- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 16 January 2015 15:21
- Hits: 1822
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-/+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA -106.38, NASDAQ -68.50 และ S&P -18.60 ภายใต้ประเด็นกดดันจาก (1) ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ (SNB) ประกาศยกเลิกเพดานการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนฟรังก์สวิสเมื่อเทียบกับยูโรที่ 1.20 ฟรังก์สวิส พร้อมลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับ -0.75% จาก -0.25% (2) ผลประกอบการของธนาคารขนาดใหญ่ใน 4Q/57 ลดลง ทั้งซิตี้กรุ๊ปและแบงก์ ออฟ อเมริกา และ (3) ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เช่น จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการ เพิ่มขึ้น 19,000 ราย อยู่ที่ 316,000 ราย ดัชนีภาวะธุรกิจ – มค. อยู่ที่ 6.3 ลดลงจาก 24.3 เมื่อธค. และต่ำกว่าที่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 19.9 รวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) - ธค. ลดลง 0.3% มากสุดในรอบเกือบ 3 ปี จากราคาพลังงาน อย่างไรก็ตามแสดงให้เห็นว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในระดับผู้ผลิตยังคงอ่อนแรง ทำให้มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่เฟด จะคงอัตราดอกเบี้ยต่ำไว้ต่อไป
.....ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรป FTSE +110.32, CAC +99.96 และ DAX +215.53 ตอบรับในเชิงบวกต่อประเด็นที่ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ (SNB) ประกาศยกเลิกเพดานการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนฟรังก์สวิสเมื่อเทียบกับยูโร พร้อมกับปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยมีเป้าหมายที่จะป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย
…..ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ก.พ. -US$2.23 อยู่ที่ US$46.25 ต่อบาร์เรล ภายหลังโอเปคระบุว่าอุปทานน้ำมันที่มีอยู่มาก คาดเป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมันในปีนี้ ขณะที่ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันยังคงซบเซาเนื่องจากตลาดน้ำมันโลกมีปริมาณน้ำมันส่วนเกินอยู่อย่างน้อย 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่วนในปี’ 58 นั้น คาดว่าปริมาณน้ำมันดิบจากโอเปคจะอยู่ที่ 28.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน
....ขณะที่ราคาทองคำส่งมอบเดือน ก.พ. +US$30.3 อยู่ที่ US$1,264.8 ต่อออนซ์ โดยเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 4 เดือน หลังธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ตัดสินใจยกเลิกมาตรการควบคุมสกุลเงินฟรังก์ ด้วยการยกเลิกเพดานการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนฟรังก์สวิสเมื่อเทียบกับยูโร ทำให้มีการคาดการณ์เพิ่มน้ำหนักต่อประเด็นการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) วันที่ 22/1/58 อาจประกาศโครงการซื้อพันธบัตร เพื่อสกัดภาวะเงินฝืด
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -3,156 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -15,679 ล้านบาท (ปี ’57 มียอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)
ทิศทางตลาด
ทิศทางตลาด : คาดยังผันผวน? คาดมีโอกาสปรับลง ตามตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่ โดยเฉพาะตามภูมิภาคเช้านี้ หลัง SNB ตัดสินใจยกเลิกเพดานกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนฟรังก์สวิสเมื่อเทียบกับยูโร ซึ่งไม่อยู่ในความคาดหมายของตลาดฯ และส่งผลให้ค่าเงินสกุลต่างๆ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับ US$ อย่างไรก็ตามทำให้มีการคาดการณ์เพิ่มน้ำหนักต่อประเด็นการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) วันที่ 22/1/58 อาจประกาศโครงการซื้อพันธบัตร เพื่อสกัดภาวะเงินฝืด ที่คาดน่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมตลาดฯ หลังจากนี้ไป
