- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 20 January 2015 18:13
- Hits: 1999
บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Outlook
SET ทดสอบแนวต้าน 1,540 จุดอีกครั้ง: SET ปรับสูงขึ้นตั้งแต่เปิดตลาด และปิดตลาดที่ 1,535.37 จุด หรือ +1.16% นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานอย่าง PTT ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.6 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นสุทธิ 1 พันล้านบาท...สำหรับแนวโน้ม SET สัปดาห์นี้ มีแนวโน้มปรับสูงขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,540 จุด อีกครั้ง ด้วยปัจจัยหนุนจาก 1) “เก็งกำไร” การประชุม ECB วันที่ 22 ม.ค.นี้เพิ่มกรอบการเข้าซื้อสินทรัพย์ของมาตรการ QE 2) ราคาน้ำมันมีแนวโน้ม Rebound ระยะสั้น (ดูรายงานทางเทคนิคประกอบ) เป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานอย่าง PTT TOP PTTGC
“ซื้อ” SEAFCO และ “เก็งกำไร” MONO...ขณะที่กลุ่มโรงพยาบาลแข็งแกร่งกว่าตลาด: กลยุทธ์หลักแนะนำ “Selective” SEAFCO (เพิ่มเป้าหมายพื้นฐานเป็น 14.0 บาท – ดูใน Tactical Portfolio) SAWAD AOT SAMART RS ขณะที่แนะนำ “เก็งกำไร” MONO (ไม่อยู่ใน Coverage) ด้วยเป้าหมายระยะสั้น 4.20/4.80 บาท เนื่องจากเป็น Laggard Play เมื่อเทียบกับ RS และ WORK ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่กำไรผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วคล้ายๆ กัน…นอกจากนี้ยังแนะนำ “ซื้อ” BGH CHG คาดกำไรเติบโตต่อเนื่องใน 4Q14 ขณะที่ในทางเทคนิคดูแข็งแกร่งกว่าตลาด
Tactical Portfolio (1-3 months)
TNS แนะนำ AOT, BGH, CK, RS, SAMART, SAWAD, SAPPE, SEAFCO, SPALI และ TUF ต่อเนื่อง
“ซื้อ” SEAFCO…เป้าหมายใหม่ที่ 14.0 บาท: แนะนำ “ซื้อ” SEAFCO ด้วยเป้าหมายพื้นฐานใหม่ที่ 14.0 บาท (เดิม 11.0 บาท) จาก 1) อุตสาหกรรมก่อสร้างที่เติบโต โดยเฉพาะโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐฯ และอาคารสูง ส่งผลให้ความต้องการผู้ประกอบการฐานรากแบบ SEAFCO เพิ่มขึ้น ขณะที่คู่แข่งน้อยราย ส่งผลให้รายได้เติบโตแกร่ง 13-39% ในปี 2015-16 2) คู่แข่งน้อยราย ส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรสูง 21-23% (Conservative เมื่อพิจารณาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ 23.6% ใน 3Q14) 3) คาดการณ์กำไรเติบโตแข็งแกร่ง 82% ในปี 2014 และจะเติบโตต่อเนื่อง 18% ปีนี้ และ 30% ในปี 2016 เนื่องจากคาดการณ์ว่าปี 2016 จะมีงานโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐฯ เพิ่มขึ้น จากที่เริ่มเปิดประมูลในปี 2015 4) ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง ด้ยสัดส่วนเงินสดสุทธิ และแม้ราคาหุ้นจะปรับสูงขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา แต่ Valuation ในเชิง PE ยังต่ำเพียง 12x ปีนี้ เทียบกับผู้รับเหมาฯ ขนาดใหญ่อย่าง STEC CK ซื้อขายที่ PE 22-32x และ 5) เมื่อพิจารณาในทางเทคนิค มีจังหวะปรับสูงขึ้นต่อเนื่องหลังทำจุดสูงสุดใหม่ ด้วยเป้าหมายระยะสั้น 12.50 บาท
Technical
พลิกบวกระยะสั้น : แนวโน้มระยะสั้นยังคงแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบระหว่าง 1514-1546 จุด หรือมีจังหวะขึ้นไปทดสอบแนวต้านเดิมไม่เกิน 1550 จุด เป็นจังหวะขายออก สำหรับวันนี้คาดว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1528-1539 จุด โดยมีจุดสำคัญอยู่ที่เส้นแนวค่าเฉลี่ย 28 สัปดาห์บริเวณ 1548-50 จุด เป็นแนวกด SET และคงมุมมองตลาดแบบแกว่งตัวเช่นเดิม โดยมีเงื่อนไขหากดัชนี SET กลับมาต่ำกว่า 1514 จุด จะเกิดสัญญาณขายลดความเสี่ยง
หุ้นซื้อระยะสั้น: BH ฟื้นตัวขึ้นด้วยแท่งเทียนรูปแบบ Hammer ปิดในระดับสูงสุดของวันเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 1 เดือน เกิดสัญญาณซื้อจาก MACD และ Stochastic มีโอกาสแกว่งตัวขึ้นทดสอบเส้น Downtrend Line บริเวณ 145 บาท เป้าหมายสำคัญ 150 บาท THANA ขึ้นทะลุผ่าน Downtrend Line พร้อมปริมาณการซื้อขายที่สูงขึ้น เกิดสัญญาณซื้อจาก MACD ที่พลิกกลับมาเป็นบวกวันแรก มีแนวต้านแรกที่ 3.50 บาท ถัดไปที่ 3.70 บาท
TFEX Recommendation
SET50 Futures: แนะนำ “เปิด”/“ถือ” สถานะ Long สัญญา S50H15 หลังปรับสูงขึ้นยืนเหนือระดับ 1000 จุด เป็นสัญญาณ เปิดสถานะ Long ด้วยเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 1,020-1,025 จุด
Gold Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Long สัญญา GFG15 โดยมีเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 20,250 บาท ขณะที่เลื่อน Trailing Stop ขึ้นมาที่ 19,600 บาท
Oil Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Long สัญญา BRG15 ลุ้นการปรับสูงขึ้นไปที่ 1,760 ระยะสั้น (อิงเส้นค่าเฉลี่ย 20 วัน ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 1,560 โดยในทางเทคนิคถือว่ามีสัญญาณฟื้นตัวรูปแบบ Morning Star ในกราฟระดับวัน และสัญญาณ Spinning Bottom ในกราฟระดับสัปดาห์
Thai Strategy Team
นพดล พิริยวุฒิ
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล