือกรอบสามเหลี่ยม กลับมาเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 3 เดือน พร้อมปริมาณการซื้อขายโดดเด่นสนับสนุน มีสัญญาณซื้อจากเครื่องมือ DI มีแนวต้านแรกที่ 4.80 บาท และมีเป้าหมายสำคัญที่ 5.00 บาท
TFEX Recommendation
SET50 Futures: แนะนำ “Trading” กรอบ 1,038-1,050 จุด สัญญา S50H15 รอยืนยันทิศทางระยะสัปดาห์ โดย S50H15 อ่อนแอกว่าที่เราคาดการณ์ไว้มากเนื่องจากแรงขายทำกำไรกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่อย่าง PTT SCC KBANK แม้ EU ใกล้บรรลุแผนช่วยเหลือกรีซแล้วก็ตาม
Gold Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Short สัญญา GFG15 แต่แนะนำให้ปิดสถานะ Short ทันทีในกรณีที่ GFG15 ทะลุ 18,850 บาท ซึ่งจะทำให้สถานะ Long กลับมาได้เปรียบระยะสั้น ด้วยเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 19,100-19,200 บาท
Oil Futures: แนะนำ “Trading” ในกรอบ 1,860-2,220 รอยืนยันทิศทางระยะสัปดาห์ไปก่อน ล่าสุดราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง US$1.32/bbl จากความกังวลต่อแนวโน้มอุปทานน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับสูง
KALVALEE THONGSOMAUNG 662 – 617 4900
[email protected]