- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 19 January 2015 16:11
- Hits: 2211
บล.เคเคเทรด : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET แกว่งตัวสร้างฐาน
SET View
แนวโน้มวันนี้เป็นบวก มองกรอบเคลื่อนไหว 1,515 – 1,530 จุด
SET จะแกว่งตัวเพื่อสร้างฐาน ราคาน้ำมันดิบ Brent ที่ปรับขึ้นมาที่ US$48 ต่อบาร์เรลหลัง IEA ปรับลดคาดการณ์ผลผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปค บ่งบอกว่าหุ้นกลุ่มพลังงานจะนำ SET เปิดบวกได้ในวันนี้ ขณะที่เงินบาทเริ่มแข็งค่ามาที่ 32.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ (+1.5% จากต้นปี) บ่งบอกถึงเงินทุนไหลเข้ามาในประเทศ แม้คาดว่าส่วนใหญ่เข้ามายังตลาดพันธบัตรแต่สภาพคล่องส่วนเกินที่ดีขึ้นเป็นบวกต่อจิตวิทยาการลงทุน อย่างไรก็ตามการประกาศงบ 4Q57 ของหุ้นกลุ่มธนาคารในสัปดาห์นี้อาจมีการขายทำกำไร (Sell-On-Fact) และจะกดดัน รวมถึงควรระวังการขายทำกำไรของนักลงทุนสถาบันหลังการเข้าซื้อสุทธิจากต้นปีแล้วราว 8.4 พันล้านบาทมากกว่า 2 เท่าของเดือนม.ค.ปีก่อนที่อาจทำให้ SET พลิกผัน ทางเทคนิค SET อยู่ระหว่างการแกว่งตัวเพื่อสร้างฐานมีกรอบด้านบนแถว 1530-1545 และกรอบด้านล่างแถว 1500-1515 หลุดจากกรอบดังกล่าวจะเกิดการ Break out (ขึ้น/ลง)
กลยุทธ์การลงทุน เก็งกำไรระยะ 1-2 วัน หาจังหวะขึ้นขาย-ลงซื้อ หาก SET ปิดต่ำกว่า 1515 จุดควรชะลอการลงทุน
Top Daily Pick: BEAUTY (เพิ่มปรับประมาณการและมูลค่าเหมาะสมขึ้นสะท้อนผลประกอบการมีแนวโน้มดีกว่าคาด ขณะที่ผลประกอบการ 4Q57 คาดจะทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 84 ล้านบาทเติบโตกว่า 56%YoYและ3%QoQ) /INTUCH (ผลประกอบการ 4Q57 มีโอกาสเติบโตต่อเนื่องและจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี มี upside จากการขยายธุรกิจต่อเนื่องของทั้ง ADVANC และ THCOM รวมถึงธุรกิจผลิตรายการโทรทัศน์)
Technical Pick: BGH EPCO ECL BTC LIVE
Theme Play : หุ้นกลุ่มพลังงงาน-โรงกลั่นที่ได้ผลบวกด้านจิตวิทยาจากราคาน้ำมันดิบรีบาวน์ (BCP PTT PTTEP PTTGC TOP) /หุ้นโมเมนตัมดี-Weekly outperformers (FVC IFEC DEMCO SAMART SEAFCO SYNTEC TRC UNIQ BAY DCON IHL MONO PREB RCL)
พอร์ตลงทุน
Trading AMATA BEAUTY BGH M NOK SIM WORK
OUT: SST IN: BGH
Growth AMATA HOTPOT TOP TUF WORK
Dividend ADVANC BBL EGCO MODERN PTTGC RML SRICHA
Quant BECL BIGC EGCO MODERN HANA HOTPOT NBC
รายงานวันนี้
Update : PTT (ซื้อ / มูลค่าเหมาะสม 385 บาท) ปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ”
Update : BEAUTY (เก็งกำไร / มูลค่าเหมาะสม 35.50 บาท) ปรับประมาณขึ้นสะท้อนความแข็งแกร่งของยอดขาย
Strategy Talk
กลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์นี้ (19-23 มกราคม)
แนวโน้ม สัปดาห์นี้คาด SET เคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ 1500-1545 จุด เพื่อรอผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) วันที่ 22 ม.ค. หากมาตรการ QE ยังไม่ชัดเจน (เราคาดโอกาสมากกว่า 50%) SET มีความเสี่ยงต่อการหลุด 1500 จุด และหากมีการออกมาตรการ QE เราเชื่อว่า SET มีโอกาสกลับตัวขึ้นไปทดสอบเหนือระดับ 1545 จุดได้
ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม (1) IEA ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปคลง 3.5 แสนบาร์เรลต่อวัน แรงกดดันจากภาวะอุปทานส่วนเกินจะลดลงไป อาจเห็นการรีบาวน์ของราคาน้ำมันดิบในระยะสั้น หากราคาน้ำมันดิบ Brent สามารถรีบาวน์กลับขึ้นมายืนเหนือ US$50 ต่อบาร์เรลอีกครั้ง จะช่วยทำให้หุ้นกลุ่มพลังงานเริ่มประคองตัวเพื่อสร้างฐาน อย่างไรก็ตามการ Preview ผลประกอบการหุ้นกลุ่มพลังงานช่วงนี้ ยังมีความเสี่ยงต่อการปรับลดประมาณการณ์กำไรลงทำให้การรีบาวน์หากจะมีจะอยู่ในกรอบจำกัด (2) 22 ม.ค. ธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB จะมีการประชุมและแถลงเรื่อง QE เราคาดว่าด้วยขีดจำกัดการเป็นกลุ่มประเทศยุโรป นโยบายจะทำได้ไม่อิสสระเหมือน QE ของทางสหรัฐทั้งในแง่ขั้นตอนและขนาด ซึ่งจะทำให้ตลาดผิดหวังเช่นเคย (3) สัปดาห์นี้จะเริ่มทยอยประกาศงบ 4Q57 ของกลุ่มธนาคารเริ่มจาก KBANK SCB TCAP TMB (19 ม.ค.), BAY BBL (20 ม.ค.) และ KTB (21 ม.ค.) คาดจะทำให้ SET ผันผวน (4)
ทิศทางค่าเงินบาทที่ล่าสุดแข็งค่าสุดในรอบ 10 สัปดาห์ที่ 32.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐบ่งบอกถึงเม็ดเงินไหลเข้าในระยะสั้น แม้เรามองว่าส่วนใหญ่น่าจะไหลเข้ามาในตลาดพันธบัตร แต่จะทำให้สภาพคล่องส่วนเกินในระบบดีขึ้น
กลยุทธ์การลงทุน
สำหรับการลงทุนระยะสั้น อ่อนตัวซื้อเล่นรีบาวด์ในกรอบ 1500-1545 จุด กรณีปิดต่ำกว่า 1490 จุด SET จะกลับเป็นขาลงให้ขายถือเงินสด แนะนำหุ้นกลุ่มพลังงงาน-โรงกลั่นที่ได้ผลบวกด้านจิตวิทยาจากราคาน้ำมันดิบรีบาวน์ (BCP PTT PTTEP PTTGC TOP) / หุ้นโมเมนตัมดี outperform ตลาด (FVC IFEC DEMCO SAMART SEAFCO SYNTEC TRC UNIQ BAY DCON IHL MONO PREB RCL)
สำหรับการลงทุนระยะปานกลาง-ยาว ยังให้ใช้จังหวะ SET อ่อนตัวทยอยสะสมบางส่วนเพิ่ม เลือกเฉพาะตัวที่ลงแรงๆ เน้นหุ้นที่ผลประกอบการมีทิศทางดีต่อเนื่องหรือมีทิศทางจะฟื้นตัวในปีนี้ โดยกลุ่มที่น่าสนใจได้แก่
1. กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง (CK STEC ITD) เป็นกลุ่มที่โดดเด่นต่อเนื่องจากการมีโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆจากภาครัฐเป็นจำนวนมาก
2. กลุ่มเครือข่ายร้านค้าปลีกและอาหาร (CPALL M ROBINS KAMART) มีแนวโน้มฟื้นตัวตามกำลังซื้อในประเทศที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันถูกลงและความคืบหน้าการที่รัฐบาลเยียวยาเกษตรกรสวนยางและชาวนา
3. หุ้นขนาดกลาง-เล็ก (MODERN MFEC SYMC GRAMMY) มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว มี upside และ ปันผลสูง
4. หุ้นเด่นปี 58 (ADVANC CK GRAMMY HEMRAJ KAMART SNC SPALI TOP)