- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 21 January 2015 15:41
- Hits: 1597
บล.เคเคเทรด : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET ผันผวนรอผลประชุม ECB
SET View
แนวโน้มวันนี้เป็นกลาง มองกรอบเคลื่อนไหว 1,530 – 1,540 จุด
SET มีโอกาสแกว่งตัวในกรอบแคบไร้ทิศทางไปจนกว่าจะมีความชัดเจนเรื่องมาตรการ QE ของยุโรป ซึ่งจะทราบผลหลังการประชุม ECB วันพฤหัสที่ 22 ม.ค. นี้ อย่างไรก็ตามนักลงทุนต่างชาติคงขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 อีก 800 ล้านบาทบ่งบอกว่าหากมีการออก QE ตามที่ตลาดคาด เม็ดเงินอาจไหลเข้ามาในตลาดหุ้นไม่มาก กอปรกับเงินบาทที่กลับมาอ่อนค่าลงเล็กน้อยและอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10 ปีปรับขึ้นมาที่ 2.81% เพิ่มขึ้น 14bps จาก 2 วันก่อนบ่งบอกว่าอาจไม่มีเม็ดเงินไหลเข้าจริง และควรระวังการขายทำกำไร (Sell-On-Fact) ในวันศุกร์ หลังทราบผลการประชุม ECB (ราว 3 ทุ่มของคืนวันพฤหัส) หุ้นธนาคารขนาดใหญ่ที่ประกาศงบแล้วเป็นไปตามคาด และเสี่ยงต่อการถูกปรับลดประมาณการลง (BAY KBANK SCB) จะกดดันหุ้นกลุ่มธนาคาร ทางเทคนิค SET อยู่ระหว่างการแกว่งตัวเพื่อสร้างฐานมีกรอบด้านบนแถว 1530-1545 จุด และกรอบด้านล่างแถว 1500-1515 จุดหลุดจากกรอบดังกล่าวจะเกิดการ Break out (ขึ้น/ลง)
กลยุทธ์การลงทุน เก็งกำไรระยะ 1-2 วัน ทยอยขายทำกำไรหรือหาจังหวะขึ้นขาย-ลงซื้อ หาก SET ปิดต่ำกว่า 1530 จุดควรชะลอการลงทุน
Top Daily Pick: RS (ผลประกอบการปกติจะโตก้าวกระโดดในปี 58 จากการปรับขึ้นค่าโฆษณากว่า 5 เท่าตัวมีผลตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป) RML (ราคาหุ้นซื้อขายเพียง 6xP/E’58 ถูกสุดในกลุ่ม มีงานในมือรอรับรู้รายได้กว่า 70% ของคาดการณ์รายได้)
Technical Pick: THCOM WIN PTTGC PF BLAND
Theme Play: กลุ่มโรงกลั่น (BCP PTTGC TOP) ผลประกอบการปกติมีแนวโน้มฟื้นตัวในปีนี้ ราคาหุ้นปัจจุบันสะท้อน Stock loss ไปแล้ว /หุ้นปันผลเด่น (ADVANC INTUCH MFEC EGCO RATCH SMPC SIRI LH QH) /TRUE (เตรียมขายสินทรัพย์ขนาดไม่เกิน 1.4 หมื่นล้านบาทเข้ากองทุน TRUEIF เพิ่ม คาดแล้วเสร็จเดือนมี.ค.) /หุ้นที่ชนะตลาด 2 สัปดาห์ติดกัน (FVC IFEC DEMCO SAMART SEAFCO SYNTEC TRC UNIQ BAY DCON IHL MONO PREB RCL)
พอร์ตลงทุน
Trading AMATA BGH GRAMMY M MC NOK SIM
OUT: BEAUTY IN: MC
Growth AMATA HOTPOT TOP TUF WORK
Dividend ADVANC BBL EGCO MODERN PTTGC RML SRICHA
Quant BECL BIGC EGCO MODERN HANA HOTPOT NBC
รายงานวันนี้
Preview : NBC (ซื้อ / มูลค่าเหมาะสม 6 บาท) ช่อง Nation TV ดันกำไรฟื้นตัว
Preview : SMPC (ซื้อ / มูลค่าเหมาะสม 79 บาท) แนวโน้มผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง
Strategy Talk
ระวัง Sell-On-Fact หลังการประชุม ECB วันที่ 22 ต.ค.นี้
•การประชุมธนาคารกลางยุโรปในวันพฤหัสที่ 22 ม.ค. เรามองว่าตลาดให้ความคาดหวังต่อการออกมาตรการ QE มากกว่าทุกครั้ง หลังจากผิดหวังมาหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้ประธาน ECB แสดงออกอย่างชัดเจนถึงความวิตกต่อการเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยของยุโรป ขณะที่ตลาดค่าเงินและดัชนีตลาดหุ้นในยุโรปเริ่มสะท้อนความคาดหวังดังกล่าว สังเกตจากค่าเงินยูโรได้อ่อนค่าทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 10 ปีที่ 1.15 ยูโรต่อดอลลาร์ หลุดลงจากกรอบปกติที่แกว่งตัวอยู่ระหว่าง 1.2-1.5 EU/USD เป็นเวลากว่า 10 ปี ขณะที่ดัชนี DAX เยอรมัน (ประเทศที่คาดจะได้รับผลกระทบจากมาตรการ QE มากที่สุด) ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในประวัติกาลยืนเหนือ 10,000 จุดได้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา
