WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

Market View : ยืน 1,410 แนวโน้มขาขึ้น
Technical : แนวรับ 1,410 / 1,400 แนวต้าน 1,427 / 1,450
หุ้นแนะนำพิเศษ : PTT แนวรับ 296/291 แนวต้าน 300/306
หุ้นเด่นรายวัน : BTS BTSGIF RML JAS

 

  วันจันทร์ตลาดหุ้นไทยปิดบวกขานรับการผลักดันโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของคสช. ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,440.94 จุด เพิ่มขึ้น 25.21 จุด(+1.78%) มูลค่าการซื้อขาย 55,588.61 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,694.05 ล้านบาท
  แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,400-1,450 ระหว่างวันปรับตัวเหนือ 1,440 จะเป็นสัญญาณบวกสอดคล้องกับการกลับเข้ามาซื้อของนักลงทุนต่างชาติ(คาดเป็นแค่ระยะสั้น) มีแนวต้าน 1,450 อาจมีแรงขายทำรอบทางเทคนิคจากภาวะซื้อมาก ทั้งนี้ระดับราคาที่ปรับตัวขึ้นได้ตอบรับกับการคาดการณ์ล่วงหน้าระยะสั้นพอสมควรแล้ว ติดตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเร่งด่วนของทางการที่จะเปิดเผยออกมาเป็นรูปธรรม ในขณะที่ SET50 ระหว่างวันมีแนวต้าน 972-975 หรือการปรับตัวลงทดสอบยืนNeck Line / Double Top 959-961 แนวโน้มยังคงทิศทางขาขึ้นตามการเรียงตัวของSMAที่เริ่มเข้าสู่ภาวะbullish GFM14 เก็งกำไรในกรอบ 19,360-19,670 GFQ14 เก็งกำไรในกรอบ 19,440-19,750
  กลยุทธ์ แรงซื้อเก็งกำไรและการเข้าซื้อกลับคืนของต่างชาติเป็นสัญญาณบวกหรือตัวเร่งปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ระยะสั้นหากมีการทยอยปรับลดลงคาดเป็นการส่งสัญญาณของการขายทำรอบทางด้านเทคนิคเคิล หรือขายเนื่องจากOver Bought ระยะสั้นการทดสอบแนวต้านเป้าหมาย 1,442/ 1,450 ไม่ผ่านยืน กลุ่มอสังหาฯ RML SENA GLAND กลุ่มถ่านหินยังขึ้นน้อยกว่าเมื่อเทียบกับดัชนี BANPU AGE LANNA หุ้นรายหลักทรัพย์ KBANK TOP DRT ระยะกลาง ถือ และซื้อเพิ่มเมื่อปรับตัวลงแรง

 

หุ้นแนะนำพิเศษ
  PTT (ปิด 298 ซื้อเป้าปี 57: 375 ) เราคาดว่ากำไรสุทธิของ PTT ใน 2Q57 จะยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 1Q57 โดยมีแรงหนุนจากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นของ PTTEP และ PTT โดย PTTEP จะมีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นจากการเริ่มรับรู้กำลังการผลิตใหม่จากการเข้าซื้อสินทรัพย์ของ Hess Thailand ซึ่งจะทำให้ PTTEP มีปริมาณการผลิตใน 2Q57 เพิ่มขึ้นประมาณ 8,000 -10,000 BOED ส่วน PTT จะมีปริมาณการขายก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นจากความต้องการที่สูงขึ้นในช่วงหน้าร้อน ขณะเดียวกันธุรกิจโรงแยกก๊าซก็มีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นหลังจากโรงแยกก๊าซ 5 ที่ทำการผลิตเพียง 50%ใน 1Q57 จะกลับมาทำการผลิตที่ระดับ 100% ส่วนทั้งปีคาดกำไรสุทธิปี 57 ประมาณ 107,200 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 13%yoy

 

