- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 12 January 2015 16:32
- Hits: 2257
บล.ทิสโก้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +7.80 จุด ขึ้น 3 วันติด ได้ปัจจัยหนุนหลักจากตปท.
SET ปรับตัวขึ้นต่อเป็นวันที่สามติดต่อกัน โดยแกว่งในแดนบวกตลอดทั้งวันภายใต้กรอบ 1522-31 ได้แรงหนุนต่อเนื่องจากบรรยากาศเชิงบวกของหุ้นตปท. หลัง FED ไม่รีบร้อนขึ้นดบ.ก่อน เม.ย. 58 และคาดหวัง ECB ออกมาตรการ “Public QE” เร็วขึ้น ต่างชาติพลิกมาขายสุทธิ 870 ลบ. และ Short S50 Futures 1,988 สัญญา
ทิศทางตลาดวันนี้ : พักฐาน ข้อมูลศก.US ผสมผสาน, ผิดหวังขนาด QE ECB
หุ้นโลกเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (9 ม.ค.) ปรับลง จากข้อมูลศก.สหรัฐฯ ที่ผสมผสาน โดยการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 252,000 รายใน ธ.ค. จาก +353,000 รายใน พ.ย. 57 ส่งผลให้อัตราการว่างงานลดลง 0.2% สู่ระดับ 5.6% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปีครึ่ง อย่างไรก็ตาม นลท.กังวลกับรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงของแรงงานที่ลดลง 0.2% ใน ธ.ค. สู่ระดับ 24.57 ดอลลาร์ โดยเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 49 นอกจากนี้ นลท.ยังผิดหวังขนาด QE ของ ECB เพราะอาจไม่พอที่จะช่วยกระตุ้นศก.ยูโรโซนได้ หลังมีข่าวเจ้าหน้าที่ ECB ระบุถึงขนาด QE ที่ 5.0 แสนล้านยูโร (หรือ 5.9 แสนล้านสหรัฐฯ) โดยจะลงทุนในสินทรัพย์ หรือพันธบัตรที่อยู่ใน “ระดับน่าลงทุน” (Investment-Grade) รวมทั้งยังมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในกรีซ ซึ่งอาจทำให้ประเทศต้องถอนตัวออกจากกลุ่มยูโรโซนด้วย มอง SET แกว่งพักฐาน มีแนวรับ 1520-25 แนวต้าน 1535-40 วันนี้ไม่มีตัวเลขศก.ที่สำคัญประกาศทั้งในและตปท. อนึ่ง AGE, ECF, ECF-W1, EE, KCM, WAT, WAT-W1, WAT-W2 ติด Cash Balance 12 ม.ค. - 20 ก.พ. ส่วน PRECHA ถูกมาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 1 : Cash Balance มีผล 12-30 ม.ค.
กลยุทธ์การลงทุน : หาจังหวะสะสมช่วงอ่อนตัว ทั้งหุ้นลงทุน Q1 และหุ้นปันผล
เรามองแรงขาย LTF ครบกำหนด 5 ปีไม่น่ามีผลกระทบต่อตลาดมากแล้ว เพราะมีการขายในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้วในระดับหนึ่ง ปัจจัยที่จะมีน้ำหนักมากขึ้นในช่วงนี้ 2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ คือ (1) การประกาศผลประกอบการของหุ้นกลุ่มธนาคาร ซึ่งโดยรวมของ 7 ธนาคารที่อยู่ภายใต้การวิเคราะห์ของเราคาดมีกำไรสุทธิ 4Q57F รวม ทรงตัว YoY แต่ลดลง 13% QoQ จากแรงกดดันด้านปัจจัยฤดูกาลของการตั้งสำรองฯ และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน โดยทุกธนาคารจะมีกำไรทรงหรือลดลง QoQ ขณะที่กำไรดีขึ้น YoY คือ BBL (+7% YoY), KBANK (+10% YoY), TMB (+29% YoY) ส่วนกำไรทั้งปี 57F ที่เพิ่มขึ้น YoY มีเพียง KBANK (+13%), SCB (+5%) TMB (+55%) และหุ้นธนาคารทั้ง 3 ตัวหลังสุดยังเป็นหุ้นที่เราชอบสุดในกลุ่มนี้ (2) สถานการณ์ในตปท. ทั้ง Public QE ของ ECB ซึ่งจะมีการประชุม 22 ม.ค., ปัญหาศก.รัสเซีย หลัง Fitch ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของรัสเซียลงสู่ระดับ BBB- เกรดต่ำสุดของระดับน่าลงทุน เนื่องจากเศรษฐกิจที่แย่ลงจากราคาน้ำมันที่ลดลง และการอ่อนค่าของเงินสกุลรูเบิล และการเลือกตั้งของกรีซที่จะมีขึ้นใน 25 ม.ค. เรายังแนะนำหาจังหวะสะสมช่วงอ่อนตัว หุ้นที่น่าสะสม เพื่อลงทุนในช่วงไตรมาส 1/58 นี้ คือ AMATA, BBL, BGH, CPN, DTAC, HMPRO, INTUCH, KBANK, KTB, SPALI ด้านหุ้นเด่น (Top picks) สำหรับเดือน ม.ค. คือ BEAUTY, BTS, GFPT, MALEE, SCB, TMB จากแนวโน้มการเติบโตของกำไรที่ดีในปีนี้ นอกจากนี้ มองเป็นจังหวะทยอยเก็บหุ้นปันผลด้วยช่วงอ่อนตัว แนะนำ MODERN, ASP, INTUCH, BJCHI, BTS, AIT, KKP หุ้นที่มีสัญญาณเชิงบวก เหมาะเทรดดิ้งสั้น GLOBAL, STPI
หุ้นเด่นรายวัน : STPI
STPI – คาดกำไร 4Q57F จะอยู่ที่ 1.24 พันลบ. โตก้าวกระโดดทั้ง YoY และ QoQ จากความคืบหน้าในการเร่งส่งมอบงานในโครงการ Ichthys ปัจจุบัน STPI มีงานในมือ 1.2 หมื่นลบ. (หลักเป็นโครงการ Ichthys) นอกจากนี้ บริษัทยังรอลุ้นผลการประมูลอีก 4 โครงการใหญ่ ซึ่งเป็นโครงการ LNG Module ทั้งหมด คาดว่าจะทราบผลได้ในต้นปี 58 มูลค่าเหมาะสม 25 บ. (PER 12 เท่าปี 57F)
ปัจจัยติดตาม
วันที่
ปท.
เหตุการณ์
12-21 ม.ค.
TH
กลุ่มธนาคารพาณิชย์ทยอยประกาศผลประกอบการปี 57
13 ม.ค.
JP
ตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดและดุลการชำระเงินของญี่ปุ่นในเดือน พ.ย.
นักวิเคราะห์ :
อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 18171 02-633-6467 : [email protected]
