- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 23 February 2015 15:56
- Hits: 1295
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Selective buy
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวันศุกร์แกว่งในกรอบแคบเช่นเดียวกันวันก่อนหน้า แต่เป็นการยืนเหนือ 1,600 จุดได้ตลอดชั่วโมงการซื้อขาย หุ้นขนาดใหญ่ที่ปรับตัวขึ้นเด่นได้แก่ AOT / BGH ขณะที่หุ้นขนาดกลางและเล็กที่มีประเด็นเด่นเฉพาะตัว ราคาไต่ระดับขึ้นดีกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดต่อเนื่อง ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,603.45 จุด บวก 3.49 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเพียง 40,893 ล้านบาท
ด้านเงินทุนต่างชาติมีจุดที่น่าสนใจคือ Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 2,884 สัญญา แม้ว่าจะขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 6 เพียง 591 ล้านบาท และคงการซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 เล็กน้อย 117 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
•อียูให้กรีซยืดเวลาแผนการช่วยเหลือออกไปได้อีก 4 เดือน พร้อมให้กรีซเสนอแผนปฎิรูปต่ออียูในวันนี้ ถือเป็นสัญญาณบวกต่อสถานการณ์ในอียู
•ตลาดหุ้นในเอเชียส่วนใหญ่กลับมาเปิดทำการตามปกติ ยกเว้น ตลาดหุ้นไต้หวัน / เวียดนาม / จีน ที่ยังคงปิดทำการ
•วันนี้ติดตามตัวเลขการส่งออก – นำเข้า เดือนม.ค. ของไทย รายงานโดยกระทรวงพาณิชย์ Bloomberg consensus คาดส่งออก +2.40% yoy และการนำเข้า -11.85% yoy
มุมมองต่อตลาด
เราปรับมุมมองการลงทุนเป็น “กลางถึงบวก” จากเดิม “กลาง” เป็นวันแรกในรอบ 21 วันทำการ หลังสถานการณ์ในกรีซและอียูดีขึ้น เมื่อสามารถตกลงในการยืดเวลาแผนเงินกู้ออกไปอีก 4 เดือน ทั้งนี้กรีซจะนำเสนอแผนปฎิรูปด้านต่างๆ ต่ออียูในวันนี้ ซึ่งน่าจะใช้เวลาในการเจรจาเพื่อปรับเงื่อนไขต่างๆ ให้สออดคล้องกับทั้ง 2 ฝ่าย ขณะที่เดือนมี.ค. ECB จะเริ่มโครงการ QE ด้วยวงเงิน 6.0 หมื่นล้านยูโร/เดือน จะยิ่งเป็นการเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินเข้าสู่การเงินโลก บวกกับสภาพคล่องทางการเงินในระบบการเงินไทยที่ทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่วิกฤติต้มยำกุ้ง เมื่อหลายสิบปีก่อน ยิ่งทำให้ Downside risk ของ SET INDEX ในช่วงนี้จนถึงเดือนมี.ค. เป็นไปอย่างจำกัด แต่ภาพรวม SET INDEX น่าจะเป็นการเคลื่อนไหวแบบ Sideways-to-Sideways-Up แบบยกฐานของ SET INDEX ขึ้นที่ละขั้น เป้าหมายช่วงสั้น 1,620 จุด มีโอกาสขึ้นไปทดสอบและทะลุแนวดังกล่าวได้
ขณะที่ ปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญคือ ตัวเลขเศรษฐกิจในเดือน ม.ค. ซึ่ง ธปท.จะรายงานในวันศุกร์นี้จะเป็นตัวยืนยันพื้นฐานการลงทุนในตลาดหุ้นไทยแข็งแกร่งมากน้อยเพียงใด สอดคล้องกับแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในปีนี้หรือไม่ เป็นตัวแปรที่สำคัญต่อโอกาสปรับประมาณการของนักวิเคราะห์ในตลาด
