- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 09 January 2015 17:14
- Hits: 1752
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
คาด SET ยังมีโอกาสผันผวนและปรับพัก ดังนั้นรอซื้อช่วงลบ!!
กลยุทธ์ : แม้ SET ยังแกว่งบวกต่อได้ แต่ก็ต้องระวังแกว่งผันผวนและปรับพักเป็นระยะด้วย ดังนั้นแนะนำให้รอซื้อเพิ่มช่วงอ่อนตัวดีกว่า และถ้าเทรดดิ้งตามรอบก็ดูจังหวะขายทำกำไรช่วงบวกได้ แต่ส่วนลงทุนยังเน้นถือต่อเนื่อง
หุ้นเด่นทางเทคนิค : MINT, SPCG, MAJOR(short)
แนวโน้ม : เช้านี้ตลาดหุ้นต่างประเทศยังบวกต่อเนื่องกันค่อนข้างสดใส เพื่อขานรับข้อมูลด้านแรงงานที่ยังแข็งแกร่งต่อของสหรัฐ หลังวันก่อนตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนออกมาดีแล้ว เมื่อคืนนี้ตัวเลขจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ก็ปรับตัวลดลงด้วย ทำให้นักลงทุนยังมีความคาดหวังเชิงบวกกับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่จะประกาศในคืนวันนี้(9 ม.ค.) นอกจากนี้นักลงทุนยังคาดการณ์ว่า ECB อาจจะใช้มาตรการ QE เพิ่มเติมอีกในช่วงต้นปีนี้ รวมทั้งตลาดหุ้นส่วนใหญ่ยังได้รับแรงหนุนจากรายงานการประชุมของเฟดที่บ่งชี้ว่าเฟดจะยังไม่รีบร้อนขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกเริ่มกลับมาทรงตัวได้บ้างอีกครั้ง ทำให้ FSS ยังคาดว่า SET มีสิทธิที่จะอยู่ระหว่างการแกว่งตัวบวกต่อเนื่องได้อีก อย่างไรก็ตามความกังวลเกี่ยวกับโอกาสที่จะมีแรงขายของ LTF ที่จะครบอายุในช่วงนี้ออกมากดดันคาดว่ายังเป็นประเด็นที่จะทำให้มีแรงขายทำกำไรลดความเสี่ยงออกมาทำให้ SET ยังมีจังหวะแกว่งตัวผันผวนเป็นระยะๆ ด้วย
แนวรับ 1518-1514 , 1510-1505 จุด
แนวต้าน 1523-1528 , 1532-1540 จุด
Fund Flow กระแสเงินทุนกลับมาไหลเข้าภูมิภาคเป็นครั้งแรกตั้งแต่ต้นปีที่ราว US$488 ล้าน ส่วนใหญ่เป็นการไหลเข้าไต้หวันและเกาหลีใต้ US$285ล้าน และ US$191 ล้าน ตามลำดับ ส่วนกลุ่ม TIP เข้าไทยประเทศเดียว US$37ล้าน ขณะที่ยังไหลออกจากฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย US$12.4ล้าน และ US$11ล้าน ตามลำดับ แนวโน้มการลงทุนในภูมิภาคในวันนี้เป็นบวกมากขึ้นหลังจากเมื่อคืนนี้ Fed ได้รายงานการประชุมว่ายังไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย และคาดการณ์ว่า ECB จะออกมาตรการ QE อีกครั้ง
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) การปรับโครงสร้างหน่วยงานไอซีทีใหม่ไม่กระทบการประมูล 4G โครงสร้างของ กสทช. ที่จะเปลี่ยนจากปัจจุบันที่มีคณะกรรมการ 2 ชุดย่อยคือ กทค. (ดูแลโทรคมนาคม) และ กสท. (ดูแลด้านโทรทัศน์) ยุบเหลือบอร์ดเดียว (คาดมีผลราว มี.ค.-เม.ย. นี้) ไม่กระทบการประมูล 4G ที่กำหนดไว้ประมาณ ก.ค.-ต.ค. นี้ เพราะบทบาทของกสทช.ยังคงเป็น Regulator ทำหน้าที่จัดประมูลคลื่นความถี่เชิงพาณิชย์และให้ใบอนุญาต ส่วนหน้าที่กำหนดนโยบายการใช้คลื่นความถี่ของชาติจะเป็นหน้าที่ของบอร์ดดิจิตอลที่มีนายกฯเป็นประธาน กลุ่มสื่อสารยังคงเป็นหนึ่งในกลุ่มหลักที่เราชอบสำหรับการลงทุนในปีนี้ เพราะนอกจากกำไรที่คาดว่าจะเติบโตสูง 23% แล้ว ยังจ่ายปันผลดีสม่ำเสมอ (Yield เฉลี่ย 5-6%) และธุรกิจไม่ค่อยอ่อนไหวต่อสภาพเศรษฐกิจ
(-) สินค้าไทย 723 รายการโดนตัดสิทธิ GSP จากยุโรปตั้งแต่ 1 ม.ค. 2015 สินค้าส่งออกที่ใช้สิทธิ GSP จากมากไปน้อยได้แก่ ยานยนต์ เครื่องนุ่งห่ม ยาง เครื่องใช้ไฟฟ้าและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เกษตร-อาหารทะเลแปรรูป เป็นต้น การตัดภาษี GSP ทำให้ความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยลดลง และอาจทำให้การส่งออกในปีนี้ทำไม่ได้ตามเป้า (เราคาด +4%) แต่ผลกระทบต่อ CPF และ TUF ไม่มีนัยสำคัญเพราะส่งออกกุ้งไปยุโรปเพียง 0.5% และ 1.5% ของรายได้รวม ตามลำดับ เรายังคงคำแนะนำซื้อทั้ง CPF (ราคาเป้าหมาย 37.50 บาท) และ TUF (ราคาเป้าหมาย 24 บาท)
(-) BJC วานนี้ผู้ถือหุ้นมีมติไม่อนุมัติดีลซื้อ Metro เวียดนามที่มีมูลค่า 655 ล้านยูโรหรือ2.84 หมื่นล้านบาท เพราะเงื่อนไขใหม่ (วางเงินทั้งจำนวนก่อนได้ไลเซ่นส์) มีความเสี่ยงสูง อย่างไรก็ตาม ดีลนี้ยังไม่จบเพราะ TCC Holding (ถือหุ้นใหญ่ของ BJC) จะเจรจาขอปรับเงื่อนไข ซึ่งเราเห็นว่า BJC ยังมีความเสี่ยงไม่ว่าดีลนี้จะสำเร็จหรือไม่ หากการซื้อ Metro เป็นผลสำเร็จด้วยเงื่อนไขที่ดี BJC จะต้องเพิ่มทุนและรับรู้ผลขาดทุนจาก Metro ในระยะแรกของการดำเนินงาน แต่หากดีลล้ม BJC อาจถูกผู้ขายฟ้องร้องค่าเสียหาย ขณะที่ผลประกอบการในปีนี้ของ BJC เองยังไม่สดใส เราจึงยังคงแนะนำหลีกเลี่ยง
(+) PT เราเริ่ม Coverage ด้วยคำแนะนำซื้อ ประเมินราคาเป้าหมายปีนี้ที่ 20 บาท อิง PE 17 เท่าและคาดการณ์ EPS Growth ปีนี้ 33% และโตต่อเนื่องเฉลี่ย 18% ในปี 2016-18 การเติบโตสูงในปีนี้นอกจากจะเติบโตตามอุตสาหกรรมแล้ว การปรับโครงสร้างรายได้โดยเพิ่มสัดส่วนงานบริการซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูง และคุมค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวด จะช่วยให้ความสามารถในการทำกำไรดีขึ้น นอกจากนี้ นโยบาย Digital economy ของรัฐจะกระตุ้นให้องค์กรต่างๆหันมาสนใจลงทุนด้าน IT มากขึ้น ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อบริษัท PT ถือเป็น Value stock ที่น่าสนใจจากการเติบโตที่มีเสถียรภาพในระยะยาว ศักยภาพในการแข่งขัน และมี ROE สูงสุดในกลุ่ม ทั้งนี้ ราคาเป้าหมายของเรายังมี upside จากประเด็น 4G และการขยายธุรกิจไปพม่า
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาพุ่งขึ้นต่อเนื่องอีกกว่า 200 จุดจากราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้นรวมถึงคาดการณ์ที่ว่า FED และ ECB จะดำเนินมาตรการเพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดบวกแรงเช่นกันหลังประธาน ECB กล่าวว่าพร้อมที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมอย่างเต็มที่
จากบรรยากาศการลงทุนที่สดใสจากตลาดหุ้นภูมิภาคอื่นส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในแดนบวกได้ต่อเช่นกัน
ค่าเงินบาทแกว่งทรงตัวในกรอบ 32.80-32.90 บาท/ดอลลาร์
น้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ปิดที่ 48.79 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.14 ดอลลาร์/บาร์เรล จากตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯที่ดีกว่าคาด
ทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ปิดที่ 1,208.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลงเล็กน้อย 2.20 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยตลาดยังคาดว่า FED จะยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
9 ม.ค. - จีน: ยอดสินเชื่อ (ธ.ค.), เงินเฟ้อ (ธ.ค.), TREIT เริ่มเทรด (ราคา IPO 10 บาท)
- สหรัฐ: การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงาน (ธ.ค.)
14 ม.ค. - สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (ธ.ค.)
- ยูโรโซน: Industrial Production (พ.ย.)
15 ม.ค. - เกาหลีใต้: ธนาคารกลางประชุม
16 ม.ค. - สหรัฐ: อัตราเงินเฟ้อ (ธ.ค.)
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (ธ.ค.)
20 ม.ค. - ไทย: ยอดขายรถ (ธ.ค.)
- จีน: 4Q14 GDP, ยอดค้าปลีก (ธ.ค.) Fixed asset investment (ธ.ค.)
- ยูโรโซน: ZEW Survey Expectations (ม.ค.)
21 ม.ค. - ญี่ปุ่น: BOJ Monetary Policy Statement
- สหรัฐ: Housing starts, Building permit (ธ.ค.)
22 ม.ค. - ยูโรโซน: ECB ประชุม, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ม.ค.)
23 ม.ค. - ไทย: ดุลการค้า (ธ.ค.)
- จีน: HSBC China Manufacturing PMI (ม.ค.)
- เกาหลีใต้: 4Q14 GDP
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านเก่า (ธ.ค.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852