- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 05 February 2015 16:43
- Hits: 1495
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Switch to Bank and ICT
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ SET INDEX ยังไม่ผ่าน 1,615 จุด เกิดแรงขายทำกำไรในบริเวณดังกล่าว อีกทั้งในรอบบ่ายตลาดหุ้นยุโรปเปิดย่อตัว และราคาน้ำมันดิบ NYMEX เริ่มปรับฐานลง สร้างแรงกดดันต่อภาพรวมการลงทุนมากขึ้น ส่งผลให้ SET INDEX ปิดหลุดแนว 1,600 จุดเล็กน้อย มาอยู่ที่ 1,599.81 จุด ลบ 2.73 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 63,689 ล้านบาท
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 อีก 2,436 ล้านบาท ทำให้ YTD เป็นซื้อสุทธิ 62 ล้านบาท พร้อม Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ 2,866 สัญญา น่าจะเป็นการปิดสถานะ Short ที่เปิดไว้ก่อนหน้าทั้งหมด แม้ว่าจะขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 มากถึง 6,519 ล้านบาท แต่ภาพรวมของเงินทุนต่างชาติเป็นกลางถึงบวกต่อตลาดหุ้นไทย
ปัจจัยสำคัญวันนี้
•ธนาคารกลางจีนประกาศลด RRR อีก 50bps เป็น 19.50% เชื่อว่าจะทำให้ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงขยับขึ้นเด่น สวนทางกับภาพรวมในเอเชีย
•ขณะที่ ECB ประกาศไม่ให้พันธบัตรของกรีซ เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ในยุโรปได้ ซึ่งเป็นการประกาศหลังตลาดหุ้นยุโรปปิดวานนี้
•ติดตามการรายงานผลการดำเนินงาน ADVANC ในวันนี้
•ติดตามการประชุม BoE ในค่ำนี้ Bloomberg consensus คาด BoE คงนโยบายการเงินเช่นเดิม
•TTA ขึ้น XR และ XB วันนี้
มุมมองต่อตลาด
เราขยับมุมมองเป็น “กลาง” วันที่ 9 SET INDEX ปรับฐานเล็กน้อยวานนี้ และแม้ว่าธนาคารกลางจีนวานนี้ประกาศลด RRR และตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ มากกว่า 2.0 แสนตำแหน่งเป็นเดือนที่ 5 ช่วยจำกัด Downside risk ให้แก่ตลาดหุ้นโดยรวม เพราะปัจจัยลบที่สำคัญและน่าจะกดดันตลาดหุ้นยุโรปในบ่ายวันนี้คือ ECB ประกาศยกเลิกให้พันธบัตรรัฐบาลกรีซ เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ในอียู คาดว่าราคาพันธบัตรกรีซและตลาดหุ้นกรีซจะผันผวนสูงในบ่ายวันนี้ และกดดัน Sentiment โดยรวมในช่วงบ่าย
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเริ่มปรับฐานลง และหลุดแนว US$50/barrel สำหรับน้ำมันดิบ NYMEX สอดคล้องกับที่เราประเมินไว้วานนี้ว่า ราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัวก่อนหน้า อาจเป็นเพียง Technical Rebound บวกกับการเร่งปิดสถานะก่อนหมดอายุสัญญาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เราจึงแนะนำให้นักลงทุนพิจารณาขายทำกำไรในกลุ่มน้ำมันที่ฟื้นตัว และปรับพอร์ตเข้ากลุ่มธนาคาร เพื่อเก็งกำไรต่อเงินปันผล และกลุ่ม ICT ต่อผลการดำเนินงาน ประเด็นนี้อาจกดดันกลุ่มน้ำมันในช่วงสั้น แต่จะถูกหักล้างจากเงินทุนที่ปรับพอร์ตเข้ากลุ่ม Domestic Play และกลุ่มขนส่งที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง
เราประเมินกรอบแกว่งของ SET INDEX วันนี้ระหว่าง 1,590 – 1,605/1,610 จุด กลุ่ม Domestic Play โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร และกลุ่ม ICT จะขยับเด่น ทั้งนี้ติดตามการรายงานผลการดำเนินงาน ADVANC หลังตลาดปิดรอบเช้านี้
ตลาด Nikkei / Kospi เช้านี้ (7.21 น) เปิดลบเล็กน้อย 0.3-0.6% ต่อตลาดเท่านั้น แม้ว่ากรณี ECB จะกดดันตลาดหุ้นในเอเชียเช้าวันนี้อยู่บ้าง แต่ประเด็นของธนาคารกลางจีน กลับเข้ามาช่วยชดเชย
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ “นักลงทุนกลับเข้าเก็งกำไรหุ้นเป้าหมายแบบจำกัดวงเงิน” หลังวานนี้ให้ขายทำกำไรบริเวณ 1,610 จุด +/- ไปแล้ว เน้นหุ้นที่คาดว่าผลการดำเนินงานใน 4Q57 จะเติบโตเด่น หรือ ผลตอบแทนจากเงินปันผลงวดปี 2557 หรือ 2H57 อยู่ในระดับสูง
Portfolio Top Pick in 1Q15: ADVANC / BJCHI / ITD / KTB
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ KTB/ TTA/ ADVANC/ MONO / TASCO
Accumulative Buy: KTB / TASCO
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “ทยอยสะสม” ได้แก่
1.KTB : ราคาปิด 23.00 บาท ราคาเหมาะสม 27.00 บาท
a)MBKET คาดว่า KTB จะประกาศจ่ายเงินปันผลปี 2557 ในช่วงปลายเดือน ก.พ. และคาดการณ์เงินปันผลหุ้นละ 0.90 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดีที่ 3.9%
b)คาดสินเชื่อปี 2558 เติบโต +8% yoy จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ผลักดันให้สินเชื่อรายย่อย และ SME ขยายตัว นอกจากนั้น KTB ยังได้ประโยชน์โดยตรงจากการปล่อยกู้สินเชื่อโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐฯ ที่จะเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากในปีนี้
c)Coverage Ratio อยู่ในระดับสูงที่ 127% สิ้นสุด 4Q57 จาก 108% ใน 3Q57 จากการตั้งสำรองพิเศษจำนวนมากในปี 2557 ที่ผ่านมา ดังนั้น คาดว่าการตั้งสำรองในปีนี้จะลดลง yoy และหากสภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวดีกว่าคาด อาจส่งผลให้การตั้งสำรองต่ำกว่าประมาณการของเรา และเป็น Positive Surprise ให้กับตลาดได้เช่นกัน
d)คาดกำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +9.2% yoy เป็น 3.62 หมื่นล้านบาท และซื้อขายระดับ PBV 2558 เพียง 1.3x เทียบกับ BAY 2.9x, KBANK 1.8x, SCB 1.9x และ TMB 1.7x
2.TASCO : ราคาปิด 84.00 บาท ราคาเหมาะสม 90.00 บาท
a)MBKET คาดการณ์กำไรสุทธิ 4Q57 ที่ 475 ล้านบาท พลิกกลับจากขาดทุนสุทธิ 50 ล้านบาท ใน 4Q56 และเติบโต +12% qoq จากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น +29% yoy เป็น 11,495 ล้านบาท
b)และได้ประโยชน์จากต้นทุนน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง หลังราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลงเหลือ US$60.00/barrel จาก 3Q57 ที่ US$103.00/barrel ส่งผลให้ Gross Margin ใน 4Q57 เพิ่มขึ้นเป็น 6.9% จาก 4Q56 ที่ 3.8% และ 3Q57 ที่ 5.9%
c)คงมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตในปี 2558 เนื่องจากกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทได้จัดสรรงบประมาณเพิ่มขึ้นเป็น 1.02 แสนล้านบาท +12% yoy และจะเป็นปีแรกที่เห็นผลประโยชน์เต็มที่จากการร่วมทุนกับ SK Energy เพื่อเพิ่มยอดขายยางมะตอยในภูมิภาค
d)นอกจากนั้น นโยบายนำยางพารามาผสมยางมะตอยเพื่อพยุงราคายางพาราจะเป็นบวกต่อ TASCO เนื่องจากเป็นเจ้าของเทคโนโลยี
e)คาดกำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +8.3% yoy เป็น 1,250 ล้านบาท และ Valuation ยังค่อนข้างถูก เนื่องจากซื้อขายระดับ PER 2558 เพียง 10.2 เท่า และประมาณการกำไรของเรามี Upside Risk เนื่องจากใช้สมมติฐานที่ค่อนข้างระมัดระวังในการทำประมาณการ
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 3 อีก US$694 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$490 ล้าน
ตลาดหุ้น วานนี้(US$ ล้าน) วันก่อนหน้า(US$ ล้าน) YTD(US$ ล้าน) 2557(US$ ล้าน) 2556(US$ ล้าน)
TAIEX 324.0 248.9 2,848.4 13,190.4 9,188.0
KOSPI 199.0 -21.0 -855.8 6,165.50 4,875.1
JSE 69.4 26.5 115.0 3,750.60 -1,806.4
PSE 27.7 167.4 704.7 1,256.1 678.4
ตลาดหุ้นเวียดนาม -0.4 -1.4 -5.3 135.6 263.2
SET INDEX 74.7 69.8 6.0 -1,091.4 -6,210.5
Foreign Investors Action วานนี้
ยอด YTD นักลงทุนต่างชาติกลับมาเป็นซื้อสุทธิอีกครั้ง
วานนี้ วันก่อนหน้า
ตลาดหุ้น (ล้านบาท) +2,436 +2,274
SET50 Index Futures (สัญญา) +2,866 -2,130
SSF (สัญญา) -183 +390
Metal Futures (สัญญา) -1,112 +255
ตลาดตราสารหนี้ (ล้านบาท) -6,599 -317
นักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 อีก 2,436 ล้านบาท และทำให้ 2 วันทำการซื้อสุทธิ 4,710 ล้านบาท มากเพียงพอที่จะทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาเป็นซื้อสุทธิอีกครั้ง 62 ล้านบาท ซึ่งเป็นประเด็นที่น่าติดตาม ต่อทิศทางกระแสเงินทุนต่างชาติ
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Long สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ 2,866 สัญญา คาดว่าเป็นการปิดสถานะ Short ที่เปิดไว้วันก่อนหน้าทั้งหมด กดดันให้ S50H15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index กว้างขึ้นเป็น 6.20 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เพียง 3.31 จุด
การซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยอย่างหนาแน่น และ YTD กลับมาเป็นซื้อสุทธิ ส่วน SET50 Index Futures กลับเร่งปิดสถานะ short ที่เปิดไว้ก่อนหน้านี้ เป็นสัญญาณบวกที่น่าสนใจต่อการลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ของตลาดหุ้นไทย
แม้ว่าต่างชาติคงการขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 มากถึง 6,599 ล้านบาท รวม 2 วันทำการ ขายสุทธิ 6,836 ล้านบาท ทั้งนี้ราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับลดลงเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้น 1.30bps ปิดที่ 2.585%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling เท่ากับ 1,007 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 660 ล้านบาท
Stock Total Value(mn Bt) % of trading Volume Avg.Price(Bt)
PTT 357.40 9.99% 379.00
PTTGC 152.48 9.15% 61.09
AOT 96.06 6.20% 317.75
IRPC 66.26 3.77% 3.86
KBANK 28.19 1.95% 226.60
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 เน้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มวัสดุก่อสร้าง
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิอีก 900 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,318 ล้านบาท เน้นกลุ่มพลังงานและวัสดุก่อสร้างอย่างโดดเด่น สรุปภาพการลงทุนของ NVDR ได้ดังนี้
1.กลุ่มพลังงานกลับมาเป็นเป้าหมายของการสะสมสูงสุดอีกครั้ง 339 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 176 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่ม วัสดุก่อสร้าง ซื้อสุทธิ 229 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 143 ล้านบาท กลุ่ม ICT ซื้อสุทธิ 164 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 650 ล้านบาท และกลุ่มธนาคาร ซื้อสุทธิ 132 ล้านบาท
2.ส่วนกลุ่มอสังหาฯ ถูกขายสุทธิสูงสุด 67 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มเกษตร ขายสุทธิ 45 ล้านบาท
ซื้อสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการซื้อขาย ขายสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการขาย
PTT 347.32 9.61 IRPC -158.14 9.84
SCC 213.10 26.54 BTS -104.28 17.77
PTTEP 137.31 6.60 BBL -92.38 29.82
KBANK 125.71 27.32 ITD -87.44 6.87
TRUE 113.51 3.68 LPN -76.64 17.15
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Assistant Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong