- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 18 February 2015 17:09
- Hits: 1523
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA +28.23, NASDAQ +5.43, S&P +3.35, FTSE +41.08, CAC +2.04 และ DAX -27.61 ภายใต้การซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวน จากผลการเจรจาปัญหาหนี้กรีซยังคงไม่แน่นอน หลังกรีซไม่ยอมรับร่างแถลงการณ์การประชุมของยูโรโซน และคงคัดค้านการดำเนินมาตรการรัดเข็มขัดตามเงื่อนไขในข้อตกลงเพื่อแลกกับการได้รับความช่วยเหลือทางการเงิน อย่างไรก็ตามยังมีความคาดหวังในเชิงบวกต่อการบรรลุข้อตกลงแก้ไขวิกฤตการณ์หนี้กับสหภาพยุโรป (EU) ยังคงมีความเป็นไปได้ ขณะที่ยังมีปัจจัยกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ (1) ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) - กพ. อยู่ที่ 7.8 ลดลงจาก 10.0 เมื่อมค. เนื่องจากคำสั่งซื้อและการจ้างงานที่อ่อนแอ และ (2) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้าน – กพ. อยู่ที่ 55 ลดลงจากระดับ 57 เมื่อมค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรป ได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม อย่างไรก็ตามยังมีความกังวลสถานการณ์ในกรีซ
…..ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน มี.ค. +US$0.75 อยู่ที่ US$53.53 ต่อบาร์เรล ภายใต้ปัจจัยหนุนจาก (1) จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ ลดลงสูงถึง 84 แห่ง สู่ 1,056 แห่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่สค.’54 และ (2) บริษัทพลังงานรายใหญ่ประกาศลดการลงทุน รวมถึงบริษัทโททาล เอสเอ ลดการลงทุนลงเหลือ 2.3 - 2.4 หมื่นล้านUSD จาก 2.6 หมื่นบ้านUSD เมื่อปี’57 พร้อมลดงบประมาณด้านการสำรวจน้ำมันลง 30% สู่ระดับ 1.9 พันล้านUSD และบริษัทอาปาเช คอร์ปอเรชัน ประกาศลดจำนวนแท่นขุดเจาะลง 70%
......ราคาทองคำส่งมอบเดือน เม.ย. -US$18.5 อยู่ที่ US$1,208.6 ต่อออนซ์ หลังคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะไม่ยุติการให้เงินกู้ฉุกเฉินต่อธนาคารของกรีซในสัปดาห์นี้ แม้ว่าการเจรจาแก้ไขปัญหาหนี้ระหว่างกรีซและยูโรโซนยังไม่มีความคืบหน้าก็ตาม ขณะที่อยู่ระหว่างรอรายงานการประชุมเฟด (27 – 28/1/58) ว่าจะมีการส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในฤดูร้อนนี้หรือไม่?
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -2,196 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -307 ล้านบาท (ปี’57 มียอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)
ทิศทางตลาด
ทิศทางตลาด : คาดยังมีความผันผวน? ภายใต้ปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะประเด็นการเจรจาหาทางออกปัญหาหนี้ของกรีซ ที่มีทั้ง (+) ความ คาดหวังในเชิงบวก หลัง ECB ยังคงให้ความช่วยเหลือธนาคารของกรีซ และ (-) ความกังวลหลังกรีซยังคงคัดค้านมาตรการรัดเข็มขัด ขณะที่มาตรการความช่วยเหลือทางการเงินของสหภาพยุโรป (EU) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่มีต่อกรีซ จำนวน 240,000 ล้านยูโร หรือ 270,000 ล้านUSD จะครบกำหนด 28/2/57 อย่างไรก็ตามกรีซมีเวลาถึงศุกร์นี้ (20/2/58) ในการขอต่ออายุออกไปอีก 6 เดือน
.....ส่วนทางด้านประเด็นในประเทศ คาดน้ำหนักต่อ Fund Flow เป็นลบมากขึ้น หลังต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่อง และทำให้ YTD เป็นขายสุทธิสะสมอีกครั้ง แต่มูลค่าไม่มากนัก เพียง 307 ล้านบาท ขณะที่ในระยะกลางยังมีมุมมองที่ดีต่อ Fund Flow ที่คาดได้รับปัจจัยหนุนบ้างจากประเด็นการเริ่มใช้วงเงิน QE ของ ECB ตั้งแต่เดือนมี.ค. เป็นต้นไป ขณะที่ยังแนะติดตามการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณของหน่วยงานต่างๆ เพื่อใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ หลังเงินเฟ้อล่าสุดติดลบ รวมถึงประเด็นการเก็งกำไรผลประกอบการ 4Q/57 และเงินปันผล ในช่วงสิ้นเดือนกพ.
.....รวมถึงการประชุม กนง. (11/3/58) หลังเรียกร้องให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อลดผลกระทบเงินบาทที่แข็งค่า และเริ่มส่งผลต่อผู้ประกอบการส่งออก หากมีการลดดอกเบี้ยนโยบายจะส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจ และหุ้นในกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เช่น PS และ QH
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.12 อยู่ที่ 2.15% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) +1.11 อยู่ที่ 15.80
หุ้นแนะนำ : SEAFCO
ประเด็นที่ต้องติดตาม (18 - 20 ก.พ.’58)
18/2/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้าง - มค. (2) ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) - มค. (3) ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังผลิต - มค. (4) สต็อกน้ำมัน (5) รายงานการประชุมของเฟด เมื่อ 27 -28/1/58
19/2/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (2) ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ - มค. (3) ดัชนีกิจกรรมการผลิตเขตมิด-แอตแลนติก - กพ.
20/2/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้น - กพ.
หุ้นแนะนำ
SEAFCO : ราคาเป้าหมาย (ปี’58) 16.25 บาท
SEAFCO เป็น 1 ในผู้นำกลุ่มผู้ประกอบการงานฐานราก ที่คาดได้รับประโยชน์จากแผนงานลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และงานภาคเอกชน จากงานอาคารสูงที่มีแนวโน้มขยายตัวตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นจากระยะเวลาก่อสร้างที่ค่อนข้างสั้น ทำให้มีโอกาสรับงานใหม่เข้ามาชดเชย Backlog ที่ลดลงต่อเนื่อง และคาดสามารถจัดความเสี่ยงทางด้านต้นทุนได้ดี เมื่อเทียบกับงานก่อสร้างทั่วไปที่ใช้ระยะเวลานานกว่า ทำให้คาดรักษาระดับความสามารถทำกำไรที่ดีไว้ได้
แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี’57 มีโอกาสทำ New High และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในปี’58 ภายใต้ Backlog ที่มีอยู่ล่าสุด ประมาณ 1,200 ล้านบาท และแผนการเข้าประมูลงานต่อเนื่องทั้งงานภาครัฐ (Sub Contract จาก Main Contractor) และเอกชน ขณะที่คาดยังสามารถรักษาความสามารถในการทำกำไรที่ดีไว้ได้ จากแนวโน้มราคาวัสดุก่อสร้างที่คาดทรงตัวในปี’58 หลังราคาน้ำมันลดลงมาอยู่ในระดับต่ำ
ประเมินราคาเป้าหมายปี’58 ที่ 16.25 บาท แนะนำ “ซื้อ” โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาอ่อนตัว หลัง YTD ราคาเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว และภาพรวมตลาดที่ยังมีความผันผวน
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788