- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 12 January 2015 16:59
- Hits: 2823
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“แกว่งตัว...ไม่ผ่านพื้นที่ 1540-1550 ขายก่อน”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มีปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นต่อ แต่แกว่งตัวมากขึ้นตามที่คาดไว้ ปิดตลาดดัชนีปรับขึ้น 7.80 จุด ที่ 1529.42 โดยการซื้อขายค่อนข้างกระจายตัว โดยหุ้นในแต่ละกลุ่มมีทั้งบวกและลบบ่งชี้ว่ามาจากปัจจัยที่เป็นของตัวบริษัทมากกว่าน้ำหนักของภาพอุตสาหกรรม นักลงทุนต่างชาติพลิกเป็นขายสุทธิ 900 กว่าล้านบาท พอร์ตบล.และรายย่อยขายสุทธิ ส่วนสถาบันในประเทศเป็นกลุ่มเดียวที่ซื้อสุทธิ 2.1 พันล้านบาทในระยะสั้น ตลาดมีปัจจัยหนุนจากความหวังว่า ECB จะใช้มาตรการกระตุ้นเพิ่มเติมในเร็วๆ นี้ (ECB ประชุม 22 ม.ค.58) และการเก็งกำไรผลประกอบการ 4Q57 ซึ่งจะเริ่มจากกลุ่มแบงค์ เราคาดว่า KBANK และ TMB จะมีการขยายตัวที่โดดเด่น YoY ทั้งใน 4Q57 และทั้งปี 2557 สำหรับ RealSectors คาดว่าส่วนใหญ่จะดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า ทั้งที่เป็น Domestic Play และท่องเที่ยว แต่กลุ่มพลังงาน & ปิโตรเคมีจะมีผลขาดทุนจากสต็อกที่สูงกดดัน ส่วนปัจจัยที่ตลาดกังวลและจับตา คือ ผลเลือกตั้งกรีซ ซึ่งมีความเสี่ยงว่ากรีซอาจต้องออกจากยูโรโซน, สงครามราคาน้ำมัน, การถูกโจมตีค่าเงินของประเทศที่อ่อนแอทางเศรษฐกิจ ซึ่งปัจจัยที่ค่อนข้าง Mixed ทำให้ตลาดแกว่งตัว และหาก SET Index ขึ้นไปยืนเหนือ 1550 จุดไม่ได้ ก็ยังไม่สามารถลบภาพ Sideways down ส่วนหุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้เป็น TMB
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้นมากสัญญาณเป็นบวก แต่ก็พร้อมเปลี่ยนเป็นลบ โดยการบวกต่อมีแนวต้าน 1540 หรือ 1550 จุด ค่าลบควรลดพอร์ตตาม และตัดขาดทุนเมื่อดัชนีหลุด 1505 จุด การซื้อเก็งกำไรใหม่เน้นตามด้วยค่าบวกของดัชนี & ราคาหุ้นเป็นหลักสำหรับการ Scan หาหุ้นที่ราคามีโอกาสทำ New High : จากระดับปิดเมื่อวานนี้ พบว่าหุ้นที่น่าสนใจ คือ MTLS, PRINC, BWG, FSMARTส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ SMT, CEN, TRC, ECL, VIBHA หุ้นที่หลุด List–ไม่มี- และหุ้นที่ปรับขึ้นและอยู่ในพื้นที่น่า Take Profit คือ ITD, EVER
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
• สหรัฐ : ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรธ.ค.57 เพิ่มขึ้น 252,000ราย อ่อนลงจากเดือนพ.ย.ที่เพิ่ม 353,000 ราย แต่ก็ยังเป็นการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งของภาคแรงงานสหรัฐ อัตราการว่างงานลดลงเป็น 5.6% จาก5.8% ในเดือนพ.ย.57 แต่รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงของแรงงานลดลง 0.2% ในเดือนธ.ค.57 เป็น 24.57 ดอลลาร์สหรัฐ/ชั่วโมง (ประมาณ 1.4 แสนบาท/เดือนเมื่อคำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยน 33 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ, ทำงาน 8ชั่วโมง/วัน และ 22 วัน/เดือน)
