- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 19 January 2015 16:20
- Hits: 2097
บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Outlook
SET มีแนวโน้ม Attempted Rally ก่อนการประชุม ECB วันที่ 22 ม.ค.: การยกเลิกเพดานอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างฟรังก์สวิสกับยูโร ของธนาคารกลางสวิสส่งผลให้ตลาดหุ้นโลก และ SET ปรับลดลง 0.37% ปิดตลาดที่ 1,517.74 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายลดลงเหลือ 3.7 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นสุทธิ 1,737 ล้านบาท...สำหรับแนวโน้ม SET สัปดาห์นี้ คาดว่ามีลักษณะ Attempted Rally ทดสอบแนวต้าน 1,540 จุด อีกครั้ง จาก 1) “เก็งกำไร” การประชุม ECB เพิ่มกรอบการเข้าซื้อสินทรัพย์ของมาตรการ QE 2) ราคาน้ำมันฟื้นตัวต่อเนื่องจากลางสัปดาห์ก่อน หลัง IEA คาด Non-OPEC มีแนวโน้มผลิตน้ำมันลดลงในปีนี้ หนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน และดัชนี Dow Jones เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา +1.1%
“เก็งกำไร” กลุ่มพลังงาน: เราแนะนำกลยุทธ์ “Selective” เป็นกลยุทธ์หลักสำหรับการลงทุนในช่วง 1Q15 โดยเฉพาะกลุ่มหุ้นที่มีประเด็นบวกอย่าง SAWAD (กำไรเติบโตดี มี Upside จากธุรกิจใหม่) AOT (จำนวนผู้โดยสารเติบโต) SAMART (ความชัดเจนธุรกิจพลังงาน) SEAFCO (งานลงทุนภาครัฐฯ PE ถูก) ขณะที่ “เก็งกำไร” กลุ่มพลังงาน อย่าง TOP (ต้าน 46.25) PTT (ต้าน 331) PTTGC (ต้าน 54.25/57)
Tactical Portfolio (1-3 months)
TNS แนะนำ AOT, BGH, CK, RS, SAMART, SAWAD, SAPPE, SEAFCO, SPALI และ TUF ต่อเนื่อง
Tactical Portfolio: Tactical Portfolio ให้อัตราผลตอบแทน +1.56% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (12-16 ม.ค.2015) เทียบกับ SET ให้อัตราผลตอบแทน -0.76% หรือมีอัตราผลตอบแทนดีกว่า SET อยู่ 2.33% สำหรับสัปดาห์ที่ผ่านมา SAMART SEAFCO ให้อัตราผลตอบแทนดีที่สุดใน Tactical Portfolio หรือ +7% และ +6.1% ตามลำดับ ขณะที่ SPALI ให้อัตราผลตอบแทนต่ำที่สุดใน Tactical Portfolio หรือ -3.6% w-w ทั้งนี้กลุ่มหุ้นที่มี Momentum เชิงบวกระยะสั้น และคาดว่าจะเป็นหุ้นที่ Outperform ตลาดระยะ 1-2 สัปดาห์นี้ได้แก่ 1) AOT จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 2) SAMART ความคืบหน้าธุรกิจพลังงาน และใกล้เข้าสู่ช่วงก่อนประกาศ XR 11 ก.พ.นี้ 3) SAWAD ออกหุ้นกู้ 2000 ล้านบาท หนุน NIM เพิ่มขึ้น และมี Upside จากธุรกิจ Fee-income มากขึ้น 4) SPALI ผลการดำเนินงาน 4Q14 ทำจุดสูงสุดใหม่ คาดจ่ายปันผล 0.65 บาท สำหรับ 2H14 หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทน 2.7% รวมไปถึง SEAFCO BGH TUF ที่ราคาหุ้นมีจังหวะฟื้นตัวตามสัญญาณทางเทคนิค และพื้นฐานแข็งแกร่งอยู่แล้ว
Technical
แกว่งตัวแคบถึงอ่อนตัว : SET ปิดแย่ลงมาต่ำกว่าแนว 1520 จุด หลังจากสัปดาห์ที่แล้วขึ้นไปทดสอบบริเวณ 1550 จุด ไม่ผ่านแนวต้านเป็นจังหวะขายระยะสั้น สำหรับระยะสัปดาห์นี้คาดว่าดัชนี SET จะอยู่ระหว่าง 1505-1540 จุด ถ้าดัชนี SET ยังไม่สามารถฟื้นคืนไปอยู่เหนือระดับ 1520 จุดได้ จะเป็นสัญญาณลบเตือนว่าเรายังคงอยู่ในตลาดขาลงต่อไป เป้าหมายระยะสั้นอยู่ที่ 1460-70 จุด เป็นจังหวะซื้อหุ้นกลับ
หุ้นซื้อระยะสั้น: VIBHA เบรคผ่าน Downtrend Line ขึ้นมาได้ พร้อมปิดที่จุดสูงสุดของวัน เกิดสัญญาณซื้อจาก MACD ที่พลิกมาเป็นบวกและ DI+ มีแนวต้านแรก 15.00 บาท ถัดไป 15.50 บาท NPP ผ่านเส้นแนวกด Downtrend Line ปริมาณการซื้อขายสูงขึ้นสนับสนุน มีสัญญาณซื้อจากการเรียงตัวตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ย 7-14-21 วัน และ DI แนวต้านแรกที่ 5.30 บาท ถัดไปที่ 6.00 บาท
TFEX Recommendation
SET50 Futures: แนะนำ “ปิด” สถานะ Short สัญญา S50H15 ไปก่อน และ “รอเปิด” สถานะ Long เมื่อปรับสูงขึ้นเหนือ 1,000 จุด (เป้าหมาย 1,020 จุด) เนื่องจากคาดการณ์ SET50 มีจังหวะ Rebound ก่อนการประชุม ECB วันที่ 22 ม.ค.นี้
Gold Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Long สัญญา GFG15 โดยมีเป้าหมายการปรับสูงขึ้นถัดไปที่ 20,250 บาท โดยเป้าหมายเดิมที่ 19,700 บาท ถูกทำลายไปแล้วในช่วงปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่เลื่อน Trailing Stop ขึ้นมาที่ 19,500 บาท
Oil Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Long สัญญา BRG15 ลุ้นการปรับสูงขึ้นไปที่ 1,780 ระยะสั้น ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 1,560 ล่าสุดราคาน้ำมันดิบ Brent ฟื้นตัว +US$1.9/bbl หลัง IEA ปรับลดคาดการณ์การผลิตน้ำมันของกลุ่ม Non-OPEC ลง
Thai Strategy Team
นพดล พิริยวุฒิ
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล