- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 15 January 2015 16:24
- Hits: 2196
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“แกว่งไม่หลุด 1510 ยังเลือกซื้อเก็งกำไร/ถือต่อ”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : LH (จากซื้อเป็นถือ)
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,523.24 จุด ลดลง 11.73 จุด (-0.76%) เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงต่อเนื่องกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานต่อใน 1Q58 รวมทั้งอาจทำให้ PTT ได้รับผลดีจากการปรับขึ้นของราคา LPG & NGV น้อยกว่าคาดการณ์เดิม เพราะราคาก๊าซก็มีแนวโน้มลดลงตามราคาน้ำมันเช่นกัน นอกจากนั้น Sentiment เป็นลบจากดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์สร่วงลงแรง นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิต่อเนื่องในระยะสั้น ตลาดยังไม่ทิ้งการแกว่งตัว และยังอยู่ในทิศทาง Sideways down (จนกว่าจะขึ้นไปยืนเหนือ 1550 จุดจึงจะลบภาพนี้ได้) ในด้าน Valuationของตลาดหุ้นไทยก็ค่อนข้างแพง โดยซื้อขายที่ Forward P/E ปี 58 ประมาณ 15.5 เท่า
ขณะที่คาดการณ์ EPS ตลาดเติบโตเพียง 10.7% แต่ระยะสั้นมากอาจมีเด้งจากความคาดหวังว่า ECB จะออก QE ในการประชุมสัปดาห์หน้า (22 ม.ค.) และราคาน้ำมันที่รีบาวด์หลังร่วงต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เห็นว่าการปรับขึ้นของราคาน้ำมันจะมีระยะทางจำกัดอันเกิดจากอุปทานที่สูงขณะที่อุปสงค์ต่ำตามภาวะเศรษฐกิจโลก ล่าสุดธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์Global GDP Growth ปีนี้ลงเป็น 3% (เดิม 3.4%) ดังนั้นถ้ามีการปรับขึ้นของหุ้นพลังงานโดยเฉพาะ PTTEP ก็เป็นจังหวะในการปรับพอร์ตลงทุนที่มีน้ำหนักการลงทุนในหุ้นนี้มากเกินไป หรือพอร์ตที่ได้เข้าซื้อเก็งกำไรไปก่อนหน้านี้ ส่วนการเก็งกำไรผลประกอบการ ก็เป็นลักษณะ Selective Play เพราะหลายกลุ่มยังฟื้นตัวได้ไม่ดีนัก หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้เป็น HANA
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้นมากสัญญาณเป็นบวก แต่ก็พร้อมเปลี่ยนเป็นลบ โดยการบวกต่อมีแนวต้าน 1540 หรือ 1550 จุด ค่าลบควรลดพอร์ตตาม และตัดขาดทุนเมื่อดัชนีหลุด 1510 จุด การซื้อเก็งกำไรใหม่เน้นตามด้วยค่าบวกของดัชนี & ราคาหุ้นเป็นหลัก สำหรับการ Scan หาหุ้นที่ราคามีโอกาสทำ New High ในทางเทคนิค พบว่าหุ้นที่น่าสนใจ คือ CSS, M, NPP ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ VIBHA, BMCL, ITD หุ้นที่หลุด List เป็น CEN,TTA และหุ้นที่ปรับขึ้นและอยู่ในพื้นที่น่า Take Profit คือ UNIQ, SAMART
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
- ธนาคารโลกปรับลด Global GDP Growth ปี 58 เป็น 3% (ลด 0.4%จากคาดการณ์เมื่อเดือนมิ.ย.57) เนื่องจากต้องเผชิญอุปสรรคต่างๆ ที่สกัดผลบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลง
- สหรัฐ : ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค.แย่กว่าคาด ยอดค้าปลีกทั่วไป -0.9%ในเดือนธ.ค.57 ดิ่งมากสุดนับตั้งแต่ม.ค.57 ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน (ไม่รวมภาคยานยนต์, น้ำมันเบนซิน, วัสดุก่อสร้าง และบริการด้านอาหาร) -0.4% หลัง +0.6% ในเดือนพ.ย.57
- สหรัฐ : ดัชนีราคานำเข้าดิ่ง 2.5% ในเดือนธ.ค. จากราคาพลังงานที่ทรุดตัวลง โดยเป็นการปรับลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.51 ขณะที่เดือนพ.ย.ร่วงลง 1.8%
