- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 19 February 2015 16:55
- Hits: 1382
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ ซิงเจียหยู๋อี่ ซิงนี่ฮวดไช้
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ เกิด Technical Rebound บวกกับบรรยากาศการลงทุนรอบเอเชียเปิดบวก ส่งผลให้หุ้นหลักที่ปรับตัวลงแรงก่อนหน้าอย่าง PTT / AOT / ADVANC ฟื้นตัว ผลักดันให้ SET INDEX ขึ้นทดสอบ 1,600 จุด แม้ว่าจะเกิดแรงขายทำกำไรบริเวณดังกล่าวมากขึ้นก็ตาม แต่ ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX ทะลุ 1,600 จุด มาอยู่ที่ 1,603.14 จุด บวก 15.39 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเพียง 39,113 ล้านบาท
กระแสเงินทุนต่างชาติชะลอตัวทั้ง 3 ตลาด แม้คงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 4 เพียง 500 ล้านบาท Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ เพียง 281 สัญญา และขายสุทธิตลาดตราสารหนี้ไทยเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 408 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
•วันนี้ตลาดหุ้นในเอเชียปิดทำการแทบทุกตลาด ยกเว้นตลาดหุ้น ญี่ปุ่น, อินเดีย และไทย เนื่องในเทศกาลตรุษจีน ของพี่น้องเชื้อสายจีน
•กรีซเตรีมเสนอแผนยืดเวลาเงินกู้ต่ออียูในคืนนี้ และอียูจะพิจารณาและสรุปผลภายในวันพรุ่งนี้
•การประชุมเฟดครั้งก่อน ส่งสัญญาณที่จะคงอัตราดอกเบี้ยต่ำได้ไม่นานมากนัก ทั้งนี้เฟดให้น้ำหนักกับความเสี่ยงต่างประเทศอย่างกรีซและยูเครน รวมถึงค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นในอัตราชะลอตัว ณ ปัจจุบัน ตลาดประเมินเฟดอาจพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2549 ในช่วงกลางปี 2558
•ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปรับตัวลงอีก US$1.59/barrel เป็น US$51.240/barrel เช้าวันนี้ (8.05 น.)
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองต่อการลงทุนเป็น “กลาง” วันที่ 19 พร้อมกรอบแกว่งของ SET INDEX ระหว่าง 1,595-1,610 จุด และมูลค่าการซื้อขายราว 40,000 ล้านบาท/วัน ในช่วง 1-2 วันนี้ เพราะตลาดเงินหลักของเอเชียอย่าง ฮ่องกง และ สิงคโปร์ ปิดทำการ เนื่องในเทศกาลวันตรุษจีน
อย่างไรก็ตาม Downside risk ของ SET INDEX จะเป็นไปอย่างจำกัด จากพัฒนาการที่เป็นกลางถึงบวกของกรีซ ล่าสุด รัฐบาลกรีซเตรียมเสนอแผนยืดเวลาเงินกู้ต่อ อียู ในวันนี้ และอียูจะมีการพิจารณาและสรุปผลในข้อเสนอดังกล่าวภายในวันพรุ่งนี้ เราคาดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ กรีซ และ อียู จะสามารถตกลงในเงื่อนไขการยืดเวลาได้ อาจจะเป็นเพียง 3 เดือน ซึ่งก็เท่ากับว่า กรีซและเจ้าหนี้จะมีเวลามากขึ้นในการพิจารณาและวิเคราะห์สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ และแนวทางการแก้ไขปัญหาต่างๆ
เมื่อปัจจัยทั้งในและต่างประเทศ เป็นกลาง บวกกับ กระแสเงินทุนต่างชาติที่ชะลอตัว เราคาดว่า หุ้นหลักในกลุ่มหลักของตลาดหุ้นไทยจะแกว่งตัวออกด้านข้าง หุ้นขนาดกลางและเล็กที่มีประเด็นเด่นเฉพาะตัวจะขยับขึ้นเด่นกว่าภาพรวมของตลาดเหมือนเช่น 2-3 วันที่ผ่านมา
ตลาด Nikkei (7.23 น.) เปิดบวกเล็กน้อย แม้ว่าการส่งออกเดือนม.ค.ของญี่ปุ่นจะเติบโตดีกว่าคาดถึง 17.0% yoy ก็ตาม
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ “นักลงทุนทยอยสะสมหุ้นเป้าหมาย หากราคาย่อตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย” เน้นหุ้นขนาดกลางที่แนวโน้มผลการดำเนินงานเติบโตโดดเด่น หรือหุ้นหลักที่ให้ผลตอบแทนปันผลงวดนี้ที่อยู่ในระดับสูง เป็นทางเลือกของการลงทุน
Portfolio Top Pick in 1Q15: ADVANC / BJCHI / ITD / KTB
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ KTB/ TTA/ ADVANC/ MONO / TASCO/ WHA
Accumulative Buy: TASCO / KTB
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “ทยอยสะสม” ได้แก่
1.KTB : ราคาปิด 23.20 บาท ราคาเหมาะสม 27.00 บาท
a)MBKET คาดว่า KTB จะประกาศจ่ายเงินปันผลปี 2557 ในช่วงปลายเดือน ก.พ. หุ้นละ 0.90 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 3.8%
b)คาดสินเชื่อปี 2558 เติบโต +8% yoy จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ผลักดันให้สินเชื่อรายย่อย และ SME ขยายตัว นอกจากนั้น KTB ยังได้ประโยชน์โดยตรงจากการปล่อยกู้สินเชื่อโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐฯ ที่จะเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากในปีนี้
c)Coverage Ratio อยู่ในระดับสูงที่ 127% สิ้นสุด 4Q57 จาก 108% ใน 3Q57 จากการตั้งสำรองพิเศษจำนวนมากในปี 2557 ที่ผ่านมา ดังนั้น คาดว่าการตั้งสำรองในปีนี้จะลดลง yoy และหากสภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวดีกว่าคาด อาจส่งผลให้การตั้งสำรองต่ำกว่าประมาณการของเรา และเป็น Positive Surprise ให้กับตลาดได้เช่นกัน
d)คาดกำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +9.2% yoy เป็น 3.62 หมื่นล้านบาท และซื้อขายระดับ PBV 2558 เพียง 1.27x เทียบกับ BAY 2.82x, KBANK 1.83x, SCB 1.89x และ TMB 1.9x
2.TASCO : ราคาปิด 89.25 บาท ราคาเหมาะสม 90.00 บาท
a)TASCO จะรายงานผลประกอบการ 4Q57 ในวันนี้ หรือพรุ่งนี้ โดยคาดว่ากำไรสุทธิ 4Q57 จะขยายตัว +12% qoq และพลิกกลับจากขาดทุนสุทธิ ใน 4Q56 ที่ 50 ล้านบาท เป็นกำไรสุทธิ 475 ล้านบาท 4Q57
b)คงมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตในปี 2558 เนื่องจากกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทได้จัดสรรงบประมาณเพิ่มขึ้นเป็น 1.02 แสนล้านบาท +12% yoy และจะเป็นปีแรกที่เห็นผลประโยชน์เต็มที่จากการร่วมทุนกับ SK Energy เพื่อเพิ่มยอดขายยางมะตอยในภูมิภาค
c)นอกจากนั้น นโยบายนำยางพารามาผสมยางมะตอยเพื่อพยุงราคายางพาราจะเป็นบวกต่อ TASCO เนื่องจากเป็นเจ้าของเทคโนโลยี
a)คาดกำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +8.3% yoy เป็น 1,250 ล้านบาท และ Valuation ยังน่าสนใจ เนื่องจากซื้อขายระดับ PER 2558 เพียง 10.9 เท่า และประมาณการกำไรของเรามี Upside Risk เนื่องจากใช้สมมติฐานที่ค่อนข้างระมัดระวังในการทำประมาณการ จึงมีโอกาสที่จะทบทวนประมาณการกำไรหลังรายงานงบ 4Q57 และได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้บริหาร
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 2 อีก US$46 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$66 ล้าน
ตลาดหุ้น วานนี้(US$ ล้าน) วันก่อนหน้า(US$ ล้าน) YTD(US$ ล้าน) 2557(US$ ล้าน) 2556(US$ ล้าน)
TAIEX Closed Closed 4,207.6 13,190.4 9,188.0
KOSPI Closed -17.1 -558.5 6,165.50 4,875.1
JSE -30.2 12.8 517.7 3,750.60 -1,806.4
PSE 0.1 5.8 836.5 1,256.1 678.4
ตลาดหุ้นเวียดนาม Closed Closed 34.6 135.6 263.2
SET INDEX -15.3 -67.4 -20.8 -1,091.4 -6,210.5
