- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 04 February 2015 18:43
- Hits: 1989
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
รอบด้านตลาดหุ้น
มุมมองตลาด
ตลาดหุ้นไทยปิดทะลุ 1600 จุด ปัจจัยบวกยังคงเป็นเรื่องของกระแสเงินลงทุนที่ไหนเข้าสู่ตลาดทุน หนุนจากนโยบายทางการเงินที่ผ่อนคลายของธนาคารกลางยุโรป อย่างไรก็ตามจากมาตรการ QE ที่เกิดขึ้นในครั้งก่อนๆพบว่าแผนมูลค่า 1.1 ล้านล้านยูโรของธนาคารกลางยุโรปอาจไม่ได้ช่วยให้เงินทุนไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นในแถบเอเชียเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก แต่จะช่วยให้ตลาดทรงตัวอยู่ในระดับซื้อขายที่ค่อนข้างสูงได้ ในส่วนของภาวะการซื้อขายของตลาดโดยรวมพบว่าหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ฟื้นตัวตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเนื่องจากเหตุผล
1.จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐลดจากเดือนต.ค 57 ราว 24%
2.กองทุนเฮดฟันด์ทำ short covering ช่วงเปลี่ยนซีรีส์
3.การวิ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบเร็วทำให้กลุ่มผลิตน้ำมันดิบลดจำนวนแท่นผลิต
4.ปริมาณอุปสงค์น้ำมันดิบทั่วโลกยังเพิ่มช้ากว่าคาด
สรุป:มุมมองราคาน้ำมันดิบอาจฟื้นตัวระยะสั้น อย่างไรก็ตามระยะยาวคาดว่าราคาน้ำมันจะยังไม่ปรับตัวขึ้นได้ไกล ฝ่ายวิเคราะห์เราคาดว่าผลประกอบการไตรมาส 4/57 กำไรของบริษัทในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีจะอ่อนตัวลง
สัญญาณทางเทคนิคบ่งชี้ถึงความเสี่ยงภายหลังจากการสร้างรูปแบบ Triple top ของการเปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาลง ขณะที่เครื่องมือทางเทคนิค RSI ปรับตัวขึ้นเข้าสู่กรอบบน Overbought ( กรณีหักล้างดัชนีต้องทะลุ 1610 จุดขึ้นไปและยืนเหนือได้) นอกจากนี้เรามองว่าตลาดจะมีความเสี่ยงจากเครื่องมือ RSI ปรับตัวขึ้นเข้าใกล้กรอบบนซึ่งหมายถึงมูลค่าตลาดที่ค่อนข้างแพง
มุมมองราคาน้ำมันดิบและหุ้นกลุ่มพลังงาน
ราคาน้ำมันดิบ Wti เทรดในตลาด New York กับ Brent ที่ซื้อขายในตลาด London เมื่อวานยังคงทะยานขึ้นต่อจากภาวะ oversold โดยมีปัจจัยเรื่องการลดจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในประเทศสหรัฐเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดแรงซื้อ cover ฟิวเจอร์กลับจากบรรดากองทุนเฮดฟันด์ที่ทำการซื้อขายและเปิดสัญญาด้าน Short มาก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี เรามองว่าปัจจัยพื้นฐานน้ำมันเองนั้นยังไม่เห็นสัญญานที่ชี้ชัดว่า ราคาน้ำมันที่ระดับ $53 ต่อบาร์เรลจะสามารถทรงตัวได้ในขณะนี้ท่ามกลางปริมาณน้ำมันดิบผลิตที่เพิ่มขึ้นจากทั้งกลุ่มโอเปค และ นอกกลุ่มโอเปค
PTT ราคาปิดเมื่อวานนี้ทำให้อัตราผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนเทียบเท่ากับตลาดโดยรวม โดยปัจจัยที่ไม่แน่นอนของตลาดน้ำมัน แต่ปัจจัยบวกระยะสั้น คือ การขายหุ้นที่ถือใน BCP ออกไปให้กองทุนวายุภักษ์ 15% และกำลังเจรจาขายหุ้นที่เหลืออีก 12% ให้กับกลุ่มผู้ถือหุ้นรายอื่นต่อไป โดยได้เงินราว 1 หมื่นล้านบาท และมีกำไรราว 5 พันล้านบาท เราประเมินว่าโอกาสที่ราคาหุ้นจะขึ้นได้ดีกว่าดัชนีตลาดฯนั้นยาก เราแนะนำขายระดับ 380 +/-
PTTEP ราคาปิดสะท้อนการดีดตัวระยะสั้นของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก แต่ราคาน้ำมันดิบเราประเมินระยะสั้นได้เพียง $55 ต่อบาร์เรล ดังนั้น ราคาหุ้นน่าจะทดสอบแนวต้าน 125 บาท และน่าจะทะลุไปได้ไม่เกิน 130 บาท มุมมองสั้น รอขายที่บริเวณราคาแนวต้าน
ธนรัตน์ อิศรกุล Tel. (662) 618-1334
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาด
เงินเฟ้อม.ค.ติดลบแบงก์ชาติเต้น ร่อนจม.แจงคลัง-ย้ำไม่เกิดเงินฝืด
ธปท.ส่งจดหมายเปิดผนึกแจง รมว.คลัง เหตุเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ม.ค.ติดลบ 0.41% เกิดจากราคาน้ำมันโลกลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ ไตรมาส 4/57 พร้อมย้ำเศรษฐกิจไทยไม่ได้เข้าสู่ "ภาวะเงินฝืด" ชี้ความต้องการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนยังอยู่ในเกณฑ์ดี มั่นใจก่อนสิ้นปี กลับเข้าสู่กรอบ 2.5% +/- 1.5% (หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ)
อสังหาฯลุ้นโอนคอนโดแสนล้านหวั่นทิ้งดาวน์
เศรษฐกิจไม่เป็นใจ อสังหาฯ ลุ้นยอดโอนปี'58 สำรวจบิ๊กแบรนด์ 10 ราย ตุนแบ็กล็อกรอรับรู้รายได้ถล่มทลายทะลุ 1 แสนล้าน คอนโดฯนำโด่ง 85% ขณะที่สถิติแบงก์ปฏิเสธสินเชื่อสูงลิ่วถึง 30% โบรกเกอร์ ค่าย "เอเซีย พลัส" ชี้ภาวะฟองสบู่กระทบลูกค้าต่างจังหวัดเสี่ยงทิ้งดาวน์สูง มีสัดส่วน 10-15% มูลค่าเฉียด 2 หมื่นล้าน (หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ)
'เวิร์คพอยท์-ช่อง8'โชว์เรตติ้งพุ่งขยับค่าโฆษณา
ทีวีดิจิทัลแห่ขึ้นค่าโฆษณาเฉลี่ย 40% ฟาก 3-5-7-9 รอประเมินสถานการณ์ก่อนขยับขึ้นค่าโฆษณา ในช่วงไตรมาส 2 ด้านผลสำรวจรับชมทีวีดิจิทัลผู้ชมไทยครั้งที่ 3 พบคนดูทีวีดิจิทัลเพิ่มขึ้น "เวิร์คพอยท์-ช่องวัน-ไทยรัฐทีวี" แรงดีไม่มีตก สมาคมมีเดียเอเยนซี่ฯเตรียมเรียกบริษัทวิจัยประมูลจัดเรตติ้งใหม่กลางปีนี้ (หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ)
จี้ลดภาษีเอสเอ็มอี-เก็บแบบขั้นบันไดเริ่ม5%
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐเอกชน 3 องค์กร(กกร.) ว่าที่ประชุมหารือถึงแนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) เพื่อเตรียมเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน(กรอ.) พิจารณาเร็วๆ นี้ (หนังสือพิมพ์ข่าวสด)
ปี'58ไทยคงผู้นำส่งออกข้าวโลก ทะลุ10ล.ตันทิ้งห่างอินเดีย-เวียดนาม
ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า สมาคมคาดการณ์ปริมาณส่งออกข้าวในปี 2558 จะได้ 10 ล้านตัน มีมูลค่า 4,950 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินบาทประมาณ 1.61 แสนล้านบาท ลดลงจากปี 2557 ที่ส่งออกได้ 10.96 ล้านตัน มูลค่า 5,439 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.74 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขคาดการณ์ที่ต่ำกว่า เป้าหมายของกระทรวงพาณิชย์ที่กำหนดไว้ 10-11 ล้านตัน โดยไทยยังคงเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวเป็นอันดับ 1 ของโลก สูงกว่าอินเดียคาดส่งออกได้ 8.7 ล้านตัน และเวียดนามคาดส่งออกได้ 6.7 ล้านตัน (หนังสือพิมพ์มติชน)
กรมบัญชีบี้50หน่วยงานเร่งเบิกจ่ายภายในมี.ค.
นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า วันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้ กรมได้เชิญ 50 หน่วยงานราชการที่ได้รับงบลงทุนตั้งแต่ 300 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 1,000 ล้านบาท เพื่อติดตามการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2558 และร่วมแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่ล่าช้า ซึ่งหากหน่วยงานใดไม่สามารถลงนามสัญญาได้ภายในเดือนมีนาคม 2558 กรมจะรวบรวมรายชื่อหน่วยงานและปัญหาอุปสรรคเสนอคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายเงินภาครัฐ ทำการพิจารณาในเดือนเมษายน 2558 ซึ่งก่อนหน้านี้ได้หารือหน่วยงานงบประมาณเกิน 1,000 ล้านบาทแล้ว ส่วนใหญ่รับปากว่าเร่งรัดให้มีการก่อหนี้ผูกพันในช่วงไตรมาส 2 และมั่นว่าสิ้นปีงบประมาณจะเบิกจ่ายได้ตามเป้าหมาย 87% ตามที่รัฐบาลกำหนดไว้อย่างแน่นอน (หนังสือพิมพ์มติชน)
ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ Tel. (662) 618-1330-1
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
รายงานวันนี้
หุ้น: INTUCH คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 106.00
เราชื่นชอบ INTUCH เป็นอันดับสองของกลุ่ม ICT เนื่องจากมูลค่ายังถูกและอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2558 ค่อนข้างดีที่ 6%
นอกจากนี้ แนวโน้มการเติบโตของกำไรปี 2558-2559 สำหรับ ADVANC และ THCOM ยังดูสดใสและมีอัพไซด์จากปัจจัยหนุนต่างๆ
เราคาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/57 สำหรับ INTUCH ที่ 3.83 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% YoY และ 1% QoQ
ด้าน ADVANC เรามองว่ากำไรหลักไตรมาส 4/57 จะอยู่ที่ 9.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% YoY และ 7% QoQ หนุนจากรายได้บริการที่เติบโตและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลง QoQ
สำหรับ THCOM เราคาดกำไรหลักไตรมาส 4/57 ที่ 400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% YoY แต่ลดลง 15% QoQ
นักวิเคราะห์: ประสิทธิ์ สุจิรวรกุล, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
หุ้น: SPALI คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 28.00
ราคาหุ้นได้รับแรงกดดันระยะสั้นจากพลาดเป้าหมายทั้งยอดจองซื้อและรายได้สำหรับปี 2557
ทั้งยอดจองซื้อและกำไรสุทธิไตรมาส 4/57 ไม่สดใส
เป้าหมายธุรกิจสำหรับปี 2558 ดูมากเกินไปในมุมมองของเรา
การลงทุนในต่างประเทศส่งผลต่อกำไรสุทธิปี 2558 ให้แก่บริษัทมากนัก
นักวิเคราะห์: นฤมล เอกสมุทร, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
หุ้น: ICHI คำแนะนำ: ถือ ราคาเป้าหมาย (บาท): 20.00
ปรับลดคำแนะนำลงเป็น "ถือ" (จากเดิม ซื้อ) และปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 20 บาท
ปรับลดประมาณการณ์กำไร ปี 2015-16 ลง 22% และ 29% ตามลำดับ เนื่องจากการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงกว่าคาดในปี 2014 ยังมีแนวโน้มต่อเนื่องไปจนถึงปี 2015 ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มอ่อนแอลง
เรามองว่าราคาหุ้นยังไม่สามารถกลับไปซื้อ-ขายบน PE สูงเท่าปี 2014 (ราว 25-30 เท่า) เนื่องจากขาดปัจจัยหนุนและยังคงมีปัจจัยกดดันอย่างต่อเนื่อง เราจึงใช้ราคาเป้าหมายอิง PE 20 เท่า เทียบเท่าค่าเฉลี่ยกลุ่มเครื่องดื่ม
เราคาดกำไร 4Q14 ที่ 257 ล้านบาท (+39%YoY, -3% QoQ) แย่กว่าคาดการเบื้องต้นเดิมที่ 315 ล้านบาท หรือ -18% ทำให้ประมาณการกำไรปี 2014 ลดลง 4.8% เหลือเพียง 1,133 ล้านบาท
นักวิเคราะห์: วิกิจ ถิรวรรณรัตน์, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์: ธนัท พจน์เกษมสิน