• ยูโรโซน : ยอดค้าปลีกเติบโตได้เล็กน้อย ตัวเลขยอดค้าปลีกที่มีการปรับค่าตามฤดูกาลเพิ่มขึ้น 0.6%MoM และ 1.5%YoY ในเดือนพ.ย.57ส่วนของสหภาพยุโรป (อียู) เพิ่ม 0.8%MoM และ 2.6%YoY
+ ยูโรโซน : เจ้าหน้าที่ระดับสูง ECB เสนอให้มีการเข้าซื้อตราสารหนี้ที่อยู่ในระดับ Investment-grade ราว 5 แสนล้านยูโร ซึ่งคิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของเป้าหมาย ECB ในการขยาย Balance Sheet ทั้งนี้ECB จะมีประชุมวันที่ 22 ม.ค.นี้
- กรีซ : ผลโพลล์ระบุว่าพรรคไซรีซามีคะแนนนำ 28.1% เหนือกว่าพรรค ND ซึ่งได้ไป 25.5% ซึ่งหากพรรคไซรีซาชนะการเลือกตั้งในวันที่ 25ม.ค.58 นี้ ก็มีโอกาสที่กรีซจะออกจากยูโรโซน เพราะพรรคนี้มีนโยบายคัดค้านการรัดเข็มขัดที่เป็นเงื่อนไขสำคัญในการรับความช่วยเหลือจากเยอรมนี
- ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลง ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 170.50 จุด หรือ -0.95%ปิดที่ 17,737.37 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 17.33 จุด หรือ -0.84% และดัชนี Nasdaq หดตัวลง 32.12 จุด หรือ -0.68% ทั้งนี้นักลงทุนกังวลกับรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงของแรงงานสหรัฐที่ลดลง
- สัญญาน้ำมันดิบอ่อนตัวต่อ โดยสัญญา WTI ส่งมอบก.พ.ลดลง 43เซนต์ ปิดที่ 48.36 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ลดลง 85 เซนต์ ปิดที่50.11 ดอลลาร์/บาร์เรล
+ สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบก.พ. เพิ่มขึ้น 7.6 ดอลลาร์หรือ 0.63% ปิดที่ 1,216.10 ดอลลาร์/ออนซ์ ปัจจัยหนุนราคาทองคำในระยะสั้น คือ 1) ค่าเงิน US$ ที่อ่อนลง, 2) ความไม่แน่อนทางการเมืองในกรีซ ที่มีความเสี่ยงจนทำให้ต้องออกจากการเป็นสมาชิกยูโรโซน
ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหลักทรัพย์เด่น
• รัฐบาลจะขอให้ผู้ผลิตลดราคาปุ๋ย & วัสดุก่อสร้าง โดยกรมการค้าภายในจะหารือกับผู้ผลิตปุ๋ยเคมีและวัสดุก่อสร้าง เช่น เหล็ก ปูนซีเมนต์เพื่อขอปรับลดราคาหลังราคาน้ำมันดีเซลลดลงต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ต้นทุนการผลิตของกลุ่มดังกล่าวต่ำลง
ความเห็น Retail Research : เราคาดว่าราคาวัสดุก่อสร้าง เช่น เหล็ก มีโอกาสอ่อนตัวลงตามราคาตลาดโลก & อุปสงค์ในประเทศที่เติบโตไม่มากส่วนราคาซีเมนต์มีโอกาสลดลงจากปัจจัยหลัก คือ การแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงขึ้น อันเกิดจากมีกำลังการผลิตใหม่ของ TPIPL 4.5 ล้านตัน/ปี จะเข้ามาในปี 58 ซึ่งคิดเป็นประมาณ 10% ของกำลังการผลิตปูนซีเมนต์เม็ดของไทย โดยรวม ยังให้น้ำหนักลงทุนเท่ากับตลาด (Neutral) ในกลุ่มซีเมนต์และ Underweight ในกลุ่มเหล็ก
• กลุ่มไก่ส่งออก : พบเชื้อไข้หวัดนกในญี่ปุ่น, จีน, ไต้หวันตั้งแต่ปลายปี 57 ถึงม.ค.58 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 ม.ค.57 มีข่าวว่าไต้หวันได้กำจัดไก่จำนวน 120,000 ตัว ภายหลังการพบเชื้อไข้หวัดนก H5N2 ในฟาร์มแห่งหนึ่งในเทศมณฑลผิงตง นอกจากนั้นยังเก็บตัวอย่างเป็ดและห่านใน 15 ฟาร์มใน 3 มณฑลหลังฟาร์มแจ้งว่าสัตว์ออกไข่น้อยลง ซึ่งจะทราบผลใน 1-2 วันนี้ ทั้งนี้เมื่อปลายธ.ค.57 มีข่าวว่าฮ่องกงกำจัดไก่ 15,000 ตัวหลังพบเชื้อไวรัส H7N9 ที่นำเข้ามาจากมณฑลกวางตุ้น ประเทศจีน และทางญี่ปุ่นจำกัดไก่ประมาณ 37,000 ตัวในฟาร์มแห่งหนึ่งในเมืองนากาโตะหลังพบเชื้อไข้หวัดนก ซึ่งสัปดาห์ก่อนหน้ามีการกำจัดสัตว์ปีกในเมืองมิยาซากิไปแล้ว 42,000 ตัว
