- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 13 February 2015 16:07
- Hits: 1398
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET เริ่มทรงตัวได้และมีจังหวะดีดแล้ว ดังนั้นยังเน้นถือไว้ก่อน..
กลยุทธ์ : หลังจากแนะนำซื้อช่วงลบแล้ว ถัดจากนี้ยังให้เน้นถือต่อเนื่องไว้ก่อน เพราะคาดว่า SET ใกล้ที่จะเริ่มเดินหน้าขึ้นหาเป้า 1649.77 จุดแล้ว
หุ้นเด่นทางเทคนิค : RML, AUCT, SAMART(short)
แนวโน้ม : SET เริ่มมีจังหวะขยับบวกขึ้นมาได้ดีในภาคบ่ายวานนี้ หลังจากแกว่งตัวผันผวนในกรอบแคบอยู่ในช่วงครึ่งเช้า โดยนักลงทุนต่างประเทศยังมียอดซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ของสัปดาห์ ขณะที่เช้านี้ยังได้รับแรงหนุนจากการบวกขึ้นของตลาดหุ้นต่างประเทศที่ขานรับข่าวการบรรลุข้อตกลงสันติภาพในการแก้วิกฤติยูเครน รวมทั้งราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเริ่มฟื้นตัวขึ้นได้อีกครั้ง ทำให้ FSS ยังคาดหมายว่า SET จะมีลุ้นจังหวะแกว่งบวกขึ้นต่อเนื่องได้ เพื่อทำจุดสูงสุดใหม่ที่สูงกว่า 1620 จุดที่เป็นจุดสูงสุดเดิมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และยังมีลุ้นโอกาสแกว่งบวก เพื่อขยับขึ้นหาจุดสูงสุดเดิมของรอบใหญ่ปี 2013 ที่ 1649.77 จุดในช่วงถัดไปตามคาดด้วย อย่างไรก็ตามความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเจรจาแก้ปัญหาหนี้ของกรีซ ยังมีสิทธิที่จะกดดันให้ SET มีจังหวะแกว่งตัวผันผวนเป็นระยะๆ ได้ เนื่องจากยังไม่มีข้อสรุปแม้จะผ่านการประชุม รมว.คลังยูโรโซนนัดแรกและการเจรจาระดับผู้นำสหภาพยุโรป (EU) ไปแล้ว ซึ่งต้องรอติดตามการประชุมต่อเนื่องของ รมว.คลังยูโรโซนในวันจันทร์ที่ 16 ก.พ. นี้อีกครั้ง โดยคืนนี้ผู้นำกรีซจะเข้าหารือกับทรอยก้า(Troika) ด้วย
แนวรับ 1612-1610 , 1607-1604 จุด
แนวต้าน 1616-1620 , 1625-1630 จุด
Fund Flow วานนี้ยังไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคในปริมาณที่เบาบาง โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไต้หวัน US$265.5 ล้าน อินโดนีเซีย US$73.3 ล้าน ไทย US$55.1 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$22.4 ล้าน และเวียดนาม US$6.4 ล้าน แต่ขายเกาหลีใต้ US$75.9 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้ค่อนข้างนิ่ง Flow น่าจะไหลเข้าแต่เบาบางต่อเนื่อง
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) SAMART Group เราคาดกำไรสุทธิใน 4Q14 ของ SAMART จะลดลง 4% Q-Q และ 5% Y-Y ตามทิศทางของ SIM ซึ่งมีบทบาทต่อ SAMART มากที่สุด โดยเราคาดกำไรของ SIM จะลดลง 50% Q-Q และ 50% Y-Y จากกำลังซื้อที่ยังไม่ฟื้น และการทำโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นตลาดทำให้บริษัทมีค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้นมาก ขณะที่ SAMTEL เราคาดกำไร +9% Q-Q, -13% Y-Y ตามทิศทางการรับรู้รายได้จากงานโครงการ ในกลุ่มของ SAMART ทั้งหมด แนวโน้มผลประกอบการของ SIM ดูน่าผิดหวังที่สุดจากผลของการแข่งขันที่สูง เราลดคำแนะนำลงเป็นถือ จากเดิมซื้อ ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 3.56 บาท จากเดิม 4.12 บาท ส่วน SAMTEL เราลดคำแนะนำลงเป็นขาย จากเดิมถือ ราคาเป้าหมาย 20 บาท ส่วน SAMART ยังมีประเด็นลงทุนในโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ และการนำบ.ย่อยเข้าตลาดฯ จึงยังคงแนะนำเก็งกำไร
(+) LPN มีกำไรปกติ 743 ล้านบาทใน 4Q14 +32% Q-Q, +34% Y-Y ดีกว่าคาด 12% จากรายได้โอนและอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่าคาด ทำให้กำไรปกติทั้งปี 2014 ลดลง 13% Y-Y ปัจจุบันมี Backlog สูงถึง 1.86 หมื่นล้านบาท บริษัทตั้งเป้ายอด Presales ปีนี้อีก 2 หมื่นล้านบาท +17% Y-Y จากการเปิดโครงการใหม่ 12 โครงการ เราคาดว่าจะทำให้รายได้ปี 2015-16 กลับมาฟื้นตัว 37% และ 39% และคาดกำไรปกติปี 2015-16 โต 51% และ 17% ตามลำดับ ราคาหุ้นที่ปรับลงมาสะท้อนรายได้ที่พลาดเป้าไปแล้วจนมี PE 10 เท่าและปันผลตอบแทนปีละ 4% จึงยังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 25 บาท สำหรับงวด 2H14 บริษัทประกาศจ่ายปันผล 0.54 บาท (yield 2.6%)
(-) TOP มีผลขาดทุนสุทธิหนักตามคาด 6,479 ล้านบาทใน 4Q14 จากการขาดทุนสต็อก ฉุดให้ผลประกอบการทั้งปี 2014 ขาดทุนสุทธิ 5,022 ล้านบาท เรายังคงประมาณการปี 2015 เป็นกำไรสุทธิ 6,314 ล้านบาท แม้ว่าผลประกอบการและราคาน้ำมันในตลาดโลกจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว แต่กำไรในปีนี้ยังต่ำกว่าในอดีตที่เคยทำได้ปีละเกือบ 1 หมื่นล้านบาท เพราะ TOP ไม่มีกำลังการผลิตใหม่ๆ ผลประกอบการขึ้นกับราคาน้ำมันเท่านั้น เรายังคงราคาเป้าหมาย 46.75 บาท ราคาหุ้นที่ปรับขึ้นมาเกินพื้นฐาน เป็นโอกาสในการขาย
(-) CSL เราปรับประมาณการกำไรปี 2015 ลง 18% เหลือ 378 ล้านบาท หดตัวต่อเนื่องเป็นที่ 2 อีก 5% จากกำไรปกติในปีก่อน และคาดกำไรปี 2016 เพิ่มเพียง 4% Y-Y จากภาพรวมของธุรกิจที่ชะลอในแทบทุกบริการ ทั้งบริการด้านไอทีซึ่งเป็นรายได้หลัก บริการเสริมบนมือถือ และธุรกิจโฆษณาในสมุดหน้าเหลือง มีเพียงธุรกิจ Internet data center ที่สดใสแต่ไม่มากพอที่จะขับเคลื่อนกำไรปีนี้ เราปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 7.60 บาท จาก 11 บาท โดยปรับ PE ลงเหลือ 12 เท่าจาก 13 เท่า ราคาหุ้นปัจจุบันเต็มมูลค่าแล้ว ลดคำแนะนำเป็นขาย จากเดิมถือ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยได้รับแรงหนุนหลังบการประชุมผู้นำ 4 ฝ่ายในยุโรปบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในยูเครน รวมถึงแรงหนุนจากราคามันที่ปรับตัวสูงขึ้น ผลประกอบการที่ออกมาแข็งแกร่ง
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดในแดนบวกเช่นกันหลังข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนบรรลุผล อย่างไรก็ตามการแก้ปัญหาหนี้กรีซยังต้องรอติดตามผลการประชุมในวันจันทร์
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในแดนบวกตามตลาดหุ้นภูมิภาคอื่น ยกเว้นตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ถูกกดดันจากค่าเงินเยนที่แข็งค่า
ค่าเงินบาทยังแกว่งตัวออกข้าง โดยเคลื่อนไหวในกรอบ 32.54-32.70 บาท/ดอลลาร์
น้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน มี.ค. ปิดที่ 51.21 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 2.37 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลง รวมถึงข่าวการลดการลงทุนด้านพลังงานของ Total
ทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ปิดที่ 1,220.70 ดอลลาร์/ออนซ์ ขยับขึ้น 1.10 ดอลลาร์/ออนซ์ จากดอลลาร์ที่อ่อนค่าและตลาดยังจับตาสถานการณ์หนี้ของกรีซว่าจะบรรลุการให้ความช่วยเหลือรอบใหม่หรือไม่
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
16 ก.พ. - ไทย: 4Q14 GDP (สศค.คาด GDP 4Q14 โต 2.3% Y-Y ทั้งปีโต 0.7%), JASIF เริ่มเทรด (ราคา IPO 10 บาท)
- ญี่ปุ่น: 4Q14 GDP
- ยูโรโซน: การประชุม รมว.คลังของประเทศสมาชิก
17 ก.พ. - ไทย: PLANB เริ่มเทรด (ราคา IPO 2 บาท)
- อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI) ประชุม
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BOK) ประชุม
- ยูโรโซน: Zew Survey Expectation (ก.พ.)
18-20ก.พ. - ตลาดหุ้นที่ปิดทำการเนื่องในวันตรุษจีนมี ฮ่องกง จีน เกาหลีใต้ มาเลเซีย ไต้หวัน
18 ก.พ. - ญี่ปุ่น: BOJ ประชุม
- สหรัฐ: Housing start, Building permits (ม.ค.)
19 ก.พ. - ตลาดหุ้นที่ปิดทำการเนื่องในวันตรุษจีนมี อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ อินเดีย
- สหรัฐ: รายงานการประชุม FOMC วันที่ 27-28 ม.ค.
- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.พ.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852