- ตลาดหุ้นสหรัฐ : กำไรของเจพี มอร์แกน แย่กว่าคาดกดดันหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยกำไรลดลง 6.6% เป็น 1.19 ดอลลาร์/หุ้น ใน 4Q57(จากที่คาด 1.31 ดอลลาร์/หุ้น) โดยธนาคารมีค่าใช้จ่ายด้านกฎหมายมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์จากการที่รัฐบาลสหรัฐเข้าตรวจสอบกรณีที่ทางธนาคารทำผิดกฎระเบียบ นอกจากนี้ธนาคารกันสำรองหนี้เสียเพิ่มขึ้นด้วยปิดตลาดดัชนี DJIA ร่วง 186.59 จุด หรือ -1.06% ดัชนี NASDAQ ลดลง22.18 จุด หรือ -0.48% ดัชนี S&P500 ลดลง 11.76 จุด หรือ -0.58%
+สัญญาน้ำมันดิบมีรีบาวด์ โดย WTI ส่งมอบเดือนก.พ.ปิด +2.59ดอลลาร์ ที่ 48.48 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน BRENT +2.1 ดอลลาร์ ปิดที่48.69 ดอลลาร์/บาร์เรล ... เป็นบวกระยะสั้นกับหุ้นกลุ่มพลังงาน แต่ราคาน้ำมันที่คาดว่าจะทรงตัวต่ำในปี 58 และผลประกอบการผู้ผลิตก๊าซและน้ำมันที่จะหดตัวลงอย่างมีนัยสำคัญทำให้เรายังคงแนะนำ Fully Valuedหุ้น PTTEP (ราคาพื้นฐาน 109 บาท อิงกับสมมติฐานราคาน้ำมันดิบปี 58ที่ 70 US$/bbl)
• สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้นเพียง 10เซนต์ หรือ +0.01% ปิดที่ 1,234.50 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหลักทรัพย์เด่น
• กลุ่มที่พักอาศัย : ผู้บริหาร LH มองตลาดปี 58 โตต่ำกว่า 10%เนื่องจากกำลังซื้อยังไม่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในกลุ่มเศรษฐกิจรากหญ้าแนะให้จับตาคอนโดต่างจังหวัดที่อาจเกิดภาวะทิ้งดาวน์ หรือไม่โอนโดยเฉพาะคอนโดที่ราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาทที่มีการซื้อเก็งกำไรจำนวนมากสำหรับ Key growth ของเศรษฐกิจไทย LH มองว่าเหลือเพียงการลงทุนภาครัฐเท่านั้น LH กล่าวถึงยอดขายที่พักอาศัยในต่างจังหวัดของบริษัทว่าในปี 57 ต่ำกว่าเป้าหมาย 20-25% และสัดส่วนการปฏิเสธสินเชื่อ(Rejection Rate) สูงขึ้นเป็น 15-20% เพราะธนาคารเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ในด้านต้นทุนการผลิต พบว่าราคาน้ำมันที่ลดลงทำให้งานถมดินมีต้นทุนต่ำลงจาก 300 บาท/คิวมาเป็น 240-280 บาท/คิว (ลดลง 7-20%) ส่วนต้นทุนการก่อสร้างทรงตัว แต่ต้นทุนค่าที่ดินสูงขึ้น
ความเห็น Retail Research : การลงทุนในกลุ่มที่พักอาศัยปี 58 ควรเป็นSelective Buy เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อโดยรวมยังไม่แข็งแกร่งมาก ดังนั้นกำไรของบริษัทจะไม่ได้สดใสไปทั้งหมด อย่างไรก็ตามมีบางบริษัทที่จะมีกำไรสุทธิเติบโตแข็งแกร่งในปี 58 ได้เนื่องจากมีBacklog สูง รวมถึงจ่ายปันผลสูงด้วย ได้แก่ LPN, SPALI, AP, PS
• กระทรวงพาณิชย์คงเป้าส่งออกไทยปี 58 เติบโต 4% อย่างไรก็ตามเราเห็นว่าเป็นเป้าหมายที่ท้าทาย เนื่องจากกำลังซื้อในตลาดโลกยังต่ำล่าสุดธนาคารโลกเพิ่งปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกลงเป็น 3% ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐก็ยังมีความเสี่ยงว่าอาจถูกกระทบจากความซบเซาของเศรษฐกิจโลกทำให้การเติบโตในระยะต่อไปอาจจะจำกัดลง สำหรับการลงทุนหุ้นกลุ่มส่งออก เห็นว่าต้องเลือกเป็นรายบริษัท(Selective Buy) เช่นกัน หุ้นที่เราชอบคือ KCE, HANA
• การเมือง : นายกฯชี้การที่สปช.มีมติไม่เห็นชอบการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ทำให้รัฐบาลทำงานยากขึ้น โดยนายวิษณุ รองนายกฯ จะนัดคุยกับสปช.และคณะกรรมาธิการทั้ง 18 คณะของสปช.วันที่15 ม.ค.นี้ และย้ำในหลักการว่ารัฐบาลไม่จำเป็นต้องทำตามข้อเสนอของสปช. ขณะเดียวกันนักวิชาการบางกลุ่มมองว่าควรนำข้อห่วงใยและข้อเสนอที่ทำให้สปช.มีมติคว่ำการเปิดสัมปทานฯในรอบนี้มาพิจารณาเพื่อหาทางออกร่วมกันภายใต้สมมติฐานว่าทุกฝ่ายก็ต้องการให้เกิดสิ่งที่ดีที่สุดกับประเทศ เราประเมินว่าภาพความขัดแย้งระหว่างสปช. รัฐบาล และองค์กรที่เกี่ยวข้องไม่เป็นเรื่องดี เพราะอาจทำให้ความเชื่อมั่นต่อการปฎิรูปและต่อประเทศลดลงได้
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 [email protected]