- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 26 January 2015 15:38
- Hits: 1802
บล.ทิสโก้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +37.99 จุด ทดสอบ 1600 จุดอีกครั้ง
SET เปิดกระโดดอีกครั้งรับผลบวกจากการประกาศทำ QE ของ ECB แม้ดัชนีจะมีการย่อตัวลงระหว่างวัน แต่ในภาคบ่ายดัชนีได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหุ้น BAY ที่ปรับตัวขึ้น 29.75% จากข่าวลือการ Delist ซึ่งคิดเป็น SET +16.5 จุด และกรอบการปรับตัวระหว่างวันอยู่ที่ 1,569-1,601 และนักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิ 3.2 พันล้านบาท พร้อมทั้งซื้อสุทธิใน TFEX กว่า 1.1 หมื่นสัญญา
ทิศทางตลาดวันนี้ : ทดสอบแนวต้าน 1600 อีกครั้ง
หุ้นโลกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา (23 ม.ค.) ด้านตลาดหุ้นของสหรัฐฯ ปรับตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากผลประกอบการของบริษัทที่ต่ำกว่าคาด ตรงข้ามกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปิดบวกกันถ้วนหน้าหลังจากที่ SNB ประกาศลดดอกเบี้ยพร้อมกับที่ ECB ประกาศทำนโยบาย QE เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยมีวงเงินกว่า 1.1 ล้านล้านยูโร และผลการเลือกตั้งของกรีซที่พรรค Syriza ชนะการเลือกตั้งซึ่งชูนโยบายต่อต้านการควบคุมการใช้จ่าย แต่สำหรับตลาดหุ้นไทยเรามองว่าแนวต้านทางจิตวิทยาที่ 1,600 ยังเป็นแนวต้านที่สำคัญ แม้ว่าหากหักลบผลกระทบของ BAY แล้วดัชนีจะอยู่ที่ประมาณ 1580 เท่านั้น โดยเรามองว่าหากผ่าน 1,600 จุดได้จะมีแนวต้านใหม่ที่ 1,620 และแนวรับที่ 1580 จุด และหุ้น และหุ้นที่ติด Cash Balance เพิ่มในสัปดาห์นี้คือ AJP, AJP-W1, CI, CKP, E, E-W1, E-W2, E-W3, HYDRO, NCL, OCEAN, OCEAN-W1, PRINC, PRINC-W1, UREKA, VTE ตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค. – 6 มี.ค. และ TPOLY ตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค. – 13 ก.พ.
กลยุทธ์การลงทุน : เลือกเทรดหุ้นใหญ่ที่น่าจะเป็นเป้าซื้อคืน (Short Covering)
การประชุม ECB ให้ผลบวกมากกว่าที่เราคาดไว้คือ มีวงเงินสูงถึงเดือนละ 6 หมื่นล้านยูโร และสามารถยืดอายุได้ อาจทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้ามาจากสภาพคล่องที่ล้นระบบ โดยเรามองว่าเม็ดเงินของต่างชาติจะทำให้ดัชนีสามารถปรับตัวขึ้นไปยืนเหนือ 1580 ได้ (โดยหุ้นที่ได้ประโยชน์จะเป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่ราคาหุ้นยังไม่ปรับขึ้นมาก) พร้อมทั้งทดสอบแนวต้านที่ 1600 ในสัปดาห์หน้า (26-30 ม.ค.) ถึงแม้ว่าทางปัจจัยพื้นฐานเรายังคงมองว่าจะมีการปรับประมาณการกลุ่มพลังงานลงตามแนวโน้มราคาพลังงานก็ตาม ประเด็นหุ้นเทรดดิ้งระยะสั้น (1) หุ้นขนาดใหญ่ที่น่าจะมีแรงซื้อ Short Covering PTT, PTTEP, KBANK, SCC (2) หุ้นได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันขาลง กลุ่มขนส่ง ชอบ RCL, TTA, PSL, NOK, AAV, AOT กลุ่มค้าปลีก ชอบ BEAUTY, ROBINS (3) หุ้นได้ประโยชน์จากการลงทุน-ส่งเสริมภาครัฐ อาทิ รถไฟฟ้า, Digital Economy, ประมูล 4G เป็นต้น กลุ่มรับเหมา ชอบ CK, STEC, UNIQ, PYLON, SEAFCO กลุ่มสื่อสาร ชอบ AIT, INTUCH, TRUE (4) เก็งงบ 4Q14F กำไรปี 2015F โตต่อได้ ชอบ KBANK, TMB, BEAUTY, MALEE, TUF, VGI, SIM, TRUE, BRR, KTIS (5) หุ้น Weekly Guru สัปดาห์นี้ คือ KBANK. RS, STEC ส่วน S, INTUCH, SCC ถือต่อและขาย TAE สำหรับนักลงทุนระยะกลาง หาจังหวะสะสมช่วงอ่อนตัว (1) หุ้นน่าลงทุนหวังผลในช่วง Q1 แนะนำ AMATA, BBL, BGH, CPN, DTAC, HMPRO, INTUCH, KBANK, KTB, SPALI (2) หุ้นปันผลดีที่กำลังจะจ่ายงวดนี้ (ช่วงต้น ก.พ. - กลาง พ.ค.) แนะนำ STPI, SRICHA, BJCHI, KTB, ASP, SITHAI, SIRI, AP, PYLON, QH
หุ้นเด่นรายวัน : KBANK
KBANK – ราคาหุ้นของ KBANK ยังคง Laggard เมื่อเทียบกับกลุ่มธนาคารทั้งที่ KBANK มีผลประกอบการที่เติบโตโดดเด่นที่สุดโดยมีผลประกอบการเพิ่มขึ้นราว 12% YoY เติบโตขึ้นจากทั้ง NII และ Non-NII อีกทั้งยังเป็นหุ้นยอดนิยมของต่างชาติเราแนะนำให้ “ซื้อ” โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 253 บาท (GGM)
ปัจจัยติดตาม
วันที่ ปท. เหตุการณ์
26-ม.ค. JP, GE ตัวเลขดุลการค้าของญี่ปุ่นใน ม.ค., ตัวเลขชี้ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ (IFO) ของเยอรมันใน ม.ค.
US PMI เบื้องต้นภาคบริการสหรัฐฯ ใน ม.ค., ดัชนีชี้วัดกิจกรรมภาคอุตฯ (Dallas Fed Manf. Activity)
26-27 ม.ค. EU ประชุมรัฐมนตรีคลังสหภาพยุโรป
27-28 ม.ค. US ประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED)
นักวิเคราะห์ :
อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 18171 02-633-6467 : [email protected]
ธนพล บำรุงพงศ์ เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 46537 02-633-6471 : [email protected]