ตลาด Nikkei (7.26 น.) เปิดบวกต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ก่อน ส่วน Kospi เปิดบวกเช่นกัน หลังจากปิดในช่วงเทศกาลตรุษจีน 3 วันทำการในสัปดาห์ก่อน
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ “นักลงทุนที่ทยอยสะสมหุ้นเป้าหมายไปบ้างแล้วใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ควรถือเพื่อรอขายทำกำไรบริเวณ 1,620 จุด +/- หรือผลตอบแทนจากการลงทุนระยะสั้นราว 5-10% เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจขายทำกำไรรอบสั้น”
Portfolio Top Pick in 1Q15: ADVANC / BJCHI / ITD / KTB
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ KTB/ TTA/ ADVANC/ MONO / TASCO/ WHA
Accumulative Buy: KTB
Speculative Buy: ITD
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “ทยอยสะสม” ได้แก่
1.KTB : ราคาปิด 23.10 บาท ราคาเหมาะสม 27.00 บาท
a)MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มธนาคารจะ Outperform ตลาดในสัปดาห์นี้ จากกระแสเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นเอเซีย หลังกรีซบรรลุข้อตกลงกับ EU เพื่อขยายระยะเวลารับเงินช่วยเหลือออกไปอีก 4 เดือน
b)ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในอัตราสูง โดยคาดว่า KTB จะประกาศเงินปันผลปี 2557 ในสัปดาห์นี้หุ้นละ 0.90 บาท คิดเป็น Dividend Yield 3.9%
c)คาดสินเชื่อปี 2558 เติบโต +8% yoy จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ผลักดันให้สินเชื่อรายย่อย และ SME ขยายตัว นอกจากนั้น KTB ยังได้ประโยชน์โดยตรงจากการปล่อยกู้สินเชื่อโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐฯ ที่จะเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากในปีนี้
d)Coverage Ratio อยู่ในระดับสูงที่ 127% สิ้นสุด 4Q57 จาก 108% ใน 3Q57 จากการตั้งสำรองพิเศษจำนวนมากในปี 2557 ที่ผ่านมา
e)คาดกำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +9.2% yoy เป็น 3.62 หมื่นล้านบาท และซื้อขายระดับ PBV 2558 เพียง 1.3x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารที่ PBV 1.5x และหุ้นในกลุ่ม ได้แก่ BAY 2.9x, KBANK 1.8x, SCB 1.9x และ TMB 1.7x
และ “ซื้อเก็งกำไร” ได้แก่
2.ITD : ราคาปิด 9.20 บาท ราคาเหมาะสม 10.50 บาท
a)ราคาหุ้นมี Sentiment เชิงบวก หลังราคาหุ้น ITD Cementation ซึ่งเป็นบริษัทลูก (ITD ถือหุ้นในสัดส่วน 51%) ที่ตลาดหุ้นอินเดียปรับตัวขึ้นถึง +18.8% ในวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากชนะงานประมูลขนาดใหญ่มูลค่า 2.17 หมื่นล้านรูปี หรือเทียบเท่าราว 1.1 หมื่นล้านบาท
b)และมีปัจจัยบวกรออยู่ โดยคาดว่าจะเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการโครงการทวายได้ในช่วงกลางเดือน มี.ค.