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติขายสุทธิทั้ง 3 ตลาดพร้อมกัน แต่เพียงเล็กน้อย
วานนี้ วันก่อนหน้า
ตลาดหุ้น (ล้านบาท) -500 -2,196
SET50 Index Futures (สัญญา) -281 +1,069
SSF (สัญญา) +195 +1,419
Metal Futures (สัญญา) -303 -5
ตลาดตราสารหนี้ (ล้านบาท) -408 +3,436
นักลงทุนต่างชาติ คงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 4 เพียง 500 ล้านบาท รวม 4 วันทำการ ขายสุทธิ 4,339 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิ 776 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Short สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการเพียง 281 สัญญา เทียบกับ 4 วันทำการก่อนหน้า Long สุทธิ 4,488 สัญญา น่าจะเป็นการปิดทำกำไรบางส่วนเท่านั้น ส่งผลให้ S50H15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index แคบลงเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ เป็น 5.05 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 7.01 จุด
และนักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาขายสุทธิในตลาดตราสารหนี้เป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ เพียง 408 ล้านบาท เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 5,324 ล้านบาท น่าจะเป็นการขายเพื่อปิดความเสี่ยงในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลตรุษจีน เพียงบางส่วนเท่านั้น ส่งผลให้ราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยลดลงเล็กน้อย อายุ 10 ปี ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น 1.42bps ปิดที่ 2.795%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ลดลงเหลื 299 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 731 ล้านบาท
Stock Total Value(mn Bt) % of trading Volume Avg.Price(Bt)
INTUCH 36.15 7.85% 81.61
IRPC 35.10 4.69% 4.39
AOT 28.81 9.08% 311.75
TPIPL 23.75 0.73% 3.17
TICON 19.93 51.96% 18.40
NVDR Movement
NVDR กลับมาซื้อสุทธิอีกครั้ง แต่เป็นการกระจายกลุ่มลงทุน
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิ 506 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 783 ล้านบาท สรุปภาพการลงทุนของ NVDR ได้ดังนี้
1.กลุ่ม ICT ถูกซื้อสุทธิสูงสุด 208 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 193 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มไฟแนนซ์ ซื้อสุทธิ 175 ล้านบาท และกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ซื้อสุทธิ 95 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 127 ล้านบาท
2.ส่วนกลุ่มธนาคารถูกขายสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 2 อีก 135 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 429 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มค้าปลีก ขายสุทธิ 57 ล้านบาท
ซื้อสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการซื้อขาย ขายสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการขาย
TRUE 170.12 12.86 KBANK -131.19 29.80
INTUCH 121.06 35.58 BBL -95.74 18.88
PTT 111.83 9.13 ADVANC -82.72 31.08
SAWAD 91.55 13.61 CPALL -68.01 11.34
LH 75.03 27.18 IRPC -43.77 8.40
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Assistant Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong