- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 23 January 2015 16:05
- Hits: 1931
บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Outlook
เป้าหมายการปรับสูงขึ้นต่อไปที่ 1,600 จุด...ECB ใช้ QE มูลค่า EUR6 หมื่นล้าน/เดือน:
แรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มรับเหมาฯ พลังงาน ธนาคาร หนุน SET ปรับสูงขึ้น 1.49% ปิดที่ 1,560.34 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.6 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นสุทธิ 1,386 ล้านบาท...การปรับสูงขึ้นเหนือ 1,540 จุด ด้วยปริมาณการซื้อขายหนาแน่น ถือว่าเป็นสัญญาณ “กลับตัว” โดยประเมินเป้าหมายการปรับสูงขึ้นระยะสัปดาห์ที่ 1,600 จุด นำโดยหุ้นกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่อย่างกลุ่มธนาคาร รับเหมาฯ อสังหาฯ (เก็งลดดอกเบี้ย) หลัง ECB มีมติใช้มาตรการ QE มูลค่า EUR6 หมื่นล้าน/เดือน ตั้งแต่ มี.ค.15-ก.ย.16 สำหรับประเด็น “ถอดถอน” คุณยิ่งลักษณ์ วันนี้มีมุมมองเป็น “กลาง” คาดไม่ทำให้เสถียรภาพการเมืองเปลี่ยนไป
“ซื้อ” ธนาคาร กลุ่มรับเหมาฯ สื่อสาร และ AOT: มาตรการ QE ของ ECB เป็นปัจจัยสนับสนุนกระแสเงินทุน และกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่เป็นกลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีโดยตรง แนะนำ “ซื้อ” ธนาคาร (KBANK) สื่อสาร (ADVANC TRUE INTUCH) รับเหมาฯ (CK STEC) รวมไปถึง AOT (ดูรายละเอียดเพิ่มใน Tactical Portfolio) ขณะที่กลุ่มหุ้นที่เราแนะนำ “Selective” ต่อไป ได้แก่ SAMART SAWAD BLA BGH RS และ SEAFCO
Tactical Portfolio (1-3 months)
TNS แนะนำ AOT, BLA, BGH, CK, RS, SAMART, SAWAD, SEAFCO, SPALI และ TUF ต่อเนื่อง
“ซื้อ” AOT…นักท่องเที่ยวขยายตัวแกร่ง ขณะที่ราคาหุ้นมีจังหวะฟื้นตัว: แนะนำ “ซื้อ” AOT ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 340 บาท ล่าสุดจำนวนนักท่องเที่ยวเดือน ธ.ค. +16.5% y-y และคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวขยายตัวต่อเนื่องในช่วง ม.ค.-มิ.ย.2015 จากฐานที่ต่ำในปีก่อน และธุรกิจท่องเที่ยวฟื้นตัว ขณะที้ถ้าพิจารณาในเชิงเทคนิคมีจังหวะปรับสูงขึ้นต่อเนื่องตามแนวโน้มกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ (SET50) ที่กลับมานำตลาดด้วยเป้าหมายการปรับสูงขึ้นระยะสั้นที่ 300/306 บาท
“ซื้อ” CK…ได้ประโยชน์จากการลงทุนภาครัฐฯ และการขยายธุรกิจของบริษัทลูก: แนะนำ “ซื้อ” CK ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 31 บาท โดยนอกจากได้รับผลดีจากโครงการลงทุนภาครัฐฯ ยังมีปัจจัยบวกจาก 1) ขายหุ้น 30% ในโรงไฟฟ้าไซยบุรี ให้กับ CKP ทำให้ CK มีกระแสเงินสดเพิ่มและบันทึกกำไรพิเศษก่อนหักภาษีประมาณ 3,000 ล้านบาท และ 2) การควบรวมกิจการระหว่าง BMCL และ BECL ทำให้ BMCL+BECL (แนะนำ “ขาย” BMCL BECL มาที่ CK) มีฐานทุนที่แข็งแกร่งมากขึ้น รอบรับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้า
Technical
เกิดสัญญาณซื้อตาม : ดัชนี SET ที่สามารถขึ้นทะลุผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 3 เดือน 1550 จุดได้สำเร็จ พ้นออกจากการเคลื่อนไหวแบบแกว่งตัวในกรอบ 1515 - 1550 จุดและยังเป็นการทะลุกรอบแนวต้านสามเหลี่ยม เปลี่ยนเป็นแนวโน้มขึ้นต่อเนื่อง ในขณะที่เครื่องมือเทคนิค Directional Indicator เกิดสัญญาณซื้อ เป็นจังหวะกลับมาถือหุ้นระดับ 75% สำหรับวันนี้ดัชนี SET จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1548-1566 จุด โดยเราเปลี่ยนเป้าหมายแนวโน้มขึ้นไปสู่แนวต้าน 1585 จุด และจุดสูงสุดเดิมที่ 1600
หุ้นซื้อระยะสั้น: TPIPL ทะลุกรอบสามเหลี่ยมขาขึ้นพร้อมปริมาณการซื้อขายที่หนาแน่น เกิดสัญญาณซื้อจากเครื่องมือ DI และการเรียงตัวตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ย แนวต้านระยะสั้นบริเวณ 2.06 บาท 2.16 บาทSTPI แกว่งตัวทำจุดต่ำสุดยกสูงขึ้นในกรอบสามเหลี่ยมปิดที่ระดับสูงสุดด้วยปริมาณการซื้อขายที่สูงขึ้นหลังพักตัวสร้างฐาน มีสัญญาณซื้อจาก MACD ที่พลิกกลับมาเป็นบวกและ DI+ ที่ตัด DI- ขึ้นเป็นวันแรก มีแนวต้านแรกที่บริเวณ 20.50 บาท และมีเป้าหมายสำคัญที่ 21.50 บาท
TFEX Recommendation
SET50 Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Long สัญญา S50H15 ด้วยเป้าหมายการปรับสูงขึ้นถัดไป 1,050 จุด และถัดไปที่จุดสูงสุดเดิมบริเวณ 1,076 จุด โดยมีปัจจัยหนุนจากการใช้นโยบาย QE ของ ECB มูลค่า EUR6 หมื่นล้าน/เดือน ตั้งแต่ มี.ค.15-ก.ย.16
Gold Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Long สัญญา GFG15 โดยมีเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 20,250 บาท ขณะที่เลื่อน Trailing Stop ขึ้นมาที่ 20,000 บาท ล่าสุดราคาทองคำ COMEX ปรับสูงขึ้น US$7 ปิดตลาดที่ US$1,300.7/ออนซ์
Oil Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Long สัญญา BRG15 ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามควรกำหนด Trailing Stop หรือ “จุดจำกัดขาดทุน” ที่ 1,560 โดยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์สหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ BRENT –US$0.51/bbl
Thai Strategy Team
นพดล พิริยวุฒิ
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล