- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 15 January 2015 16:07
- Hits: 1827
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Rebound
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ เปิดทะลุ 1,540 จุด ผลักดันด้วยกลุ่มธนาคารและ ICT แต่เมื่อ DJIA Futures ลบกว่า 100 จุดในช่วงบ่าย ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเริ่มผันผวน กลายเป็นแรงกดดันต่อบรรยากาศการลงทุนทั่วโลก รวมถึงหุ้นพลังงาน อย่าง PTT / PTTEP รวมไปถึงกลุ่ม ICT และกลุ่มอสังหาฯ กดดันให้ SET INDEX ปิดลบเป็นวันแรกในรอบ 5 วันทำการ 11.73 จุด มาอยู่ที่ 1,523.24 จุด มูลค่าการซื้อขาย 49,099 ล้านบาท
ด้านเงินทุนต่างชาติเริ่มชะลอ แม้ว่าจะขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 4 แต่ก็เพียง 37 ล้านบาท Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 3 อีก 3,474 สัญญา และพักเงินบางส่วนที่ตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 3 อีก 379 ล้านบาท สะท้อนมุมมองของนักลงทุนต่างชาติต่อการลงทุนในไทยเป็นกลาง
ปัจจัยสำคัญวันนี้
•ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีครึ่ง ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดบวก US$2.59 ปิดที่ US$48.48/barrel และเช้านี้ราคาน้ำมันดิบขยับขึ้นอีกเล็กน้อย เป็นบวกด้านจิตวิทยาการลงทุนใน PTT / PTTEP
•ยอดค้าปลีกและสต็อกสินค้าภาคธุรกิจของสหรัฐฯ คืนวานนี้ ออกมาต่ำกว่าคาด แม้ว่ารายงาน Beige Book จะส่งสัญญาณบวกต่อภาคการบริโภคที่เติบโตต่อเนื่อง หลังราคาน้ำมันดิบลดลง
•ติดตามการประกาศงบ 4Q57 ของธนาคารขนาดใหญ่ในวันพรุ่งนี้
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองการลงทุนด้วยระดับ “กลาง” เป็นวันที่ 9 เพราะ SET INDEX ยังคงแกว่งในกรอบที่ประเมินไว้ 1,520-1,540 จุด โดยเราให้น้ำหนักกับการทยอยประกาศงบ 4Q57 ของกลุ่มธนาคารในช่วงปลายสัปดาห์นี้ต่อเนื่องสัปดาห์หน้า หากออกมาดีกว่าคาด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หุ้นธนาคารขนาดใหญ่อย่าง KBANK / SCB จะทำให้บรรยากาศการลงทุนกลับมามีทิศทางที่ชัดเจนขึ้น ภายใต้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะน้ำมันและสินค้าเกษตรจะยังมีทิศทางที่ไม่ชัดเจน แม้ว่าราคาน้ำมันดิบคืนวานนี้จะฟื้นตัวเด่นและต่อเนื่องในเช้าวันนี้ อาจเอื้อต่อบรรยากาศเก็งกำไรต่อหุ้นกลุ่มน้ำมันได้บ้าง แต่ความผันผวนที่สูงจึงไม่น่าสนใจ
ดังนั้นในช่วงสั้น กลยุทธ์การเก็งกำไรต่อประเด็นผลการดำเนินงานใน 4Q57 และ/หรือ หุ้นปันผลสูงในงวด 2H57 หรืองวดปี 2557 เป็นทางเลือก หรือกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวในระดับต่ำ พร้อมหลีกเลี่ยงกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์ อย่างน้ำมัน เพราะไร้ทิศทางที่ชัดเจนในช่วงสั้นนี้
ตลาด Nikkei / Kospi เช้านี้ (7.18 น) เปิดฟื้นตัว หลังราคาน้ำมันปิดบวกเด่นคืนวานนี้ บวกกับ Technical Rebound
กลยุทธ์การลงทุน
เราคงคำแนะนำ “นักลงทุนทยอยสะสมหุ้นเป้าหมาย หากราคาย่อตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย” เพื่อเก็งกำไรต่อการประชุม ECB ในวันที่ 22 ม.ค. รวมถึงการเข้าสู่ฤดูกาลประกาศงบ 4Q57 เริ่มด้วยกลุ่มธนาคารที่จะทยอยประกาศมากขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค.จนถึงวันที่ 21 ม.ค.
Portfolio Top Pick in 1Q15: ADVANC / BJCHI / ITD / KTB
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ KTB/ TTA
Accumulative Buy: BJCHI / ITD
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “ทยอยสะสม” ได้แก่
1.BJCHI : ราคาปิด 33.50 บาท ราคาเหมาะสม 45.00 บาท
a)MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มเงินปันผลสูงจะ Outperform ตลาดที่ผันผวนได้ และหากกนง.พิจารณาลดดอกเบี้ยลงในการประชุมวันที่ 28 ม.ค.จะเป็นอีกปัจจัยหนุนโดยตรงต่อหุ้น High Dividend Yield
b)BJCHI ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในอัตราสูง โดยคาดการณ์เงินปันผลปี 2557 (จ่ายปีละ 1 ครั้ง) หุ้นละ 2.40 บาท คิดเป็น Dividend Yield 7.1%
c)คาดผลประกอบการ 4Q57 จะขยายตัวสูง qoq เนื่องจากจะมีการรับรู้รายได้งานของ Petrobras ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง นอกจากนั้น ยังมี Catalyst รออยู่ใน 1Q58 คือการประกาศชนะงานประมูลขนาดใหญ่เพิ่มเติม จากงานทั้งหมดที่อยู่ระหว่างประมาณราว 2-3 หมื่นล้านบาท
d)Valuation น่าสนใจ โดยซื้อขายระดับ PER 2558 เพียง 9.1 เท่า ต่ำกว่า SET INDEX ที่ 12.5 เท่า และประมาณการรายได้ปี 2558 มี Backlog รองรับแล้วราว 65% จึงมีความเสี่ยงของประมาณการรายได้ค่อนข้างจำกัด
2.ITD : ราคาปิด 7.80 บาท ราคาเหมาะสม 8.50 บาท
a)MBKET คาดว่าหุ้น ITD จะ Outperform ตลาดได้ใน 1Q58 เนื่องจากมีปัจจัยบวกรออยู่ ได้แก่
I.คาดว่าจะมีการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการกับรัฐบาลพม่า ในช่วงปลายเดือน ม.ค. – ต้น ก.พ.
II.คาดว่าจะมีความคืบหน้าในการอนุมัติประทานบัตรเหมืองแร่โปรแตซ ที่จังหวัดอุดรธานี ภายใน 1Q58 และเป็นปัจจัยบวกในระยะยาวต่อ ITD
b)คงมุมมองเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างในปี 2558 เนื่องจากเป็นปีแห่งการลงทุนของภาครัฐฯ จึงส่งผลให้มีการประมูลงานขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก เช่น รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้ารางคู่ไทย – จีน
c)และเชื่อว่า ITD จะชนะงานประมูลขนาดใหญ่ต่อเนื่อง เพราะเป็น 1 ใน 3 บริษัทรับเหมาขนาดใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญสูง
d)คาดกำไรปกติปี 2558 เติบโต +56.9% yoy เป็น 904 ล้านบาท และมี Upside Risk ที่มีนัยสำคัญ คือโครงการเหมืองโปรแตซซึ่งยังไม่รวมไว้ในประมาณการของเรา และคิดเป็นมูลค่าแฝงใน ITD สูงถึงหุ้นละ 13.00 บาท
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 2 อีก US$262 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$75 ล้าน
ตลาดหุ้น วานนี้(US$ ล้าน) วันก่อนหน้า(US$ ล้าน) YTD(US$ ล้าน) 2557(US$ ล้าน) 2556(US$ ล้าน)
TAIEX -193.9 75.4 -669.6 13,190.4 9,188.0
KOSPI -66.6 -77.1 -324.9 6,165.50 4,875.1
JSE -49.6 -29.3 -70.6 3,750.60 -1,806.4
PSE 47.2 21.3 362.0 1,256.1 678.4
ตลาดหุ้นเวียดนาม 2.4 -1.7 -0.9 135.6 263.2
SET INDEX -1.1 -63.3 -380.9 -1,091.4 -6,210.5
Foreign Investors Action วานนี้
กระแสเงินทุนเริ่มเบาบางทั้งด้านซื้อ และ ขาย
วานนี้ วันก่อนหน้า
ตลาดหุ้น (ล้านบาท) -37 -2,082
SET50 Index Futures (สัญญา) -3,474 -3,302
SSF (สัญญา) +2,471 -3,976
Metal Futures (สัญญา) -487 +132