หุ้นเด่นรายวัน
  BTS (ราคาปิด 8.50 ซื้อ เป้า consensus 10.35) และ BTSGIF (ราคาปิด 9.85 ซื้อ) ได้ประโยชน์จากอัตราการใช้บริการโดยรวมปีนี้ยังจะเพิ่มขึ้นตามปกติ จากวันละ 580,000-590,000 คน เป็น 600,000 คนได้ หรือเพิ่มขึ้น 8% และจะมีรายได้จากการปรับขึ้นราคาค่าโดยสารเพิ่มขึ้นอีก 1% จากภาวะสังคมที่หันมานิยมใช้การเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนมากขึ้นส่งผลให้รายได้ของ BTSGIF มีศักยภาพเพิ่มขึ้นมากกว่าประมาณการ และเงินปันผลที่ BTS ได้รับจาก BTSGIF เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
  RML (ปิด 1.74 ซื้อเก็งกำไร) เราคาดว่า RML จะเป็นหุ้นที่มีอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิมากที่สุดของกลุ่มในปีนี้ โดยมีแรงหนุนสำคัญมาจาก Backlog ในมือที่รอโอนสูงกว่า 12,000 ล้านบาทโดย 50% จะรับรู้รายได้ในปีนี้และอีก 50% จะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในปี 58 และ 59
  JAS(ปิด 8.1 ซื้อเก็งกำไร) คาดผลประกอบการ 2Q57 เติบโตต่อเนื่องตามจำนวนลูกค้าที่เข้าใช้บริการเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ 3Q57 คาดกำไรสุทธิจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนโครงสร้างพื้นฐานซึ่งผู้บริหารคาดว่าจะมีกำไรจากการขายสินทรัพย์ในครั้งนี้ประมาณ 30,000 ล้านบาท(ที่มา:ข่าวหุ้น)

 

รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* EFORL มีผลบังคับใช้ 28 เม.ย. - 6 มิ.ย. 57
* EVER/ IFEC / OCEAN / SUPER มีผลบังคับใช้ 6 พ.ค. - 13 มิ.ย. 57
* PAF/ PDI มีผลบังคับใช้ 19 พ.ค. - 27 มิ.ย. 57
* AJP / APCO / EE มีผลบังคับใช้ 26 พ.ค. - 4 ก.ค. 57
* BMCL / RPC มีผลบังคับใช้ 2 มิ.ย. - 10 ก.ค. 57
***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

 

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : เพิ่มขึ้น 26.46 จุด
  ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น 26.46 จุด ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ อาทิ ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐในเดือนพ.ค.ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 56.4 จาก 55.4 ในเดือนเม.ย.และเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน ตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 0.2% สู่ระดับ 9.535 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่เดือนมี.ค.2552 ทำให้ปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 26.46 จุด หรือ +0.16% ปิดที่ 16,743.63 จุด ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 1.40 จุด หรือ +0.07% ปิดที่ 1,924.97 จุด ดัชนี NASDAQ ลดลง 5.42 จุด หรือ -0.13%ปิดที่ 4,237.20 จุด

 

ตลาดน้ำมัน NYMEX : ลดลง 0.24 เหรียญ
  ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 24 เซนต์ ตลาดได้รับแรงกดดันจากคาดการณ์การผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปคซึ่งคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้น 75,000 บาร์เรลต่อวัน เป็น 29.988 ล้านบาร์เรลต่อวัน และยังถูกกดดันจากข่าวท่าส่งออกน้ำมันฮาริกาในลิเบียจะเปิดดำเนินการอีกครั้งภายใน 2 วันนี้ หลังจากรัฐบาลได้อนุมัติการปรับขึ้นเงินเดือนให้กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าหลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ได้ทำการแก้ไขข้อมูลดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ค. โดยระบุว่าดัชนีภาคการผลิตยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องในเดือนพ.ค.ทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 24 เซนต์ ปิดที่ 102.47 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนน้ำมันดิบ BRENT ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 58 เซนต์ ปิดที่ 108.83 ดอลลาร์/บาร์เรล

Analyst :
ธวัชชัย 02-6725993 [email protected]
วิลาสินี 02-6725937 [email protected]
อาทิตย์ [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!