WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

“เลือกซื้อ/ถือเมื่อ SET เหนือ 1575”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
     ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นไทยวานนี้แกว่งตัว โดยอยู่ในแดนลบมากกว่าบวก แต่ปิดตลาดปรับขึ้นได้เล็กน้อย 1.45 จุด ที่ 1582.70หนุนโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน และหุ้นขนาดเล็ก & หุ้นปันผลสูง โดย SETHD และ MAI ปรับขึ้น Outperform SET50 และ SET100 นักลงทุนรายย่อยนำซื้อสุทธิ ส่วนพอร์ตบล.นำขายสุทธิ

     สำหรับวันนี้ Sentiment ค่อนไปทางบวกแต่ไม่ถึงกับมาก ทั้งนี้การปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานอันเนื่องจากการดีดกลับของราคาน้ำมันดิบได้เกิดขึ้นในตลาดเอเชียและตลาดหุ้นไทยไปบ้างแล้วเมื่อวานนี้ ดังนั้นจึงอาจมีการแกว่งตัวจากแรงขายทำกำไร (เหมือนกับที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นเอเชียในเช้าวันนี้)นอกจากนั้นดูเหมือนว่า Fund Flow ต่างชาติที่เข้ามาลงทุนก็แผ่วลง เพราะรอปัจจัยกระตุ้นใหม่ๆ อย่างไรก็ดี การซื้อเก็งกำไร/ลงทุนในหุ้นขนาดกลาง-เล็กรวมถึงหุ้นที่จ่ายปันผลสูงยังคงมีอยู่ ซึ่งจะช่วยพยุงตลาดให้ไม่ลดลงแรงอย่างมีนัยสำคัญในช่วงนี้ ปัจจัยกดดัน คือ ปัญหาภายนอก, ความกังวลกับเศรษฐกิจและการเมืองภายใน สำหรับเดือนก.พ.58 ซึ่งคาดว่าจะมีความผันผวนในตลาดพอสมควร เราแนะนำเลือกซื้อหุ้นที่คาดว่าจะมีผลประกอบการดีในปี 2558 หุ้น Top Picks เป็น AAV, MINT, QH, RATCH, STPI ส่วน Dark Horse คือ SC, TMB สำหรับหุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้เป็น RATCH

     การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้นมากสัญญาณเหมือนจะเป็นบวกเล็กๆ โดยมีลุ้นรีบาวด์ต่อก่อนลงต่ำ แนวต้าน 1590-1600, 1610-1620 ค่าลบควรลดพอร์ตตาม หลุด 1575 Stop Loss การซื้อเก็งกำไรใหม่เน้นตามด้วยค่าบวกของดัชนี & ราคาหุ้นเป็นหลัก สำหรับการ Scan หาหุ้นที่ราคามีโอกาสทำNew High ในทางเทคนิค พบว่าหุ้นที่น่าสนใจ คือ JMART, ROJNA, SAMART, TIPCO ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ UNIQ, PACE, SC, PS หุ้นที่หลุดList คือ –ไม่มี- สำหรับหุ้นที่แนะนำไปแล้วและราคาปรับขึ้นมาอยู่ในพื้นที่น่าพิจารณา Take Profit ตามรอบ คือ IVL, MFEC

Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
+ ยูโรโซน : ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนม.ค.58 ดีสุดในรอบ 6เดือน โดยอยู่ที่ 51.0 (จาก 50.6 ในเดือนธ.ค.57) เนื่องจากการผลิตของฝรั่งเศส, อิตาลี, สเปน, เนเธอแลนด์ดีขึ้น ส่วนของเยอรมนีการผลิตขยายตัวในอัตราที่ลดลง
- จีน : PMI ภาคการผลิตเดือนม.ค.58 ยังต่ำกว่า 50 โดยเท่ากับ 49.7ใกล้เคียงกับธ.ค.57 ที่ 49.6 แต่ต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ 49.8 ดัชนีที่ต่ำกว่า50 บ่งชี้ถึงการหดตัวของภาคการผลิต
• สหรัฐ : การผลิตยังคงขยายตัวได้ในเดือนม.ค.58 แม้ว่าการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐจะทำให้ภาคส่งออกชะลอตัวลง แต่ดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายสำรวจโดยมาร์กิตเดือนม.ค.58 ยังทรงตัวได้ที่ 53.9 ส่วนภาคการผลิตของ ISM อยู่ที่ 53.5 ลดลงจากเดือนธ.ค.57 ที่ 55.1
- สหรัฐ : การใช้จ่ายของผู้บริโภค -0.3%MoM ในเดือนธ.ค.57 ขณะที่+0.5%MoM ในเดือนพ.ย.57
• สหรัฐ : โอบามาเสนอให้เก็บภาษีสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่สินทรัพย์มากกว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ในอัตรา 0.07% ของหนี้สิน มีผลบังคับใช้ 1 ม.ค.59 อย่างไรก็ดี ข้อเสนอนี้อาจไม่ผ่านสภาคองเกรสที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ทั้งนี้สถาบันการเงินขนาดใหญ่ในสหรัฐมีราว 100 แห่ง ซึ่งรวมทั้งธนาคาร, ผู้จัดการสินทรัพย์, โบรกเกอร์ และดีลเลอร์ โดยรัฐบาลโอบามาคาดว่ามาตรการนี้อาจทำให้บริษัทในกลุ่มดังกล่าวลดการระดมทุนด้วยการก่อหนี้ลง รัฐบาลก็จะมีโอกาสระดมทุนได้มากขึ้น (ตั้งวงเงินไว้ที่ 1.12 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงเวลา 10 ปีเพื่อนำไปใช้จ่ายในโครงการที่มีความสำคัญเร่งด่วน คือ การลดหย่อนภาษีสำหรับคนงานที่มีรายได้ปานกลาง)
+ ตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้น...กลุ่มพลังงานหนุน โดยดัชนี DJIA เพิ่มขึ้น196.09 จุด หรือ +1.14% ดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 41.45 จุด หรือ +0.89%ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 25.86 จุด หรือ +1.30% โดยในช่วงแรกดัชนีลดลงเพราะกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ แต่ตลาดดีดขึ้นในช่วงหลังจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ
+ สัญญาน้ำมันดิบปรับขึ้น โดย WTI ส่งมอบมี.ค.เพิ่มขึ้น 1.33 ดอลลาร์ปิดที่ 49.57 ดอลลาร์/บาร์เรล และ BRENT เพิ่มขึ้น 1.76 ดอลลาร์ ปิดที่54.75 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยปัจจัยหนุน คือ แนวโน้มอุปทานน้ำมันสหรัฐที่จะลดลงเมื่อพิจารณาจากผลการสำรวจของเบเกอร์ ฮิวจ์ที่ระบุว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐปรับตัวลง 7% ในสัปดาห์ที่แล้ว
• สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 2.3ดอลลาร์ หรือ -0.18% ปิดที่ระดับ 1,276.90 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยมาจากแรงขายทำกำไร นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองในปี 2558 ขึ้นราว 5% สู่ระดับ 1,262 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่คาดว่าราคาจะอ่อนตัวลงในไตรมาส 3/58 และได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ราคาทองในปี 2559 ลง 9% สู่ระดับ 1,089 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อันเนื่องจากแนวโน้มเงินดอลลาร์สหรัฐที่จะแข็งค่าขึ้น

ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
• เงินเฟ้อเดือนม.ค.58 ติดลบ กระทรวงพาณิชย์ประกาศดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเดือนม.ค.ปีนี้ -0.41%YoY และ -0.59%MoM โดยหลักเป็นผลจากราคาพลังงานที่ลดลงมาก ด้านธปท.มองว่าตัวเลขเงินเฟ้อที่ติดลบนั้นเป็นตามคาดการณ์ และอยู่ในกรอบเงินเฟ้อทั่วไปของปี 2558 ที่ตั้งไว้ในกรอบ 1-4%

ความเห็น Retail Research : อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำลงช่วยหนุนให้ทางการไทยใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายได้ต่อเนื่อง รวมถึงเปิดโอกาสให้ใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อได้อีก อย่างไรก็ตามโดยภาพรวมของการบริโภคจะยังเติบโตได้ไม่รวดเร็วและต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว ส่วนอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ ช่วยพยุงหุ้นกลุ่มที่พักอาศัย (Residential)ในเชิงกลยุทธ์การลงทุน เน้นเลือกซื้อ ที่น่าสนใจแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1)บริษัทที่ Backlog สูง มีความมั่นคงในการรับรู้รายได้ในปี 2558-2559 ทำให้กำไรสุทธิจะเติบโตได้เป็นเลขสองหลัก หุ้นเด่น คือ SPALI รองลงมาเป็นAP, PS และ 2) บริษัทที่มี Valuation จูงใจ หุ้นที่เราชอบเป็น QH โดยถ้าหักมูลค่าเงินลงทุนตามราคาตลาดออกไปแล้ว พบว่าในส่วนที่พักอาศัย ซื้อขายที่ P/E ต่ำเพียง 3 เท่า

+ BTS จับมือ AEONTS ขยายธุรกิจสมาร์ทการ์ด โดยตั้งเป้าหมายยอดผู้ใช้บัตร 7 แสนใบ บริษัทเล็งปรับขึ้นอัตราค่าโดยสาร 5% เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนดำเนินงานที่สูงขึ้น 5-6% บริษัทให้ข้อมูลว่ารายได้ในงวดปี 57/58 (สิ้นสุดมี.ค.58) จะเติบโตขึ้นจากปีก่อนที่ 9 พันล้านบาทเนื่องจากจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 6-8% สำหรับเหตุการณ์ระเบิดใกล้ BTS สถานีสยาม คาดว่าจะกระทบไม่มาก ปัจจัยที่เป็น Catalyst คือการได้งานบริหารเดินรถเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้มีลุ้นว่าจะได้บริหารส่วนสีเขียวเหนือ-ใต้ รวมถึงสีเทา (บางนา-สุวรรณภูมิ) ในระยะยาว บริษัทกล่าวว่าถ้าได้เป็นผู้บริหารเดินรถสายสีเขียวใต้ จะประมูลซื้อรถไฟฟ้ารวดเดียว 20ขบวน เราแนะนำซื้อ BTS โดยให้ราคาพื้นฐาน 11.11 บาท

• Wealth Perspective เดือนก.พ.58 เราประเมินว่าตลาดหุ้นในเดือนนี้จะผันผวน เพราะมีทั้งปัจจัยที่วิตกกังวลและสภาพคล่องที่สูงในตลาดโลกที่หนุน ปัจจัยกังวล คือ เศรษฐกิจโลกที่เติบโตน้อยกว่าคาด, ปัญหาการเมือง& การเงินของรัสเซีย, ประเด็นเสี่ยงกว่ากรีซจะผิดนัดชำระหนี้ และออกจากยูโรโซนหรือไม่ รวมถึง Valuation ตลาดหุ้นที่สูง แต่สภาพคล่องจาก QE ยูโรโซนและญี่ปุ่น อัตราผลตอบแทนในตลาดเงินที่ต่ำมาก และการรีบาวด์ของราคาน้ำมันดิบเป็นบวกกับกลุ่มพลังงานเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้น กลยุทธ์ : เลือกซื้อลงทุน โดย Top Picks เดือนก.พ.58 เป็น AAV, MINT, QH,RATCH, STPI ส่วน Dark Horse คือ SC, TMB สำหรับเดือนม.ค.58อัตราผลตอบแทนของหุ้น Top Picks เราอยู่ที่ 8.6% Outperform ตลาดที่บวกขึ้น 5.6%

นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 [email protected]


apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!