ตลาดตราสารหนี้ (ล้านบาท) +379 +522
นักลงทุนต่างชาติ คงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 4 เพียง 37 ล้านบาท รวม 4 วันทำการ ขายสุทธิ 5,269 ล้านบาท และผลักดันให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิ 12,522 ล้านบาท แม้ว่าตลาดหุ้นไทยจะปรับฐานลงแรงในช่วงบ่ายวานนี้ก็ตาม
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Short สุทธิเป็นวันที่ 4 หนาแน่น 3,474 สัญญา รวม 4 วันทำการ Short สุทธิ 9,095 สัญญา เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้า Long สุทธิ 7,079 สัญญา คาดว่าเป็นการปิดสถานะ Long และกลับมามีสถานะ Short อีกครั้ง หลัง S50M15 ปิดต่ำกว่า 1,000 จุด และทำให้ S50H15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index กว้างขึ้นเป็น 11.18 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 5.92 จุด
และนักลงทุนกลุ่มนี้ นำเงินเข้าพักในตลาดตราสารหนี้บางส่วนเป็นวันที่ 3 อีก 379 ล้านบาท รวม 3 วันทำการ ซื้อสุทธิ 1,413 ล้านบาท เมื่อราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยแกว่งในกรอบแคบ โดยผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงเล็กน้อย 0.88bps ปิดที่ 2.487%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling เพิ่มเป็นวันที่ 2 เท่ากับ 1,565 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 541 ล้านบาท
Stock Total Value(mn Bt) % of trading Volume Avg.Price(Bt)
TRUE 206.20 10.63% 12.27
PTT 172.98 8.77% 324.00
KBANK 96.75 5.89% 224.94
PTTEP 92.30 14.67% 106.79
ADVANC 78.52 7.07% 245.39
NVDR Movement
NVDR ขายสุทธิเป็นวันที่ 4 เน้นลดน้ำหนักกลุ่มพลังงานหนาแน่น
การซื้อขายผ่าน NVDR ขายสุทธิอีก 927 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 1,116 ล้านบาท รวม 4 วันทำการขายสุทธิ 2,580 ล้านบาท โดยกลับมาลดน้ำหนักกลุ่มพลังงานหนาแน่น หลังราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลงและผันผวนสูงขึ้น สรุปภาพการลงทุนได้ดังนี้
1.กลุ่มพลังงานกลับมาขายสุทธิสูงสุด 603 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 242 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่ม ICT ขายสุทธิ 379 ล้านบาท วันก่อนหน้าขายสุทธิ 201 ล้านบาท กลุ่มธนาคาร ขายสุทธิ 193 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิสูงสุด 924 ล้านบาท และกลุ่มอสังหาฯ ขายสุทธิ 146 ล้านบาท
2.ขณะที่กลุ่มอาหาร ถูกซื้อสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 3 อีก 327 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 87 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มค้าปลีก ซื้อสุทธิ 109 ล้านบาท
ซื้อสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการซื้อขาย ขายสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการขาย
TUF 298.55 37.89 PTT -529.86 22.94
CPALL 108.29 20.37 INTUCH -182.51 30.73
ITD 96.71 4.35 PTTEP -139.09 17.87
EGCO 62.12 33.86 KBANK -126.81 52.54
AOT 48.35 16.16 LH -120.60 33.54
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Assistant Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong