- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 04 June 2014 17:04
- Hits: 3035
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
คาด SET ใกล้จะแกว่งพักตัว แต่ถือเป็นจังหวะในการเลือกหุ้นซื้อ...
กลยุทธ์ : รอ SET ปรับตัวย้อนลงเพื่อเป็นจังหวะในการเลือกหุ้นเข้าซื้อเพิ่ม ขณะที่ส่วนถือลงทุนยังสามารถเน้นถือต่อเนื่องได้เช่นเดิม โดยวันนี้ยังสามารถตามเข้าเก็งกำไรหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวที่เราคาดว่าจะฟื้นตัวได้ดีในครึ่งปีหลัง รวมทั้งเก็งกำไรข่าวการยกเลิกเคอร์ฟิวในพื้นที่ท่องเที่ยวบางแห่งซึ่ง คสช.ประกาศในช่วงเย็นวานนี้ด้วย
หุ้นเด่นทางเทคนิค : MINT, AKR, TASCO(short)
แนวโน้ม : ตลาดหุ้นสหรัฐกลับมาแกว่งตัวด้านลบ เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อ เพื่อรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน พ.ค.ในคืนวันศุกร์(6 มิ.ย.) ที่จะถึงนี้ก่อน รวมทั้งตัวเลขเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงของยูโรโซนยังทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยก่อนการประชุม ECB ในวันพรุ่งนี้(5 มิ.ย.) ด้วย ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ยังแกว่งผันผวน ขณะที่ตลาดหุ้นไทยวานนี้แม้ว่าจะยังบวกต่อเนื่องหลังสถานการณ์การเมืองผ่อนคลาย ทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจน่าจะดูดีขึ้น ซึ่งล่าสุดวานนี้ช่วงเย็น คสช.ได้ประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวในพื้นที่ท่องเที่ยวทั้ง พัทยา เกาะสมุย และภูเก็ตด้วย แต่ตลาดก็เริ่มมีจังหวะแกว่งพักตัวมากขึ้นในระหว่างวัน รวมทั้งดัชนีดีดตัวบวกขึ้นมาพอควรแล้วในช่วงสัปดาห์เศษที่ผ่านมา ทำให้ FSS คาดว่า SET มีสิทธิที่จะมีรอบปรับพักตัวลงก่อนได้ อย่างไรก็ตามด้วยแรงซื้อที่ยังมีเข้ามาหนาตา จากความคาดหวังเชิงบวกเกี่ยวกับการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจไทย น่าจะทำให้กรอบการปรับลงเริ่มจำกัดมากขึ้น และเราคาดว่า SET ยังมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวขึ้นได้ใหม่
แนวรับ 1450-1445 , 1440-1436 จุด แนวต้าน 1455-1458 , 1463-1470 จุด
Fund Flow วานนี้ยังไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไต้หวัน US$126.2 ล้าน ไทย US$94 ล้าน เกาหลีใต้ US$38.9 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$10.1 ล้าน และเวียดนาม US$6.7 ล้าน ยกเว้นอินโดนีเซียที่ขายสุทธิ US$21.4 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้อ่อนค่าเล็กน้อยตามค่าเงินยูโร คาดว่า Flow น่าจะยังไหลเข้าแต่เบาบางจากความคาดหวังว่า ECB จะลดดอกเบี้ยและอาจออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) ตลาดคาด ECB ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนในเดือน พ.ค. ลดเหลือ 0.5% ต่ำกว่าเป้าของ ECB ที่ 1% ยาวนานถึง 8 เดือน กดดันให้ ECB เร่งออกมาตรการแก้ภาวะเงินฝืด ตลาดคาดว่า ECB จะลดอัตราดอกเบี้ย 0.10% ในทุกๆ Key rates ในการประชุมวันที่ 5 มิ.ย. นี้ และอาจส่งสัญญาณเพิ่มสภาพคล่องเช่น LTRO ซึ่งจะส่งผลบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงโดยเฉพาะตลาดหุ้นในเอเชียซึ่งมี Forward PE เฉลี่ย 14.4 เท่า ถูกกว่าตลาดหุ้นในสหรัฐและยุโรปที่มี Forward PE 15-17 เท่า