.....ขณะที่ราคาน้ำมันปรับลงกว่า 2USD คาดกลับมากดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะความกังวลต่อผลประกอบการที่คาดอาจะได้รับผลกระทบต่อเนื่องถึง 1Q/58 อย่างไรก็ตามคาดเป็นโอกาสในการเข้าลงทุนโดยเฉพาะในช่วงราคาอ่อนตัวในหุ้น PTT และกลุ่มโรงกลั่นทั้ง TOP, PTTGC, IRPC และ ESSO ที่คาดหลังจากนี้ไปมีปัจจัยบวกจากประเด็นการปรับราคาก๊าซ LPG หน้าโรงแยกก๊าซ และโรงกลั่น ซึ่งคาดส่งผลดีต่อแนวโน้มการทำกำไรในอนาคต
.....ส่วนประเด็นในประเทศ คาดได้รับปัจจัยลบอีกครั้ง หลังต่างชาติขายสุทธิกว่า 3,100 ล้านบาท โดยยังแนะติดตามการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณของหน่วยงานต่างๆ เพื่อใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงประเด็น (1) การเก็งกำไรผลประกอบการ 4Q/57 ที่เริ่มจากกลุ่มธนาคาร และ (2) การปรับโครงสร้างการบริหารในหน่วยงาน กสทช. จากการยุบหน่วยงาน กทค.และ กสท. โดยอำนาจจะไปอยู่ที่บอร์ด กสทช. ชุดเดียว ที่อาจส่งผลกระทบต่อการประมูลคลื่น 4G ของ กสทช. ให้ทันภายในเดือนสค. 58 ทั้งคลื่น 1800 MHz และ 900 MHz ที่จะหมดอายุสัมปทานในเดือน กย. 58
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.06 อยู่ที่ 1.78% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) +0.91 อยู่ที่ 22.39
หุ้นแนะนำ : SEAFCO
ประเด็นที่ต้องติดตาม (16 - 22 ม.ค.’58)
16/1/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) - ธค. (2) ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังผลิต - ธค. (3) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้น - มค. (4) เงินทุนไหลเข้าสุทธิและปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของต่างชาติ - พย.
22/1/58 : ประชุม ECB
หุ้นแนะนำ
SEAFCO : เบื้องต้นประเมินราคาเป้าหมาย (ปี’58) 12.00 บาท
SEAFCO เป็น 1 ในผู้นำงานฐานราก ที่คาดในระยะยาวได้รับประโยชน์ตามภาพรวมงานก่อสร้างทั้งจาก (1) งานภาครัฐ จากโครงการ Mega Project เช่น งานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าเส้นทางต่างๆ ที่อยู่ระหว่างรอลงนามสัญญา และที่คาดจะเปิดประมูลเพิ่มในปี’58 (2) งานภาคเอกชน เช่น โครงการคอนโดมิเนียม และอาคารสูง ที่คาดมีการขยายไปตามเส้นทางรถไฟฟ้า
ในระยะสั้น – กลาง คาดมีประเด็นบวกจากผลประกอบการในปี’57 ที่คาดทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ หลัง SEAFCO ปรับเพิ่มประมาณการรายได้ในปี’57 จากเป้าหมายเดิมอีก 25% จาก 1,600 ล้านบาท เป็น 2,000 ล้านบาท ซึ่งคาดเพิ่มโดดเด่นเมื่อเทียบกับปี’56 ที่มีรายได้ จำนวน 1,307 ล้านบาท เช่นเดียวกับความสามารถทำกำไรที่ดีขึ้น คาด Net Profit Margin เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 10% หรือคาดกำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45%
คาดผลการดำเนินงานในปี’58 ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง และคาดสามารถทำ New High ใหม่ จาก Backlog ล่าสุด ประมาณ 1,100 ล้านบาท ที่คาดส่วนใหญ่รับรู้ในช่วง 1H/58 ขณะที่ SEAFCO คาดรายได้ทั้งปี’58 เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% หรือคาดอยู่ที่ 2,300 ล้านบาท และในเบื้องต้นหากประเมินแบบระมัดระวัง ภายใต้ Net Profit Margin ที่ประมาณ 10% คาดกำไรสุทธิ 230 ล้านบาท หรือคิดเป็น EPS ประมาณ 0.80 บาท
เบื้องต้นประเมินราคาเป้าหมายปี’58 ที่ 12.00 บาท อ้างอิง PE เฉลี่ยที่ใช้ซื้อขายในช่วงที่ผ่านมาประมาณ 15 X
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788