ความเห็น Retail Research : ต้องติดตามสถานการณ์ต่อว่าไข้หวัดนกจะแพร่ระบาดรุนแรงหรือไม่ แต่การที่แต่ละประเทศเร่งกำจัดไก่และควบคุมไม่ให้เชื้อไข้หวัดนกกระจายตัวทำให้ความเสี่ยงน้อยลง เรายังมีมุมมองที่เป็นบวกกับธุรกิจไก่ส่งออก หุ้นเด่น คือ GFPT ซึ่งมีการขยายกำลังการผลิตของฟาร์มปีละ 10% เพื่อรองรับอุปสงค์ที่ขยายตัวทั้งในประเทศและตลาดส่งออก ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม MCKEY และ GFN เติบโตได้ต่อเนื่องอย่างมีเสถียรภาพ ความเสี่ยงด้านราคาวัตถุดิบน้อยลง แนะนำซื้อ GFPTราคาพื้นฐาน 23 บาท
• ธนาคารพาณิชย์เริ่มรายงานผลประกอบการ 4Q57 สัปดาห์นี้ โดยเราคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิของ KBANK และ TMB จะเติบโตโดดเด่นทั้งใน4Q57 (YoY) และทั้งปี 2557 (YoY) ส่วนธนาคารที่คาดว่าจะกำไรสุทธิจะลดลงเป็น TCAP ด้าน TISCO กำไร 4Q57 เพิ่มขึ้นจากฐานที่ต่ำมากใน4Q56 แต่กำไรทั้งปีลดลงเล็กน้อย
กลุ่มธนาคารพาณิชย์ : คาดการณ์กำไรสุทธิ 4Q57 และปี 2557
4Q14F 4Q13y-o-y(%) 3Q14q-o-q(%) 2014F 2013y-o-y(%)
BBL 8,705 7,686 13.3 9,575 (9.1) 36,274 35,906 1.0
KBANK 11,446 9,527 20.1 12,516 (8.6) 47,633 41,325 15.3
KTB 9,637 10,070 (4.3) 9,255 4.1 34,743 34,095 1.9
SCB 13,725 11,752 16.8 13,252 3.6 54,829 50,233 9.1
TISCO 1,051 804 30.7 1,089 (3.5) 4,067 4,249 (4.3)
TCAP 1,386 1,538 (9.9) 1,202 15.3 5,147 8,877 (42.0)
TMB 2,315 1,799 28.7 2,387 (3.0) 8,879 5,737 54.8
Total 48,265 43,177 11.8 49,277 (2.1) 191,571 180,421 6.2
Source: Company, DBS Vickers
แนวโน้มปี 58 คาดว่าธนาคารที่จะมีกำไรสุทธิขยายตัวสูง คือ KTB (จากการขยายฐานลูกค้า SME และรายย่อย รวมทั้งการลงทุนโครงการภาครัฐมีความคืบหน้ามากขึ้น) และ TMB (มาจากฐานกำไรที่ต่ำ, บริหารต้นทุนการเงินได้ดีขึ้น ประสบความสำเร็จในการระดมเงินฝาก และขยายรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น)
กลุ่มธนาคารพาณิชย์ : คาดการณ์กำไรสุทธิปี 58
ROE
14F 15F 14F 15F 14F 15F 14F 15F 13A
BANK
BBL 1.0 6.8 10.0 9.3 1.1 1.0 3.4 3.7 12.6
KBANK 15.2 7.4 10.8 10.0 2.0 1.7 1.9 2.1 20.4
KTB 2.1 17.7 8.6 7.3 1.3 1.1 4.2 4.4 17.5
SCB 10.83 10.4 10.7 9.7 2.0 1.8 3.1 3.3 21.8
TCAP (39.7) 8.8 7.4 6.8 0.8 0.7 4.7 5.3 19.5
TISCO (11.2) 4.5 8.8 8.4 1.4 1.2 4.6 5.2 20.6
TMB 53.8 20.0 13.9 11.6 1.8 1.6 1.8 2.2 9.6
Sector 4.6 10.8 10.0 9.0 1.5 1.3 3.4 3.7 17.4
EPS Gth (%) P/E (x) P/BV (x) Div Yield (%)
Source : DBS Vickers
ฝ่ายวิจัยฯ DBSV ให้ KBANK (ราคาพื้นฐาน 280 บาท) และ TMB (ราคาพื้นฐาน 3.60 บาท) เป็นหุ้น Top Picks รองลงมาเป็น KTB (ราคาพื้นฐาน30 บาท)
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 [email protected]