(+) แนวโน้มกลุ่มท่องเที่ยวหลังรัฐประหาร เราเชื่อว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้ผ่านช่วงเลวร้ายที่สุดไปแล้วหลังการชุมนุมทางการเมืองที่ยืดเยื้อได้ยุติลง แม้ว่าเราจะยังอยู่ภายใต้กฎอัยการศึกและการรัฐประหารตั้งแต่ 22 พ.ค. ซึ่งอาจทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเดือน มิ.ย. หดตัวแรง แต่เชื่อว่าจะเป็นผลกระทบระยะสั้นและจำกัดกว่าการชุมนุมหลายครั้งในอดีต เพราะปัจจุบันอยู่ในช่วง low season พอดี ประกอบกับวานนี้คสช.สั่งยกเลิกเคอร์ฟิวที่พัทยา เกาะสมุย และภูเก็ต และคาดว่าจะผ่อนคลายกฎต่างๆมากขึ้นในระยะถัดไป ซึ่งจะทำให้ผลการดำเนินงานของกลุ่มฟื้นตัวในช่วง 2H14 ล่าสุดททท.ได้ลดเป้าจำนวนนักท่องเที่ยวลงเหลือ 26.3 ล้านคน -1.6% Y-Y ลงมาใกล้เคียงกับที่เราคาด (4M14 -4.9% Y-Y) เราคาดกำไรปกติปีนี้ของกลุ่มเติบโต 17.4% Y-Y ทำ New high ต่อเนื่องโดยการเติบโตของกำไรมาจาก MINT และ CENTEL ซึ่งกระจายธุรกิจไปยังต่างประเทศรวมถึงธุรกิจอาหาร เราคงน้ำหนัก Overweight โดยมี MINT (ราคาเป้าหมาย 31 บาท) เป็น Top Pick เพราะกำไรเติบโตแข็งแกร่งสุด ปัจจุบันมี PE 23 เท่า ต่ำสุดในกลุ่ม และราคาหุ้น laggard กว่ากลุ่ม
(+) AOT คสช.สั่งยกเลิกเคอร์ฟิวที่พัทยา เกาะสมุย และภูเก็ต จะช่วยให้บรรยากาศการท่องเที่ยวดีขึ้น ซึ่งจะเป็นบวกกับ AOT เพราะสนามบินภูเก็ตเป็น 1 ใน 6 สนามบินที่บริษัทดำเนินการ และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศรองจากสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง ในช่วง 1H14 (ต.ค. 2013 – มี.ค. 2014) กำไรของ AOT แข็งแกร่งแม้จะถูกกระทบการเมือง (กำไรปกติ +36% Y-Y) เราคาดกำไรปกติทั้งปีนี้โต 27% Y-Y แม้ราคาหุ้นจะปรับขึ้นมา 8% จากจุดต่ำสุดรอบนี้ที่ 180.50 บาทแต่มี PE 21.8 เท่า ยังต่ำกว่าการเติบโตของกำไร จึงยังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 230 บาท (DCF)
(+) LIT เป็นหนึ่งในหุ้นที่จะได้รับประโยชน์จากการเบิกจ่ายงบประมาณที่จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เนื่องจากฐานลูกค้าของ LIT ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจ SMEs ซึ่งรับงานโครงการภาครัฐเป็นหลัก (ราว 80% ของลูกค้าทั้งหมด) ล่าสุดได้เซ็นสัญญาให้สินเชื่อเช่าทางการเงินโครงการคอมพิวเตอร์กับมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งซึ่งมีมูลค่า 15% ของเป้าการให้สินเชื่อทั้งปี ซึ่งจะทำให้กำไรใน 2Q14 เติบโตทั้ง Q-Q และ Y-Y ทั้งที่เป็น low season อย่างไรก็ตาม เราปรับลดกำไรปีนี้ลง 8% เพราะธุรกิจ Bid Bond ใน 1Q14 พลาดเป้า แต่กำไรยังเติบโตสูง 38% Y-Y เราปรับราคาเป้าหมายลงเล็กน้อยเป็น 2.60 บาท (อิง PE 11.5 เท่า) จากเดิม 2.70 บาท ยังคงแนะนำซื้อ
ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในขยับตัวลงเล็กน้อย 21.29 จุด โดยตลาดมีการปรับพักตัวลงมาบ้างหลังจากที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงก่อนหน้า ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่จับตาดูตัวเลขภาคแรงงานในวันศุกร์นี้
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดในแดนบวกลบเช่นเดียวกันหลังผิดหวังกับตัวเลขเงินเฟ้อของยูโรโซนที่ชะลอตัวลง ทำให้นักลงทุนยิ่งจับตาการประชุม ECB ที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ว่าจะมีมาตรการผ่อนคลายทางการเงินออกมาหรือไม่
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวในกรอบแคบๆโดยจับตาดู GDP ออสเตรเลียเช้านี้และผลการประชุม ECB
ค่าเงินบาทแข็งค่าแรงวานนี้ส่วนเช้านี้อ่อนค่าลงเล็กน้อย คาดวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.58-32.75 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้น 0.19 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 102.66 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีตัวเลขบอกว่าสต๊อกน้ำมันดิบจะปรับตัวลงมากกว่าที่ตลาดคาด
ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. พลิกกลับมาบวกได้ 0.50 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,244.50 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังปรับลง 6 วันทำการติดต่อกัน รวมถึงได้รับแรงหนุนจากการอ่อนตัวลงของตลาดหุ้น
Contact person : Somchai Anektaweepon Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852