- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 10 February 2015 16:34
- Hits: 1525
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Selective Buy
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้แกว่งกรอบแคบ 1,605-1,615 จุด หุ้นหลัก PTT / SCB / AOT ปรับฐานลง กดดันภาพรวมของ SET INDEX และเมื่อตลาดหุ้นยุโรปที่เปิดช่วงบ่าย ปรับฐานลงกว่า 1% เนื่องจากความกังวลต่อสถานการณ์ในกรีซ กดดันบรรยากาศในช่วงท้ายตลาด กดดันให้ SET INDEX ปิดต่ำสุดของวันที่ 1,601.77 จุด ลบ 11.86 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 58,926 ล้านบาท
ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง 364 ล้านบาท แต่คงการ Long สุทธิใน SET50 Index Futures อีก 1,323 สัญญา เมื่อส่วนต่างระหว่าง S50H15 ต่ำกว่า SET50 Index กว้างถึง 15.00 จุด ตลาดตราสารหนี้ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 3 อีก 780 ล้านบาท กระแสเงินทุนต่างชาติส่งสัญญาณกลางถึงบวกต่อการลงทุนในไทย
ปัจจัยสำคัญวันนี้
•โอเปคประมาณการกำลังการผลิตน้ำมันจากสหรัฐฯ ชะลอตัว ช่วยทำให้ราคาน้ำมันดิบทรงตัวในช่วงสั้น
•นักลงทุนทั่วโลกกังวลต่อสถานการณ์ของกรีซ แต่เราเชื่อว่าการเจรจาจะดำเนินต่อไปจนถึงนาทีสุดท้ายเพื่อได้ข้อสรุปร่วมกันระหว่างลูกหนี้และเจ้าหนี้อย่าง Troika
•ติดตามผลการเยือนญี่ปุ่นของนายกฯ ต่อโครงการรถไฟรางคู่ และโครงการทวาย
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองต่อการลงทุนเป็น “กลาง” วันที่ 11 แม้ว่า SET INDEX จะปรับฐานลงสู่ 1,601 จุด เป็นแรงกดดันจากหุ้นหลัก PTT / SCB เป็นหลัก แต่กระแสเงินทุนต่างชาติยังคงเลือกสะสมหุ้นไทย แม้ว่าจะผ่าน SET50 Index Futures ก็ตาม เราประเมินว่า SET INDEX จะเกิด Technical Rebound ในวันนี้ เพื่อกลับไปยืนเหนือ 1,610 จุดได้ ผลักดันด้วยกลุ่มน้ำมันและโรงกลั่น หลังโอเปคประมาณการกำลังการผลิตของสหรัฐฯ ลดลง เมื่อราคาน้ำมันดิบลดลงแรงในช่วงก่อนหน้า
สำหรับประเด็นกรีซ เรากลับไม่ให้น้ำหนักมากนัก แม้ว่าตลาดหุ้นทั่วโลกวานนี้จะปรับฐานลงด้วยความกังวลดังกล่าวก็ตาม เพราะเราเชื่อว่าท้ายที่สุด กรีซ และ กลุ่ม Troika จะบรรลุข้อตกลงในการปรับเงื่อนไขการช่วยเหลือให้ผ่อนคลายลงบางส่วน เพื่อให้เศรษฐกิจกรีซกลับมาฟื้นตัว เกิดการจ้างงานได้ เพียงแต่ ณ ปัจจุบันยังพอมีเวลาในการเจรจาต่อรองจนถึงสิ้นเดือนก.พ.
ขณะที่ประเด็นการเก็งกำไรต่อผลการดำเนินงานใน 4Q57 ของตลาดหุ้นไทย ยังมีความโดดเด่น เราคาดว่าหุ้นขนาดกลางหลายๆ ตัวจะรายงานผลการดำเนินงานออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ นำมาสู่การปรับประมาณการปี 2558 และ ราคาเหมาะสมขึ้นในที่สุด ทั้งนี้จับตากลุ่มท่องเที่ยว / ขนส่ง ที่ได้อานิสงค์จากผลของฤดูกาล ราคาน้ำมันที่ลดลง แม้ว่าปัจจุบันราคาน้ำมันดิบจะฟื้นตัวขึ้น แต่ก็ยังอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่กลุ่มอสังหาฯ ซึ่ง NVDR สะสมต่อเนื่อง จาก Valuation ที่ถูก ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่เด่น อีกทั้งหุ้นบางตัวจะรายงานกำไรใน 4Q57 เป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี 2557
ตลาด Nikkei / Kospi เช้านี้ (8.00 น) เปิดลบเฉลี่ย 0.5% สอดคล้องกับภาพรวมของ DJIA คืนวานนี้
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ “นักลงทุนกลับมาสะสมหุ้นเป้าหมายอีกครั้ง หลัง SET INDEX ปรับฐานสู่แนว 1,600-1,605 จุด” เพราะเป็นเพียงปัจจัยต่างประเทศกรณีกรีซ เป็นตัวกดดันเท่านั้น ขณะที่เงินทุนต่างชาติยังคงเลือกสะสมหุ้นไทย
Portfolio Top Pick in 1Q15: ADVANC / BJCHI / ITD / KTB
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ KTB/ TTA/ ADVANC/ MONO / TASCO/ WHA
Accumulative Buy: WHA
Speculative Buy: ANAN
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “ทยอยสะสม” ได้แก่
1.WHA : ราคาปิด 36.00 บาท ราคาเหมาะสม 43.13 บาท
a)MBKET คงมุมมองเชิงบวกในระยะยาวต่อหุ้น WHA จากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ดังนั้น การอ่อนตัวลงของราคาหุ้นจากการขึ้นเครื่องหมาย XA (XR + XW) ในวันนี้ จึงเป็นโอกาสในการเข้าทยอยสะสม
b)เนื่องจากจะได้รับผลบวกถึง 4 ทิศทาง หลังเข้าซื้อ HEMRAJ ได้แก่
I.โครงการพัฒนารถไฟฟ้ารางคู่ และ ASEAN Highway จะเป็นบวกให้มูลค่าที่ดินในนิคม HEMRAJ ที่ อ.มาบตาพุด จ.ระยองเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
II.โครงสร้างรายได้ของ WHA จะมีสัดส่วนจาก Recurring income เช่น น้ำ, ไฟฟ้ามากขึ้น เนื่องจาก HEMRAJ มีรายได้จาก Recurring Income กว่า 2.6 พันล้านบาทต่อปี
III.คาดว่าจะมีการบันทึกกำไรพิเศษต่อเนื่องในปี 2558 และ ปี 2559 จากการ Spin off สินทรัพย์ของ HEMRAJ
IV.และคาดว่าจะจะไม่เกิด Earning Dilution ต่อ WHA เพราะกำไรที่รับรู้จาก HEMRAJ เพียงพอที่จะหักกลบ Share Dilution จากการเพิ่มทุนของ WHA
c)จุดเด่นของ WHA คือเป็นผู้นำธุรกิจสินค้าคงคลังแบบ Built to Suit จึงมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 65% เทียบกับ AMATA และ ROJNA ที่ 45% และ 16% ตามลำดับ และเชื่อว่าหลังเสร็จสิ้นการซื้อ HEMRAJ จะยิ่งส่งผลบวกต่อบริษัท เพราะจะทำให้มีที่ดินเพื่อรอพัฒนาเป็นของตนเอง และให้บริการได้แบบครบวงจรมากขึ้น
d)ภายใต้สมมติฐานการได้หุ้น HEMRAJ ราว 53% จะส่งผลให้กำไรหลังรวม HEMRAJ เข้าสู่งบการเงินรวมเติบโตถึง +52.4% yoy เป็น 1,890 ล้านบาท ในปี 2558 และ+74% yoy เป็น 3,300 ล้านบาท ในปี 2559
และ “ซื้อเก็งกำไร” ได้แก่
2.ANAN : ราคาปิด 3.76 บาท ราคาเหมาะสม 4.60 บาท
a)ราคาหุ้นมีปัจจัยบวกระยะสั้นรออยู่ เนื่องจากคาดว่าผลประกอบการ 4Q57 จะขยายตัวโดดเด่น qoq ในเบื้องต้นเราคาดการณ์กำไร 4Q57 ราว 450 ล้านบาท เติบโต +100% qoq จากการบันทึกรายได้ของโครงการ Ideo สาทร – ท่าพระ และ Elio Del Ray
b)เชื่อว่าหากการควบคุมค่าใช้จ่าย และอัตรากำไรขั้นต้นทำได้ดีต่อเนื่องใน 4Q57 อาจส่งผลให้กำไรสุทธิ 4Q57 ออกมาดีกว่าคาดการณ์และเป็น Positive Surprise ให้กับตลาดได้เช่นกัน
c)ตั้งเป้า Presales ปี 2558 ที่ 23,000 ล้านบาท เติบโต +14% yoy จากการเปิดตัวโครงการใหม่ 12 โครงการรวม 28,500 – 29,500 ล้านบาท ซึ่งจะเป็น Catalyst ต่อราคาหุ้นได้ หากการเปิดขายได้รับการตอบรับเชิงบวกจากตลาด และเราประเมินว่ามีความเป็นไปได้สูง เนื่องจากจุดเด่นของ ANAN อยู่ที่ทำเลโครงการ, ภาพลักษณ์ และมีกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจน
d)ราคาหุ้นปัจจุบัน PER 2558 ที่ 11.1 เท่า และจะลดลงเหลือ 8.4 เท่าในปี 2559 เนื่องจากมี Backlog รอรับรู้รายได้ในปี 2558 ราว 4.7 พันล้านบาท และเพิ่มขึ้นสูงถึง 9.7 พันล้านบาท และ 8.3 พันล้านบาท ในปี 2559 และ 2560 ตามลำดับ ช่วยสนับสนุนการเติบโตของกำไรให้ขยายตัวโดดเด่นในปี 2559 – 2560
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ต่างชาติซื้อสุทธิอีก US$8 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$241 ล้าน
ตลาดหุ้น วานนี้(US$ ล้าน) วันก่อนหน้า(US$ ล้าน) YTD(US$ ล้าน) 2557(US$ ล้าน) 2556(US$ ล้าน)
TAIEX 117.8 57.4 3,103.1 13,190.4 9,188.0
KOSPI -173.0 -0.1 -770.7 6,165.50 4,875.1
JSE 28.8 93.8 244.5 3,750.60 -1,806.4
PSE 37.3 30.7 771.9 1,256.1 678.4
ตลาดหุ้นเวียดนาม 10.9 4.8 12.5 135.6 263.2
SET INDEX -12.1 53.9 44.5 -1,091.4 -6,210.5
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติสะสมหุ้นไทยต่อเนื่อง
วานนี้ วันก่อนหน้า
ตลาดหุ้น (ล้านบาท) -364 +1,758
SET50 Index Futures (สัญญา) +1,323 +1,499
SSF (สัญญา) -918 +79
Metal Futures (สัญญา) -904 -208
ตลาดตราสารหนี้ (ล้านบาท) +780 +438
นักลงทุนต่างชาติ กลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง 364 ล้านบาท และกดดันให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิลดลงเล็กน้อยเป็น 1,349 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Long สุทธิเป็นวันที่ 2 อีก 1,323 สัญญา รวม 2 วันทำการ Long สุทธิ 2,822 สัญญา คาดว่าจะเป็นการกลับมามีสถานะ Long สุทธิอีกครั้ง เมื่อ S50H15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index กว้างขึ้นเป็น 15.0 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 8.29 จุด
เราประเมินว่า กระแสเงินทุนต่างชาติใช้กลยุทธ์ Arbitrage บางส่วน ด้วยการขายทำกำไรในตลาด Spot และ Long สุทธิใน SET50 Index Futures อย่างโดดเด่น เพราะราคาต่ำกว่า
ทั้งนี้นักลงทุนกลุ่มนี้ ซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 3 อีก 780 ล้านบาท รวม 3 วันทำการ ซื้อสุทธิ 2,141 ล้านบาท เมื่อราคาพันธบัตรรัฐบาลแกว่งในกรอบแคบ ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 4 อีกเล็กน้อย 0.52bps ปิดที่ 2.613%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ลดลงเหลือ 453 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 1,277 ล้านบาท
Stock Total Value(mn Bt) % of trading Volume Avg.Price(Bt)
PTT 157.69 10.67% 369.74
ADVANC 46.38 4.22% 245.51
TPIPL 36.93 1.32% 2.77
VGI 31.86 40.45% 12.35
AOT 28.52 6.01% 317.23
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 5 เน้นกลุ่มพลังงาน และกลุ่มอสังหาฯ
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิอีก 904 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,277 ล้านบาท ใกล้เคียง รวม 5 วันทำการซื้อสุทธิ 5,640 ล้านบาท สรุปภาพการลงทุนของ NVDR ได้ดังนี้
1.กลุ่มพลังงานถูกซื้อสุทธิสูงสุด 452 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 229 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มอสังหาฯ ซื้อสุทธิ 231 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 271 ล้านบาท กลุ่ม ICT ซื้อสุทธิ 225 ล้านบาท กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ซื้อสุทธิ 196 ล้านบาท
2.กลุ่มขนส่ง ถูกขายสุทธิสูงสุด 81 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มเหล็ก ขายสุทธิ 62 ล้านบาท
ซื้อสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการซื้อขาย ขายสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการขาย
PTTEP 413.08 30.12 MINT -135.52 21.41
SCC 198.35 41.18 KBANK -77.75 48.91
DTAC 138.19 21.46 MAX -65.58 16.16
INTUCH 123.79 22.26 BBL -56.48 27.53
TUF 112.95 34.65 AOT -47.84 10.37
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Assistant Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong