- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 16 February 2015 16:37
- Hits: 1991
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
จับตาผลประชุมกรีซ
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นไทยเมื่อวันศุกร์ขยับขึ้นเล็กน้อย 2.49 จุดปิดที่ 1615.89 (สูงสุด 1619.65) นักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิราว 800 ล้านบาท พอร์ตบล.ซื้อสุทธิ 340 กว่าล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิเล็กน้อย ที่เหลือเป็นการขายสุทธิของรายย่อยประมาณ 1 พันล้านบาททั้งนี้ตลาดไม่มีปัจจัยใหม่ยกเว้นรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ทยอยออกมา
วันนี้จับตาผลประชุมรมว.คลังกรีซและยูโรโซน ซึ่งตลาดมีความหวังว่าจะมีความคืบหน้าในการประนอมหนี้และอาจจะมีแนวทางเยียวยาผลกระทบจากมาตรการรัดเข็มขัดของกรีซ ทั้งนี้สัปดาห์ก่อน ทาง ECB ได้เพิ่มวงเงินในกองทุนช่วยหลือฉุกเฉินกับภาคธนาคารของกรีซ 5 พันล้านยูโรเป็น 6.5 หมื่นล้านยูโร แต่จะมีผลถึงแค่วันที่ 18 ก.พ.58 ดังนั้นจึงต้องมีมาตรการอื่นเข้ามาเพิ่มเติมเพื่อไม่ให้กรีซผิดนัดชำระหนี้ หลังมาตรการช่วยเหลือฉบับปัจจุบันจะหมดอายุวันที่ 28 ก.พ.นี้
ส่วนปัจจัยในประเทศ ยังเป็นการเก็งกำไรผลประกอบการปี 2557 การจ่ายเงินปันผล และแนวโน้มปี 2558 ซึ่งเริ่มเห็นความคืบหน้าของการลงทุนในโครงการภาครัฐมากขึ้น ล่าสุดกระทรวงอุตสาหกรรมได้ให้ประทานบัตรกับบริษัท เหมืองโปแตซอาเซียน จ.ชัยภูมิแล้ว (ซึ่งเป็นข่าวดีกับ TRC ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะได้งานก่อสร้างเหมืองนี้) เรายังคงให้น้ำหนักการลงทุน Overweight กับกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน เช่น รับเหมาก่อสร้าง, วัสดุก่อสร้าง, แบงค์ใหญ่, ขนส่งและสื่อสาร รวมถึงกลุ่มโรงกลั่นด้วย เนื่องจากคาดว่าจะมี Core Profit ที่ดีขึ้นในปี 58 หุ้นพื้นฐานที่แนะนำซื้อลงทุนวันนี้เป็น TOP
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้นมากสัญญาณเป็นบวก ที่สามารถเปลี่ยนกลับเป็นลบได้ง่าย โดยอาจมีการปรับขึ้นก่อนแล้วค่อยถอยลงในระยะต่อไป ระยะสั้นให้แนวต้านไว้ที่ 1620-1630, 1650 จุด ค่าลบควรลดพอร์ตตาม ต่ำกว่า 1600 Stop loss
สำหรับการ Scan หาหุ้นที่ราคามีโอกาสทำ New High ในทางเทคนิค พบว่าหุ้นที่น่าสนใจ คือ TGCI, AMC, CEN, ASIMAR ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือPACE, TIPCO, PRIN, MCS, SC หุ้นที่หลุด List คือ –ไม่มี- สำหรับหุ้นที่แนะนำไปแล้วและราคาปรับขึ้นมาอยู่ในพื้นที่น่าพิจารณา Take Profit ตามรอบคือ SENA, SYNTEC, SITHAI
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
•/+ กรีซ : คาดผลประชุมวันนี้จะคืบหน้ามากขึ้น นักลงทุนมีความหวังมากขึ้นว่าการประชุมระหว่างรมว.คลังกรีซและยูโรโซนในวันจันทร์นี้ (16ก.พ.) ทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถประนีประนอมกันได้ หลังจากผู้นำยุโรปแสดงท่าทีผ่อนปรนในการประชุมสุดยอดเมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยรัฐบาลกรีซคาดว่าทางยูโรโซนจะมีมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผลกระทบจากมาตรการรัดเข็มขัด
+ ยูโรโซน : GDP ไตรมาส 4/57 ขยายตัวดีกว่าคาด สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) ที่ระบุว่า GDP ของกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร18 ประเทศขยายตัวได้ดีเกินคาด 0.3%QoQ และ 0.9%YoY ในไตรมาส4/57 (นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 0.2%QoQ)
+ เยอรมนี : GDP ไตรมาส 4/57 เติบโตดีขึ้น เป็น 0.7%QoQ จากไตรมาส 3/57 ที่เพียง 0.1%QoQ และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่0.3%QoQ)
+ ญี่ปุ่น : GDP ไตรมาส 4/57 พลิกเป็นขยายตัว 2.2%YoY ซึ่งดีขึ้นจากไตรมาส 2 และ 3/57 ที่ติดลบ 6.7%YoY และติดลบ 2.3%YoY เพราะถูกกระทบจากอัตราภาษีขาย (Sales Tax) ที่ปรับขึ้นจาก 5% เป็น 8% โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 เม.ย.57 บ่งชี้ว่าผู้บริโภคได้ปรับตัวกับอัตราภาษีใหม่ได้มากขึ้น รวมถึงการส่งออกที่เพิ่ม 2.7% ก็ช่วยหนุนด้วย
• สหรัฐ : ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนก.พ.ลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 11 ปี ผลสำรวจของรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเบื้องต้นเดือนก.พ.ลดลงสู่ 93.6 ต่ำกว่า98.1 ของเดือนม.ค.ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 11 ปี
+ อุปทานน้ำมันดิบสหรัฐมีแนวโน้มลดลง ผลการสำรวจของเบเกอร์ฮิวจ์ระบุว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐลดลงอย่างมากถึง 84 แห่ง สู่ระดับ 1,056 แห่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2554
+ สัญญาน้ำมันดิบปรับขึ้นต่อ โดย WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 1.57ดอลลาร์ ปิดที่ 52.78 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT พุ่งขึ้นถึง 4.47ดอลลาร์ ปิดที่ 61.52 ดอลลาร์/บาร์เรล ปัจจัยหนุน คือ จำนวนแท่นขุดเจาะสหรัฐที่ลดลง และการเติบโตของเศรษฐกิจยูโรโซนในไตรมาส 4/57 ที่ดีเกินคาด
+ สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเม.ย.เพิ่มขึ้น 6.4 ดอลลาร์หรือ +0.52% ปิดที่ 1,227.10 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
• ส่งออกปี 2558 อาจโตได้เพียง 1 -2% รัฐบาลเร่งใช้การลงทุนกระตุ้นให้เศรษฐกิจโตได้ 4% ตามเป้าหมาย ทางสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมคาดว่ายอดส่งออกรวมของไทยปีนี้จะขยายตัวเพียง 1-2%เนื่องจากมีปัจจัยลบภายนอกหลายด้านที่กดดัน สำหรับดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมคาดว่าจะขยายตัว 3-4% และ GDP ภาคอุตสาหกรรมเติบโต 2-3% แต่กระทรวงการคลังเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยปี 2558 จะขยายตัวได้ 4% โดยเป็นผลจากการลงทุนภาครัฐและเอกชนที่ฟื้นตัว และคาดว่าการบริโภคใน 2H58 จะดีขึ้น
+ กระทรวงอุตสาหกรรมให้ประทานบัตรเหมืองโปแตชกับบริษัทเหมืองแร่โปแตชอาเซียนที่จ.ชัยภูมิแล้ว โดยมีอายุประทานบัตร 25 ปีบนพื้นที่ 9 พันไร่ โดยเหมืองนี้เป็นเหมืองปิด ใช้เงินลงทุน 4 หมื่นล้านบาท
ความเห็น Retail Research : นับเป็นข่าวดีกับ TRC ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะได้งานก่อสร้างของเหมืองโปแตชบริษัท เหมืองแร่โปแตชอาเซียนเนื่องจากเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ 4.48% และมีความพร้อมในการก่อสร้าง ทั้งนี้มูลค่างานก่อสร้างอยู่ที่ 3 หมื่นล้านบาท หากบริษัทได้จริงจะทำให้มีมูลค่างานในมือเพิ่มขึ้นก้าวกระโดดจากปัจจุบันที่มีอยู่ 7-8 พันล้านบาทและสิ้นปี 58 ที่ 1 หมื่นล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้างเหมืองอยู่ที่ 3 ปี (ปี2558-2560) หากให้อัตรากำไรสุทธิของโครงการก่อสร้างเหมืองโปแตชเท่ากับ 5% พบว่าโครงการนี้จะทำกำไรได้ 1.5 พันล้านบาท หรือคิดเป็น1.8 บาท/หุ้น TRC (ปี 2557 มี EPS ราว 0.30 บาท/หุ้น) แต่เนื่องจากเป็นการทยอยรับรู้รายได้ (คาดการณ์ไว้ที่ 20%, 40% และ 40% ในปี 2558-2560) ทำให้คาดการณ์ EPS ปี 2558-2559 จะเป็น 0.66 บาท และ 1.03บาท ตามลำดับ หากให้ P/E เป้าหมาย 15 เท่า จะได้ราคาเหมาะสมปี2559 ที่ 15.40 บาท เมื่อ Discount มาเป็นปัจจุบันจะอยู่ที่ 13.90 บาทซึ่งมี Upside 20%
• รมว.คลังคาดว่ากระทรวงการคลังจะเสนอเรื่องเกณฑ์การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างใหม่ให้ครม.พิจารณาในสิ้นก.พ.58 โดยเบื้องต้นเสนอให้ 1) ไม่ต้องจัดเก็บภาษีบ้านและที่ดินที่มีราคาประเมินต่ำกว่า 2 ล้านบาท, 2) จัดเก็บภาษีอัตรา 0.01% สำหรับบ้านและที่ดินที่มีราคาประเมินสูงกว่า 2 ล้านบาท และบ้านที่เข้าเงื่อนไขต้องเป็นบ้านเพื่อใช้อยู่อาศัยเท่านั้น ส่วนภาษีมรดกนั้นค่อนข้างล่าช้ากว่าที่รมว.คลังคาดไว้
• รัฐบาลจะเปิดเวทีกลางให้ถกเรื่องสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21ในวันที่ 20 ก.พ.นี้ และให้ขยายเวลาการรับซองขอสัมปทานฯออกไปก่อน แต่ไม่ได้ประกาศยกเลิก
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 [email protected]