- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 05 February 2015 16:58
- Hits: 2126
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“อาจแกว่ง...แต่ไม่หลุด 1590 ยังถือต่อ”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : SNC (จากถือเป็นซื้อ)
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : เมื่อวานนี้ SET Index ปิดลบ 2.73 จุด ที่ 1599.81 จุด (สูงสุด 1619.77 จุด) โดยเป็นผลจากแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มพลังงาน และความกังวลกับปัจจัยเสี่ยงภายนอก และ Valuation ของตลาดที่สูง นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2.4 พันล้านบาท สถาบันในประเทศนำขายสุทธิ 1.9 พันล้านบาท ที่เหลือเป็นการขายสุทธิของนักลงทุนรายย่อยและพอร์ตบล.
สำหรับ วันนี้ Sentiment เป็นลบ จากการที่ราคาน้ำมันดิบดิ่งลงแรงมาก หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐปรับขึ้นเหนือความคาดหมายที่ 6.3 ล้านบาร์เรลประกอบกับมีความกังวลกับการชำระคืนหนี้ครบกำหนดของกรีซในปลายเดือนนี้ หลังเยอรมนีไม่ยอมรับพันธบัตรระยะสั้นของกรีซเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในการระดมทุนรอบใหม่เพราะอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าระดับที่ลงทุนได้ (เป็น Junk) อย่างไรก็ตาม คาดว่าตลาดหุ้นจะยังไม่อ่อนลงรุนแรงเพราะมีแรงซื้อเก็งกำไรผลประกอบการช่วยหนุน ประกอบกับยังมีความเชื่อว่าการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซจะจบลงได้ด้วยดี แม้ว่าระหว่างเจรจาต่อรองจะส่งแรงกระเพื่อมมายังตลาดหุ้นบ้างก็ตาม สำหรับหุ้นพื้นฐานที่แนะนำซื้อลงทุนเป็น MINT
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้นมากสัญญาณเป็นลบเล็กๆ ความน่าจะเป็นคือการแกว่งลงก่อน แล้วอาจมีเด้งตามมา ยังคงให้แนวต้าน 1610-1620 ค่าลบควรลดพอร์ตตาม หลุด 1590 Stop Loss การซื้อเก็งกำไรใหม่เน้นตามด้วยค่าบวกของดัชนี & ราคาหุ้นเป็นหลัก สำหรับการ Scan หาหุ้นที่ราคามีโอกาสทำ New High ในทางเทคนิค พบว่าหุ้นที่น่าสนใจ คือ MCS, WIIK, S, IRCP, TRT ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ PACE, PS, TIPCO, CSS,PRECHA, SF หุ้นที่หลุด List คือ PERM สำหรับหุ้นที่แนะนำไปแล้วและราคาปรับขึ้นมาอยู่ในพื้นที่น่าพิจารณา Take Profit ตามรอบ คือ SC, IRPC
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
+ จีน : ธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 0.5% ของเงินฝากธนาคาร โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะชะลอตัว
• สหรัฐ : การจ้างงานม.ค.เพิ่มน้อยกว่าคาด ADP รายงงานว่าภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 213,000 รายในเดือนม.ค.58แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 240,000 ราย
-/• กรีซ : เยอรมนีไม่ยอมรับพันธบัตรกรีซเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในการระดมทุนรอบใหม่...ค่าเงินยูโรอ่อนลง ล่าสุดมีข่าวว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) ไม่ยอมรับการใช้พันธบัตรรัฐบาลกรีซมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ธนาคารกลางในการระดมทุนครั้งใหม่ของกรีซ เพราะพันธบัตรรัฐบาลกรีซอยู่ในอันดับ “Junk” ต่ำกว่าเกณฑ์การยอมรับได้ของECB ซึ่งท่าทีของเยอรมนีกดดันให้ค่าเงินยูโรอ่อนลงเมื่อคืนนี้
ความเห็น Retail Research : ในช่วงที่มีการเจรจาต่อรองเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซจะมีกระแสที่กดดันตลาดเป็นระยะๆ แต่เชื่อว่าในที่สุดแล้วจะจบลงได้ด้วยดี ทั้งนี้กรีซมีหนี้ครบกำหนดชำระในสิ้นเดือนก.พ.58 ซึ่งกรีซต้องระดมทุนราว 1 หมื่นล้านยูโรมาชำระคืนหนี้ดังกล่าว แต่การออกพันธบัตรต้องได้รับการอนุมัติจาก ECB ก่อน และเยอรมนีเป็นเสียงใหญ่ในECB (เจ้าหนี้หลักคือ ECB, EU และ IMF) เราประเมินว่าท่าทีของเยอรมนีเป็นการกดดันให้รัฐบาลใหม่ของกรีซผ่อนปรนข้อเสนอบางเรื่องในการปรับโครงสร้างหนี้รอบนี้ ขณะที่กรีซก็มีไม้ตายคือการยอมผิดนัดชำระหนี้บางส่วน ซึ่งจะสร้างความปั่นป่วนในตลาดการเงินยูโรโซนและโลกพอสมควร ทางออกคือการเจรจาต่อรองให้ได้ข้อสรุปที่พอรับได้ทั้งสองฝ่าย
• ตลาดหุ้นสหรัฐปิดกรอบแคบ ดัชนี DJIA เพิ่มขึ้น 6.62 จุด หรือ+0.04% ดัชนี NASDAQ ลดลง 11.04 จุด หรือ -0.23% ดัชนี S&P500ลดลง 8.52 จุด หรือ -0.42% ทั้งนี้ตลาดได้รับผลกระทบจากแรงขายทำกำไรกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบร่วงแรง
- สัญญาน้ำมันดิบร่วงแรง...สต็อกน้ำมันดิบที่สูงกดดัน โดย WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ดิ่ง 4.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 48.45 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนBRENT ลดลง 3.75 ดอลลาร์ ปิดที่ 54.16 ดอลลาร์/บาร์เรล ปัจจัยกดดันคือ EIA รายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบสัปดาห์ก่อนพุ่งขึ้น 6.3 ล้านบาร์เรลมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 3.5 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล
+ สัญญาทองคำตลาด COMEX กลับมาปรับขึ้น โดยสัญญาส่งมอบเม.ย.เพิ่มขึ้น 4.2 ดอลลาร์ หรือ + 0.33% ปิดที่ระดับ 1,264.50 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยความไม่แน่นอนเรื่องกรีซและตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอกว่าคาดกระตุ้นให้นักลงทุนกลับมาซื้อทองอีกครั้ง
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
•/- กลุ่ม PTT ปรับสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบปีนี้ลงเป็น 53 เหรีญสหรัฐ/บาร์เรล นายอธิคม เติบศิริ ผู้บริหาร TOP เปิดเผยว่าทางกลุ่ม PTTได้ปรับประมาณการราคาน้ำมันดิบดูไบในปี 2558 ใหม่ จากเดิมคาดการณ์จะมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 60-70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล มาอยู่ที่ 53 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากทิศทางราคาน้ำมันได้ปรับลดลงมากและมีแนวโน้มว่าจะทรงตัวต่ำ เนื่องจากอุปสงค์ที่ยังอ่อนแอ ขณะที่อุปทานในตลาดโลกสูง
+ ยอดผู้ชมทีวีดิจิตอล 21 ช่องใหม่เพิ่ม 4 เท่า นายฐากร ตัณฑสิทธิ์เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ภาพรวมทีวีดิจิทัล21 ช่องใหม่ ไม่รวมช่องฟรีทีวีเดิม หลังออกอากาศครบ 10 เดือนพบว่ามีผู้ชมเพิ่มขึ้นประมาณ 4 เท่า อยู่ที่ 14.5 ล้านคน จากเดือนเม.ย.57 มีผู้ชม4-5 ล้านคน นับเป็นข่าวบวกกับกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจทีวีดิจิตอล ซึ่งผู้ประกอบการชั้นนำในกลุ่มเป็น RS, WORK, GRAMMY, BEC เป็นต้น
• MTLS ตั้งเป้าโตก้าวกระโดดไปจนถึงปี 2560 โดยมาจากการขยายสาขาที่รวดเร็ว และการเข้าสู่ธุรกิจนาโนไฟแนนซ์ที่บริษัทจะเริ่มทำทันทีหลังกระทรวงการคลังและธปท.อนุมัติ ซึ่งคาดว่าจะเป็นประมาณกลางปี 2558ปัจจุบันบริษัทมีลูกค้า 7 แสนราย (ส่วนใหญ่อยู่ในต่างจังหวัด) และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยปีนี้มีแผนเปิดสาขาใหม่ 150 แห่ง จากปัจจุบันที่มีสาขาราว 500 แห่ง ส่วนเป้าหมายสาขาอยู่ที่ 1,000 แห่งภายในปี 2560สำหรับสาขาที่เปิดใหม่จะเน้นภาคอีสานและใต้มากขึ้น เนื่องจากบริษัทมีฐานลูกค้าในภาคเหนือและภาคกลางในระดับที่ดีมากอยู่แล้วด้านสินเชื่อคาดว่าปี 58 จะเพิ่มขึ้น 30% จากยอดสิ้นปี 2557 ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท บริษัทมีการบริหารลูกหนี้ที่ดีทำให้มีระดับ NPL ต่ำเพียง 1.5%และมี Coverage ratio สูงกว่า 250% ทั้งนี้บริษัทมีลูกค้าชั้นดีที่มีการค้างชำระไม่เกิน 30 วันสูงเกือบ 90% ของทั้งหมด ด้านต้นทุนการเงิน ผู้บริหารกล่าวว่าหลังเข้าจดทะเบียนในตลาดฯแล้วลดลง เพราะสามารถเจรจากับสถาบันการเงินเพื่อลดดอกเบี้ยได้ส่วนหนึ่ง สำหรับผลการดำเนินงาน9M57 มีรายได้ 1.35 พันล้านบาท (+19%YoY) และมีกำไรสุทธิ 397 ล้านบาท (+77%YoY) คิดเป็น EPS 0.25 บาท/หุ้น
• SAMART-W1 จะขึ้นเครื่องหมาย XW วันที่ 11 ก.พ.นี้ โดยบริษัทออกWarrant ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 5 หุ้นเดิม ต่อ 1 W และเพิ่มทุน201.3 ล้านหุ้นเพื่อรองรับการแปลงสภาพ (Warrant อายุ 3 ปี แปลงสภาพ1 : 1 @ 45 บาท) ทาง DBSV ประเมินมูลค่า SAMART-W1 ไว้ที่ 9.2-12.7บาท (ใช้ราคาแม่ที่ 44 บาท)
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 [email protected]