c)คงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างในปี 2558 เนื่องจากเข้าสู่ Up-Cycle ของการลงทุนภาครัฐ ส่งผลให้มีงานประมูลขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก และเป็น Catalyst ต่อเนื่องทั้งปี
d)คาดกำไรปกติปี 2558 เติบโต +56.9% yoy เป็น 904 ล้านบาท และราคาเหมาะสมของเราอิงความอนุรักษ์นิยมเนื่องจากรวมมูลค่าของโครงการโปรแตซเพียง 2.00 บาท จากทั้งหมดที่ 13.00 บาท
a)ดังนั้น หาก ITD ได้รับประทานบัตรเหมืองแร่โปรแตซใน 1H58 จะเป็น Upside Risk ที่มีนัยสำคัญต่อราคาเหมาะสมของเราและ Consensus
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ US$63 ล้าน
ตลาดหุ้น วานนี้(US$ ล้าน) วันก่อนหน้า(US$ ล้าน) YTD(US$ ล้าน) 2557(US$ ล้าน) 2556(US$ ล้าน)
TAIEX Closed Closed 4,207.6 13,190.4 9,188.0
KOSPI Closed Closed -558.5 6,165.50 4,875.1
JSE 69.0 Closed 586.9 3,750.60 -1,806.4
PSE 11.8 Closed 848.3 1,256.1 678.4
ตลาดหุ้นเวียดนาม Closed Closed 34.6 135.6 263.2
SET INDEX -18.2 -8.6 -47.6 -1,091.4 -6,210.5
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติกลับมา Long สุทธิใน SET50 Index Futures อย่างหนาแน่น
วานนี้ วันก่อนหน้า
ตลาดหุ้น (ล้านบาท) -591 -280
SET50 Index Futures (สัญญา) +2,884 -1,618
SSF (สัญญา) -352 +191
Metal Futures (สัญญา) -160 -9
ตลาดตราสารหนี้ (ล้านบาท) +117 +119
นักลงทุนต่างชาติ คงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 6 อีก 591 ล้านบาท รวม 6 วันทำการขายสุทธิ 5,210 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิขยับขึ้นเป็น 1,647 ล้านบาท
แต่ SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Long สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ มากถึง 2,884 สัญญา เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้า Short สุทธิ 1,899 สัญญา และ 4 วันทำการก่อนหน้า Long สุทธิ 4,488 สัญญา คาดว่าจะเป็นการกลับมาเปิดสถานะ Long ใน SET50 Index Futures อีกครั้ง แม้ว่า S50H15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index แคบลงเหลือ 3.97 จุด จากวันก่อนหน้า Discount กว้างถึง 7.78 จุด
ทั้งนี้นักลงทุนกลุ่มนี้นำเงินสดกลับมาพักที่ตลาดตราสารหนี้ ด้วยการซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 อีก 117 ล้านบาท รวม 2 วันทำการ ซื้อสุทธิ 236 ล้านบาท ขณะที่ราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยลดลงเล็กน้อย ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้น 0.45bps ปิดที่ 2.793%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ขยับขึ้นอีก เป็น 465 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 421 ล้านบาท
Stock Total Value(mn Bt) % of trading Volume Avg.Price(Bt)
SCC 123.38 12.01% 535.26
KBANK 68.30 10.29% 220.32
DTAC 61.64 39.49% 91.93
PTT 42.16 3.17% 347.60
ADVANC 30.17 4.01% 239.29
NVDR Movement
NVDR กลับมาขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ แต่เป็นเพีนงการปรับน้ำหนักระหว่างกลุ่มเท่านั้น
การซื้อขายผ่าน NVDR ขายสุทธิเพียง 143 ล้านบาท เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 556 ล้านบาท สรุปภาพการลงทุนของ NVDR ได้ดังนี้
1.กลุ่มพลังงาน ถูกขายสุทธิสูงสุด 218 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 115 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่ม ICT ขายสุทธิ 132 ล้านบาท กลุ่มธนาคาร ขายสุทธิ 106 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 112 ล้านบาท
2.ส่วนกลุ่มปิโตรเคมี ถูกซื้อสุทธิสูงสุด 149 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มไฟแนนซ์ ซื้อสุทธิ 115 ล้านบาท และกลุ่มอสังหาฯ ซื้อสุทธิ 87 ล้านบาท
ซื้อสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการซื้อขาย ขายสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการขาย
PTTGC 115.58 23.52 PTT -230.99 12.56
GL 111.98 19.36 KBANK -135.82 25.03
LH 61.08 15.54 SCC -100.87 7.67
TPIPL 57.98 2.11 ADVANC -64.30 7.74
SCB 51.64 13.20 CPF -59.54 7.61
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Assistant Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong