- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 04 February 2015 17:11
- Hits: 1539
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
หลังจากซื้อแล้ว ให้เน้นถือต่อเนื่องเพื่อรอ 1650 จุด(+/-)...
กลยุทธ์ : SET เริ่มพลิกกลับได้แข็งแกร่งขึ้น ขณะที่เข้าสู่ช่วงเก็งกำไรผลประกอบการรายปีแล้วด้วย ดังนั้นหลังจากเราแนะนำให้เลือกหุ้นเข้าซื้อสะสมไปแล้ว ถัดจากนี้เน้นถือต่อเนื่องได้
หุ้นเด่นทางเทคนิค : EARTH, AMATA, KTC(buy back)
แนวโน้ม : เมื่อวานนี้ SET เริ่มมีจังหวะดีดตัวกลับขึ้นได้แข็งแกร่งพอควร หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีได้ปรับพักตัวลงไปบ้างแล้ว ซึ่ง FSS คาดไว้ว่ายิ่งเข้าใกล้ช่วงประกาศผลการดำเนินงานงวดปี 57 ก็จะยิ่งมีโอกาสที่จะมีแรงซื้อเก็งกำไรผลประกอบการเข้ามาช่วยหนุนให้ SET พลิกกลับไปแกว่งตัวบวกขึ้นจริงจังอีกครั้งได้ตามที่เคยกล่าวถึงไปแล้ว โดยเช้านี้ยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบวกขึ้นแรงของตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปเมื่อคืนนี้ เนื่องจากมีความคืบหน้าในการเจรจาหนี้ของรัฐบาลกรีซชุดใหม่ที่มีท่าทีอ่อนลงในการแก้ไขปัญหาหนี้ ช่วยให้ตลาดคลายวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซนลงได้บ้าง รวมทั้งยังได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นต่อเนื่องของราคาน้ำมันดิบด้วย ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เริ่มมีจังหวะดีดตัวบวกได้ดีขึ้น ซึ่งจะยิ่งช่วยหนุนความมั่นใจในตลาดหุ้นบ้านเราได้อีก หลังจากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติในบ้านเราก็เริ่มมีกลับเข้ามาต่อเนื่องมากขึ้นแล้ว ทำให้ FSS คาดว่า SET กำลังจะขยับขึ้นหาจุดสูงสุดเดิมแถว 1649.77 จุดได้ในเร็วๆ นี้
แนวรับ 1600-1595 , 1592-1585 จุด
แนวต้าน 1610-1620 , 1637-1650 จุด
Fund Flow วานนี้ไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคในปริมาณที่หนาแน่น โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไต้หวัน US$246.3 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$167.4 ล้าน ไทย US$69.6 ล้าน และอินโดนีเซีย US$26.5 ล้าน แต่ขายเกาหลีใต้ US$21 ล้าน และเวียดนาม US$1.4 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้แข็งค่าเล็กน้อย Flow น่าจะยังไหลเข้าต่อ
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) ครม.เพิ่มงบอีก 8 พันล้านบาทให้รถไฟสายสีแดงทั้ง 3 สัญญา ที่ประชุมครม.วานนี้ได้อนุมัติการแก้ไขแบบก่อสร้างของรถไฟสายสีแดงทั้ง 3 สัญญา ทำให้มีค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้น 8,140 ล้านบาท เป็นบวกต่อรายได้ของ UNIQ ซึ่งชนะประมูลในสัญญาที่ 1 (ก่อสร้างสถานีกลางและศูนย์ซ่อมบำรุง) วงเงินใหม่ 4,315 ล้านบาท และ ITD ซึ่งชนะประมูลในสัญญาที่ 2 (งานโยธาทางรถไฟช่วงบางซื่อ-รังสิต) วงเงินใหม่ 3,352 ล้านบาท
(+) INTUCH เรากลับมาแนะนำหุ้น INTUCH ใหม่โดยประเมินราคาเป้าหมาย 108 บาท จากกำไรปกติที่คาดว่าจะเติบโต 16% Y-Y ในปีนี้ โตสูงสุดในรอบ 3 ปี และคาดโตต่อเนื่อง 24% Y-Y ปี 2016 จากกำไรที่อยู่ในทิศทางขาขึ้นของ ADVANC และ THCOM ยังคงแนะนำซื้อ และคาดปันผลงวด 2H14 หุ้นละ 2.33 บาท (yield 2.8%)
(+) CENTEL เป็นอีกบริษัทที่ได้ประโยชน์จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว เราคาดกำไรปกติ 4Q14 +132% Q-Q ตามฤดูกาล และ +34% Y-Y เพราะไม่ถูกดดันจากการเมืองเหมือนปีก่อน แต่กำไรปกติปี 2014 คาดลดลง 15% Y-Y และจะโตโดดเด่นอีกครั้งในปี 2015 คาดกำไรปกติโตถึง 29% Y-Y คงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 40 บาท
(+) SPALI เราคาดกำไรปกติ 4Q14 +2% Q-Q, -8% Y-Y อัตราการเติบโตของกำไรไม่ตื่นเต้นเมื่อเทียบกับ 3Q14 ที่โตหลายร้อยเปอร์เซนต์ทั้ง Q-Q, Y-Y และทั้งปี 2014 กำไรน่าจะโตสูงถึง 55% Y-Y สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม และคาดโตต่อเนื่อง 8% Y-Y ในปี 2015 โดยมี Backlog รองรับคาดการณ์ของรายได้ปีนี้แล้ว 43% จึงน่าจะทำได้ตามคาด แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 30 บาท คาดปันผลงวด 2H14 หุ้นละ 0.55 บาท (yield 2%)
(+) CSS การขยายตัวทางธุรกิจในช่วง 3 ปีจากนี้ไปน่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง โดยในช่วง 2 ปีนี้ (ปี 2015-16) ธุรกิจติดตั้งเสาโทรศัพท์มือถือ 3G และ 4G (ที่จะประมูลใน 3Q15) ที่มีปริมาณงานเป็นจำนวนมาก ยังคงเป็นพระเอกในการผลักดันกำไร ขณะที่ธุรกิจโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ที่ CSS ร่วมลงทุนกับพาร์ทเนอร์ได้สัญญาแล้ว 10.2MW ในญี่ปุ่น และมีแนวโน้มจะได้เพิ่มในอนาคตทั้งในญี่ปุ่นและไทย จะเข้ามาเสริมกำไรตั้งแต่ 4Q15 และมีนัยสำคัญมากขึ้นในปีหน้า เราคาดกำไรปี 2014 โต 112% และโตต่อเนื่อง 42% ในปีนี้ และมีโอกาสสูงกว่าคาดหากบริษัทสามารถเพิ่มกำลังการติดตั้งเสาโทรคมฯทางลัดโดยการซื้อกิจการนอกตลาด เราประเมินราคาเป้าหมาย 9.5 บาทไม่รวม M&A แนะนำซื้อ
(-) BJC เราคาดกำไรสุทธิ 4Q14 +111% Q-Q, +4% Y-Y ถ้าไม่รวมรายการพิเศษในไตรมาสก่อน คาดกำไรปกติฟื้น 55% Q-Q แต่ลดลง 3% Y-Y จากการฟื้นของธุรกิจ Packaging และ Healthcare แต่ด้วยผลประกอบการที่อ่อนแอใน 9M14 คาดกำไรสุทธิปี 2014 ลดลง 31% Y-Y แม้เราจะคาดกำไรสุทธิปีนี้โต 37% Y-Y แต่ PE แพง 28 เท่า และดีลซื้อ Metro ยังอยู่ระหว่างเจรจา จึงแนะนำเลี่ยงการลงทุน เป้าหมายยังคงเดิม 42 บาท
(-) SVI ฟื้นฟูโรงงานหลังไฟไหม้ได้เร็วกว่าคาด โดยติดตั้งเครื่องจักรใหม่บางส่วนตั้งแต่ ธ.ค. และผลิตแล้ว 25-30% ของกำลังการผลิตเดิม คาดกลับสู่ปกติในปี 2016 เราปรับเพิ่มประมาณการปี 2015 แต่กำไรปกติน่าจะลดลง 24% Y-Y แนะนำขาย เพราะ Core PE สูง 16.4 เท่า สะท้อนการฟื้นตัวแล้ว ราคาเป้าหมายปรับขึ้นเป็น 3.50 บาทจาก 2.40 บาท
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาพุ่งขึ้นแรงอีกกว่า 300 จุดหลังราคาน้ำมันดิบพุ่งแรงหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน รวมถึงได้รับปัจจัยหนุนจากสถานการณ์ในยูโรโซนที่ดีขึ้น
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดในแดนบวกได้เช่นกันจากการที่กรีซมีแผนที่จะเจรจากับเจ้าหนี้ซึ่งลดความกังวลเรื่องที่กรีซอาจต้องพ้นสภาพการเป็นสมาชิกยูโรโซน รวมถึงแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ตามตลาดหุ้นภูมิภาคอื่นเช่นกันจากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นบวก
หลังจากแข็งค่าขึ้นมาค่อนข้างแรงเมื่อ 2 วันก่อน ค่าเงินบาทแกว่งตัวในกรอบ 32.48-32.65 บาท/ดอลลาร์
น้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน มี.ค. ปิดที่ 53.05 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 3.48 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยตลาดคาดว่าราคาน้ำมันได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว รวมถึงถึงแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าและบริษัทน้ำมันปรับลดการลงทุนด้านการผลิต
ทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ปิดที่ 1,260.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 16.60 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังมีกรีซมีแผนที่จะเจรจากับเจ้าหนี้ซึ่งหนุนให้เม็ดเงินไหลออกจากสินทรัพย์ปลอดภัยเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยง
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
12 ก.พ. - ฟิลิปปินส์: ธนาคารกลางประชุม
- สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (ม.ค.)
- ยูโรโซน: 4Q14 GDP
16 ก.พ. - ไทย: 4Q14 GDP (สศค.คาด GDP 4Q14 โต 2.3% Y-Y ทั้งปีโต 0.7%)
- ญี่ปุ่น: 4Q14 GDP
17 ก.พ. - อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI) ประชุม
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BOK) ประชุม
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852