WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

Market Outlook
  SET ปรับสูงขึ้นทดสอบ 1,620 จุด...กรีซรับเงินช่วยเหลือต่ออีก 4 เดือน ขณะที่ ECB เริ่มซื้อพันธบัตร มี.ค.นี้: SET เคลื่อนไหวกรอบแคบรอความชัดเจนการเจรจาแก้ไขปัญหาหนี้กรีซ ปิดตลาดปรับสูงขึ้น +0.22% ที่ 1,603.45 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.1 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นสุทธิ 591 ล้านบาท...ทั้งนี้การให้เงินช่วยเหลือกรีซต่อไปอีก 4 เดือน รวมไปถึงสภาพคล่องจาก ECB ผ่านมาตรการ QE มูลค่า EUR6 หมื่นล้าน/เดือน เป็นปัจจัยหนุน SET ปรับสูงขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,620 จุด ระยะสั้น และคงเป้าหมายระยะสัปดาห์ที่ 1,650/1,700 จุด ต่อไป ขณะที่ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดหุ้นโลกสัปดาห์นี้ได้แก่ถ้อยแถลงประธาน Fed ต่อสภาคองเกรซ วันที่ 24 ก.พ.นี้เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ และนโยบายการเงิน
  “ซื้อ” กลุ่มหุ้นขนาดใหญ่รับมาตรการ QE: กลยุทธ์หลัก เน้น Selective กลุ่มหุ้นใน Tactical Portfolio ต่อไป ขณะที่แนะนำ “ซื้อ” หุ้นใหญ่พื้นฐานดีต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ก่อน อย่าง KBANK KTB SCC (ต้าน 540/564 บาท) AOT (พื้นฐานใหม่ 380 บาท) รวมไปถึงกลุ่มหุ้น Dividend Yield สูงอย่าง SIRI TISCO INTUCH และ BANPU (ราคาถ่านหิน BJI ปรับสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 4 ขณะที่โรงไฟฟ้าหงสาเริ่มผลิตไฟฟ้ากลางปีนี้)

Tactical Portfolio (1-3 months)
  TNS แนะนำ AOT, BLA, BGH, CK, RS, SAMART, SAWAD, SEAFCO, SPALI และ TUF ต่อเนื่อง
  TACTICAL Portfolio: Tactical Portfolio ให้อัตราผลตอบแทน -0.44% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (16-20 ก.พ.2015) ขณะที่ SET ให้อัตราผลตอบแทน -0.77% หรือมีอัตราผลตอบแทนสูงกว่า SET อยู่ 0.33% ทั้งนี้ SAWAD (ปรับเป้าหมายพื้นฐานขึ้นเป็น 42.0 บาท) และ BGH ให้อัตราผลตอบแทนดีที่สุดใน Tactical Portfolio หรือ +8.5% และ +2.4% ตามลำดับ ขณะที่ SEAFCO และ TUF ให้อัตราผลตอบแทนต่ำที่สุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา หรือ -5.2% และ -4.3%...ทั้งนี้ TACTICAL Portfolio ให้อัตราผลตอบแทน 17.1% ตั้งแต่ต้นปี 2015 และ 87.7% ตั้งแต่เริ่มจัดตั้งขึ้นมาเมื่อวันที่ 13 ม.ค.14 ขณะที่ SET ให้อัตราผลตอบแทน 7.1% ตั้งแต่ต้นปี 2015 และ 26.9% ตั้งแต่ 13
ม.ค.14
  AOT…”ซื้อ” เป้าหมายพื้นฐานใหม่ 380 บาท: แนะนำ “ซื้อ” AOT ด้วยเป้าหมายพื้นฐานใหม่ที่ 380 เนื่องจากปรับประมาณการกำไรขึ้น 0.8-6.4% ช่วงปี 2015-17 จากการปรับสมมติฐานการเติบโตผู้โดยสารขึ้นเป็น +9.3-19.8% ในปี 2015-17 และ ปรับขึ้นรายได้ค่าสัมปทานสนามบินดอนเมือง Terminal 2 เป็น 1.3 พันล้านบาทในปี 2016 (ดูต่อหน้า Tactical Portfolio)

Technical
  เลือกซื้อหุ้นรายตัว : ดัชนี SET ประคองตัวไม่หลุดแนวเส้นค่าเฉลี่ย 1 เดือนบริเวณ 1600 จุด
ซึ่งพบว่าในระยะ 1 เดือนนี้แรงซื้อแผ่วลง ในขณะที่หุ้นขนาดใหญ่ถูกจังหวะขายกดดันบริเวณ 1620 จุด ทำให้ดัชนี SET ไม่สามารถขึ้นไปทำยอดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 1650 จุด อย่างที่คาด อย่างไรก็ดีการทะลุผ่าน 1650 จุดได้จะเป็นเงื่อนไขใหม่ที่สำคัญที่อาจเกิดแนวโน้มหลักขาขึ้นครั้งใหม่ สำหรับสัปดาห์นี้คาดว่าดัชนี SET จะแกว่งตัวในกรอบสามเหลี่ยมย่อยขาขึ้น ระหว่าง 1600-1620
  หุ้นซื้อระยะสั้น: BGH แกว่งตัวในกรอบแนวโน้มขาขึ้น แท่งเทียนทำรูปแบบ Horizontal Flag พร้อมปริมาณการซื้อขายที่สูงขึ้นในช่วง Breakout เป็นจังหวะเก็งกำไรต่อเนื่อง แนวต้านระยะสั้นที่ 21.50 บาท และเป้าหมายตามรูปแบบและกรอบแนวโน้มที่บริเวณ 22.50 บาท EE แกว่งขึ้นหลังจาก Throwback ลงไปทดสอบกรอบแนวโน้ม Downtrend Line ที่ Breakout ขึ้นมาได้ แท่งเทียนทำรูปแบบ White Closing Marubozu มีแนวต้านแรกที่ 1.55 บาท ถัดไปที่ 1.62 บาท

TFEX Recommendation
  SET50 Futures: แนะนำ “เปิด” สถานะ Long สัญญา S50H15 คาดการต่ออายุเงินช่วยเหลือกรีซอีก 4 เดือน รวมไปถึงการเก็งกำไรสภาพคล่องจากมาตรการ QE ของ ECB จะทำให้สถานะ Long กลับมาได้เปรียบอีกครั้ง ด้วยเป้าหมาย 1,070/1,076 จุด ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 1,048 จุด
  Gold Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Short สัญญา GFG15 แต่แนะนำให้ปิดสถานะ Short ทันทีในกรณีที่ GFG15 ทะลุ 18,850 บาท ซึ่งจะทำให้สถานะ Long กลับมาได้เปรียบระยะสั้น ด้วยเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 19,100-19,200 บาท
  Oil Futures: แนะนำ “Trading” ในกรอบ 1,860-2,220 รอยืนยันทิศทางระยะสัปดาห์ไปก่อน ล่าสุดราคาน้ำมันดิบ Brent เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ รอถ้อยแถลงประธาน Fed กลางสัปดาห์

Thai Strategy Team
นพดล พิริยวุฒิ
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!