WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.กรุงศรี : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

แนวโน้มและปัจจัยการลงทุนวันนี้
เลือกหุ้นเก็งกำไร
      เริ่มต้นเดือนมิ.ย. SET ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ตอบรับมาตรการต่างๆที่ทยอยออกมาและสามารถเริ่มปฏิบัติได้อย่างรวดเร็ว โดยตลาดปิดที่ 1440.94 จุด (+1.78%, +25.21 จุด) เป็นการขึ้นแทบทุกกลุ่ม SET50 และ SET100 ดีดตัวสูงกว่าตลาดที่ +2.1% ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ยังสูงถึง 55,589 ล้านบาท และแม้ว่าค่าเงินบาทยังคงทำสถิติอ่อนค่าสุดในรอบ 5 เดือนที่ 32.84 บาท/US$ แต่นักลงทุนต่างชาติกลับเข้าซื้อสุทธิเป็นครั้งแรกในรอบ 10 วันที่ 2,694 ล้านบาท กองทุนในประเทศซื้อสุทธิต่อเนื่องอีก 1,026 ล้านบาท

ปัจจัยการลงทุนวันนี้
      มูดีส์ฯประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของไทยที่ระดับ Baa1 โดยแนวโน้มมีเสถียรภาพ พร้อมระบุว่าเมื่อพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานแล้ว ความน่าเชื่อถือของไทยยังคงแข็งแกร่ง แม้ว่าสถานการณ์ทางการเมืองมีความไม่แน่นอน

       การประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) คาดว่าจีดีพีไทยในปี 57 จะเติบโต 2-2.5% เนื่องจากการบริโภคภายในประเทศจะฟื้นตัวจากการที่รัฐบาลได้แก้ไขปัญหาเงินจำนำข้าวแก่ชาวนา 9.3 หมื่นล้านบาทและเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 57 ที่พร้อมอนุมัติวงเงิน 7,000 ล้านบาทโดยการบริหารมีอำนาจเต็มสามารถที่จะเดินหน้านโยบายต่างๆ ได้มากขึ้น

      อีกมาตรการเร่งด่วนของ คสช.คือการแต่งตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บอร์ดบีโอไอ) คาดว่าคสช.ให้พิจารณาแต่งตั้งภายในวันที่ 4 มิ.ย.57และจะเร่งพิจารณาโครงการที่ขอรับ BOI ที่ค้างการพิจารณา 700 โครงการประมาณ 7 แสนกว่าล้านบาทให้ได้หมดไม่เกินภายใน 2 เดือน

       โครงการของงบประมาณรายจ่ายปี 57 คสช.จะผลักดันเสนอให้เสร็จสิ้นภายใน 2 สัปดาห์เช่นโครงการแท็บเลต โครงการที่จัดทำตามพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท โครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน โครงการที่เสนอจะต้องเป็นประ โยชน์ต่อประชาชนคำนึงถึงวินัยการเงินการคลังเป็นหลักและจะสานต่อจากโครงการโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านแน่นอนคือรถไฟรางคู่และทำให้เสร็จภายในปีนี้ ส่วนโครงการรถไฟฟ้าความ เร็วสูงจะพิจารณาถึงความคุ้มค่าและไม่กระทบต่อวินัยการเงินการคลังเน้นการลงทุนร่วมเอกชน
SET ปรับขึ้นแรงวานนี้มากถึง +1.78% ได้สร้างฐานมาตรฐาน (Benchmark) ที่สูงขึ้นคือปัจจุบันซื้อขายที่ P/E 15 เท่า (หรือเทียบเท่าสิ้นปีที่ 1507 จุด) เราคาดว่าหุ้นที่ปรับขึ้นแรงจะเกิดแรงขายทำกำไรสั้น (เช่นกลุ่มรับ เหมา CK, STEC, ITD และ BH) ส่วนหุ้นที่เปรียบ เทียบกับตลาดแล้วยังปรับขึ้นไม่มากจะอยู่ภายใต้แรงซื้อเก็งกำไร หรือจะมีลักษณะการเวียนกลุ่มเวียนหุ้นนี้ (Rotating) ซึ่งเราคาดว่าจะอยู่กับตลาดระยะสั้นแนะนำเลือกซื้อหุ้นที่ยังปรับขึ้นไม่มากเพื่อเก็งกำไร (PTTGC, CPALL, KBANK, BBL)

 

แนวโน้มการลงทุนสำหรับระยะกลาง
คงน้ำหนักพอร์ตลงทุน ถือหุ้น 100%
คงน้ำหนักพอร์ตจำลองการลงทุนในหุ้นเป็น 100% และเงินสด 0%
Accumulate: สะสมหุ้น
Trading: เลือกซื้อเก็งกำไรเหนือ 1429 จุด ต่ำกว่า รอดู

 

เปรียบเทียบดัชนี
      จากต้นปี-ปัจจุบัน กลุ่ม HEALTH ขึ้นมากสุดถึง 35.3% ขณะที่กลุ่ม พลังงาน ปิโตรฯ อาหาร และมีเดียส์เป็นกลุ่มที่ Laggard เมื่อเทียบกับตลาดและกลุ่มอื่น
สถานะพอร์ตจำลอง (เริ่ม 25 พ.ย. 56)

พอร์ตหุ้น 100% ถือเงินสด 0%


หลังการปรับราคา XD
ผลตอบแทนพอร์ตจำลอง (100%) = +7.4%
ผลตอบแทน SET = +6.5%
พอร์ตจำลองสุทธิ > SET
      หมายเหตุ: Cash/Equity weighting เป็นการแสดงมุมมองของ KSS Research เพื่อใช้เป็นแนวทางว่าด้วยแนวโน้มระยะกลาง (3-6 เดือน) ว่าจะมีแนว โน้มเชิงบวก หรือ เชิงลบ โดยหุ้นที่แนะนำในพอร์ตจำลองเป็นหุ้นพื้นฐานที่เราประเมินว่าจะมีแนวโน้มที่ดี ไม่มีนัยสำคัญเพื่อคำแนะนำว่าควร “ซื้อ” หรือ “ขาย” หุ้นดังกล่าวในเวลาใด

Analysts

Kasamapon Hamnilrat Registration No. 17622
Apisak Limthumrongkul Registration No. 13130

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!