- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 29 January 2015 15:53
- Hits: 1648
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
ภาพตลาดวันวาน
ความร้อนแรงของตลาดวัดจากการเคลื่อนไหวของดัชนีฯ วันนี้น้อยกว่า 3 วันที่ผ่านมา มีแรงขายเข้ามาตลอดเวลา แต่ดัชนีฯประคองตัวอยู่ในแดนบวกได้ตลอดวัน
หุ้นใหญ่หลักๆของตลาดถูกขายมากกว่าซื้อ ส่วนหนึ่งมาจากราคาหุ้นที่ขึ้นมามาก ตลาดไม่มีข่าวบวกใหม่ๆ และดัชนีฯ เองก็ยังไม่สามารถยืนเหนือระดับ 1600 จุดได้ โดยหุ้น BAY และ SCC ที่ปรับตัวสูงขึ้น ช่วยพยุงให้ดัชนีฯปิดในแดนบวกได้
ดัชนีฯ ปิดตลาดที่ 1592.81 จุด สูงขึ้น 3.00 จุด หรือ 0.19%
คาดการณ์ตลาดวันนี้
เราประเมินว่าเราน่าจะเห็นภาพดัชนีฯ จะเกิดเป็นภาพใดภาพหนึ่งในช่วง 2 วันนี้ ภาพแรก ดัชนีฯ ขึ้นไปทดสอบ 1600 จุด และผ่านขึ้นไปยืนเหนือ 1600 จุด และจะปิดบวกค่อนข้างมาก หรือภาพที่สอง คือพักตัวสะสมพลัง ดัชนีฯจะอยู่ในแดนลบเกือบตลอดทั้งวัน รวมทั้งปิดลบด้วย เพื่อรอเวลาที่จะดีดขึ้นไปหา 1600 อีกครั้ง
คำแนะนำในวันนี้ ยังคงเดิม คือหากดัชนีฯ จะสามารถยืนเหนือระดับ 1600 จุดได้สำเร็จ ดัชนีฯ จะเปลี่ยนไปเล่นในกรอบ 1600-1630 จุด สำหรับนักลงทุนที่มีหุ้นอยู่ (หุ้นใหญ่) วันนี้ ยังแนะให้ถือต่อ จุดที่จะเริ่มขาย คือ เมื่อดัชนีฯมีแนวโน้มที่จะไหลลง และถ้าลงมาต่ำกว่าแนวรับที่ 1570 จุด จะเป็นสัญญาณที่ไม่ดี
กลยุทธ์ : “ จะพัก หรือ จะผ่าน 1600 จุด ?... ”
Support 1570, 1546, 1540 ,1534 จุด Resistance 1600 , 1630 จุด
สุทธิวิทย์ เทศนาบุญ
Fundamental Investment Analyst on Capital Market and Technical Investment Analyst
เลขทะเบียน : 028533
Tel 02- 6481129 Email: [email protected],th
มงคล พ่วงเภตรา
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์ทางเทคนิค
Tel 02- 6481123 Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
Market Trend
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (28 ม.ค.) SET Index ปิดที่ 1592.81 จุด เพิ่มขึ้น 3.00 จุด หรือ 0.19% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 55,772.67 ล้านบาท ตลาดมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่ และหุ้นที่มีข่าวเฉพาะตัว หนุนให้ดัชนีฯอยู่ในแดนบวก แต่เทียบกับวันก่อนหน้านี้ แรงซื้อถือว่าเบาบาง ซึ่งน่าจะมาจากไม่มีข่าวบวกที่สำคัญเข้ามาในตลาด ขณะที่ผลการประชุม กนง.ที่คงดอกเบี้ยไว้ที่ 2% มีผลต่อตลาดเพียงเล็กน้อย
ตลาดหุ้นต่างประเทศ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผลการประชุม FOMC ที่คณะกรรมการเห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯมีการขยายตัวที่ดี เงินเฟ้อยังต่ำ และมีการตีความการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ว่าจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง บวกกับปัจจัยราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ทั้งสองปัจจัยนี่เป็นลบต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนี Dow Jones ลดลง 195 จุด หรือ 1.1% ...
ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี FTSE Eurofirst 300 ลดลง 0.06% จากความกังวลต่อฐานะทางการเงินของธนาคารในประเทศกรีซ หลังเกิดการเปลี่ยนแปลงผู้นำประเทศ อย่างไรก็ตาม ทั้งตลาดหุ้นสหรัฐฯและยุโรปคืนที่ผ่านมา ได้ปัจจัยบวกคือการรายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆที่ออกมาดี ... เราประเมินว่า การร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯและยุโรป ค่าดอลล่าร์ที่แข็งค่าขึ้น และดอกเบี้ยสหรัฐฯที่ถูกเร่งให้ปรับขึ้นเร็วกว่าที่คาดก่อนหน้านี้ จะเป็นผลให้นักลงทุนชะลอการซื้อหุ้นในตลาดลงในวันนี้
ราคาน้ำมันดิบ WTI (Mar) ปิดตลาดที่ $44.45 เหรียญ/บาร์เรล ลดลง $1.78 เหรียญ ราคาน้ำมันลดลงเป็นผลจากตัวเลข stock น้ำมันดิบสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 8.9 ล้านบาร์เรล (EIA) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ปัญหา oversupply ยังคงเป็นตัวแปรสำคัญที่กดดันราคาน้ำมันไปอีกพักใหญ่ ซึ่งจะเป็นตัวถ่วงราคาหุ้นกลุ่มน้ำมันไว้ และอาจทำให้บริษัทน้ำมัน (PTTEP) ต้องทยอยปรับลดแผนการผลิตหรือชะลอโครงการใหม่ๆ เพื่อสอดรับกับราคาน้ำมันที่ลดลง
เศรษฐกิจไทย - ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์(SCB EIC) ประเมินว่าการส่งออกไทยในปี 58 มีแนวโน้มขยายตัวในระดับต่ำเพียง 0.8%
ดอกเบี้ย , อสังหาฯ - คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 5 ต่อ 2 เสียงให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.00% ต่อปี ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้
PTT - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า วันที่ 30 ม.ค.นี้ เตรียมประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.)โดยวาระสำคัญจะพิจารณาแนวทางการปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) ตามข่าวคือปรับราคาให้สูงขึ้น
ทิศทางตลาดหุ้นไทย คาดตลาดที่ขาดปัจจัยบวกที่สำคัญ และถูกกดดันจากแรงขายหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมามากในชวงที่ผ่านมา จะมีมากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการที่ดัชนีฯยังไม่สามารถผ่านระดับ 1600 จุดขึ้นไปได้ ขณะที่ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงด้วย จึงคาดว่าดัชนีฯวันนี้ มีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงจากวันก่อน ในลักษณะของการพักตัว .... สำหรับผลการประชุม FOMC ในคืนที่ผ่านมา มีผล (ลบ)ต่อตลาดหุ้นในวันนี้ ในเรื่องที่สหรัฐฯอาจขึ้นดอกเบี้ยหลังจากเดือน มิ.ย.เป็นต้นไป ซึ่งเร็วกว่าที่เคยคาดการณ์กัน
กลยุทธ์การลงทุน แม้การซื้อที่ต่อเนื่องของนักลงทุนต่างประเทศ จะเป็นปัจจัยหนุนต่อหุ้นขนาดใหญ่ของตลาด แต่เราคาดว่าดัชนีฯ น่าจะอ่อนตัวลงในวันนี้ ตราบที่ดัชนีฯ ยังไม่สามารถผ่านระดับ 1600 จุด ได้ นักลงทุนควรต้องเลือกลงทุนหุ้นขนาดใหญ่ เป็นบางตัวเท่านั้น (KBANK, BGH, INTUCH) ….. นอกจากนี้ จะเป็นกลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวหนุนอยู่ ที่มีการซื้อขายมากในช่วงนี้ อาทิเช่น กลุ่มรับเหมา+วัสดุก่อสร้าง (ITD, STEC, TPIPL, SCC , SCP) กลุ่ม Media (RS, MONO, GRAMMY, MACO) กลุ่มพลังงานทดแทน (BWG) เป็นต้น
Stock in Focus
SYNTEC (ราคาปิด 3.40 บาท ; ราคาเป้าหมายเฉลี่ย โดย IAA Consensus 3.71 บาท) บริษัทฯ เป็นผู้รับเหมา งานส่วนใหญ่ ประมาณ 80% เป็นงานก่อสร้างที่อยู่อาศัย ที่มีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่องและผลการดำเนินงาน Q4 ถูกคาดว่าจะออกมาดี โดยบริษัทฯมี backlog ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท หรือ 1.6 เท่าของรายได้รวมปี 2556 นอกจากนี้ ยังมีโอกาสที่จะได้ประโยชน์จากงานโครงการสาธารณูปโภขั้นพื้นฐานที่ปัจจุบันมีสัดส่วนน้อยมากเมื่อเทียบกับรายได้ส่วนอื่น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเป็นผู้ถือหุ้น BMCL อยู่ 1.18% หรือ 242 ล้านหุ้น (ข้อมูล 13 มี.ค.57) ..... สำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน 2557 บริษัทมีกำไร 268.7 ล้านบาท สูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 156%
มงคล พ่วงเภตรา
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123 และทีมวิเคราะห์