•หากมีการออกมาตรการ QE เกิดขึ้นจริง คงต้องใช้ระยะเวลากว่าที่จะมีเม็ดเงินใหม่เข้าสู่ระบบ การตอบสนองของตลาดต่อแถลงการณ์วันที่ 22 ม.ค. สำหรับตลาดยุโรปเราสามารถคาดได้ว่ามีความเสี่ยงทางขาลงไม่ว่า (1) เป็นข่าวดี คือออก QE ในวงเงิน 5 แสนล้านยูโรหรือสูงกว่า และสามารถขยายวงเงินได้ (Open-ended) เราคาดหมายการ Sell-On-
Fact (ขึ้นแรงแล้วถูกขายทำกำไรลงมา) หรือ (2) เป็นข่าวร้าย คือไม่มีการออก QE หรือออก QE แบบจำกัดวงเงิน (Defined) เราคาดหมายการ Sell off (ปรับตัวลงมาทันที) แต่สำหรับตลาดหุ้นไทยจะซับซ้อนกว่าเนื่องจาก SET ในช่วงที่ผ่านมาได้แรงหนุนจากนักลงทุนภายในประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะสถาบันที่เข้ามาซื้อสุทธิกว่าต้นปีแล้วถึง 1 หมื่นล้านบาท ราว 3 เท่าตัวที่ซื้อสุทธิในเดือนม.ค.ปีก่อน การตอบสนองเชิงลบหลังผลการประชุมอาจมีน้อยกว่าและคาดการณ์ได้ยากกว่า
•การที่นักลงทุนต่างชาติเป็นผู้ขายสุทธิเกือบ 2 หมื่นล้านบาทจากต้นปี ด้วยปัจจัยด้านเศรษฐกิจในประเทศยังคงอ่อนแอและฟื้นตัวได้ช้า ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนยังมีโอกาสถูกปรับลดลงต่อเนื่อง และการประเมินมูลค่ายังไม่ถูก เราจึงไม่คาดหมายนักลงทุนต่างชาติจะกลับเข้ามาในตลาดหุ้นไทยในระยะเวลาอันใกล้ การเคลื่อนไหวของ SET ภายหลังการประชุมน่าจะได้รับอิทธิพลจากแรงซื้อ-ขายของนักลงทุนสถาบันซึ่งโดยสถิติมีความเสี่ยงถูกขายทำกำไรออกมา ในทางเทคนิคคาดว่า SET คงแกว่งตัวไร้ทิศทาง เพื่อรอตอบสนองต่อข่าวการทำ QE ครั้งนี้ หากเป็นข่าวดีอาจขึ้นไปจบรอบแถว 1550 จุด +/- และในทางกลับกันหากเป็นข่าวร้าย อาจต้องกลับลงมาสร้างฐานแถว 1500 จุด
•อย่างไรก็ตามอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10 ปี ที่ปรับตัวลงมาตลอดที่ 2.8% ลดลงจากต้นปีที่ระดับ 3% เป็นสัญญาณบ่งชี้เงินไหลเข้าตลาดพันธบัตรไทย ซึ่งบางส่วนอาจเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทยหากมีการปรับฐานลงมาถูกกว่านี้หรือเห็นพัฒนาการเศรษฐกิจและปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนดีขึ้นจัดเจน และอาจเป็นปัจจัยหนุน SET ในระยะต่อไป ทำให้การปรับฐานของ SET ไม่น่าจะลงแรง ถึงแรงก็จะไม่นาน (คล้ายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 15 ธ.ค.ปีก่อน)
•ในเชิงกลยุทธ์ เราแนะนำทยอยสะสมหุ้นที่มีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูงระดับ 4% ขึ้นไปซึ่งจะช่วยจำกัด Downside หาก SET มีการปรับฐาน แนะนำหุ้นกลุ่มสื่อสาร (ADVANC INTUCH MFEC), โรงไฟฟ้า-พลังงาน (EGCO RATCH SMPC) และพัฒนาที่อยู่อาศัย (SIRI LH QH)
หุ้นที่ปรับตัวขึ้นมากสุดวานนี้ GRAMMY (+1.49%)
สำหรับวันนี้ แนะนำ วันนี้แนะนำ “ขายทำกำไร” BEAUTY โดยให้ผลกำไรราว 5% ขณะที่แนะนำสลับไป “ซื้อ” MC เนื่องจากมี Upside สูงกว่า จากราคาหุ้นตอบสนองรุนแรงเกินไปต่องบ 3Q57 ที่หดตัวขณะที่เราคาดจะมีพัฒนาการดีขึ้นหลังเข้าไฮซีซั้นใน 4Q57
Smart Port Note
Beta ของพอร์ตลงทุนแสดงถึงความเสี่ยงของหุ้นในพอร์ตเทียบกับ ตลาด SET หากค่า Beta สูงกว่าหนึ่งเท่า แสดงถึงความเสี่ยงของ พอร์ตลงทุนที่สูงกว่า SET
Growth Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.85
Trading Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.92
Dividend Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.91
Quant Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.43