- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 08 January 2015 15:59
- Hits: 1649
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA +212.88, NASDAQ +57.73, S&P + 23.29, FTSE + 53.32, DAX + 48.52 และ CAC40 + 29.23 โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดพุ่งขึ้น ขานรับรายงานของ ADP ที่ระบุว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ในเดือนธ.ค. 2557 ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยหนุนตลาดดีดตัวขึ้น หลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากความวิตกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ราคาน้ำมัน ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ครั้งใหม่ หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อของยูโรโซนอยู่ในระดับติดลบในเดือน ธ.ค.
….. ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ก.พ. +72 เซนต์ ปิดที่ 48.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐร่วงลงอย่างเหนือความคาดหมายในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด
..... ขณะที่ราคาทองคำส่งมอบเดือน ก.พ. -8.7 ดอลลาร์ หรือ -0.71% ปิดที่ 1,210.70 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น หลังจากมีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ นอกจากนี้ ข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐที่แข็งแกร่ง ยังได้กดดันให้นักลงทุนลดสถานะในสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -2,658 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -8,370 ล้านบาท (ปี ’57 มียอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)
ทิศทางตลาด
ทิศทางตลาด : สร้างฐาน? คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้แม้จะเริ่มมีความผันผวนน้อยลง จากดัชนี
ชี้นำต่างๆ (ตลาดต่างประเทศ, ราคาสินค้าโภคภัณฑ์) เริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น แต่เราคาดว่าดัชนีจะยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นในลักษณะ V-Shape ได้ จากความไม่แน่นนอนต่างๆ โดยเฉพาะปัจจัยต่างประเทศ (เช่น ราคาน้ำมันที่ลดลง, การปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด และความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจยุโรป) ซึ่งถูกซ้ำเติมด้วยแรงขาย LTF/RMF ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในช่วง ม.ค. ของทุกปี ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศที่เคยเป็นประเด็นบวก อย่างความคืบหน้าโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ไม่สามารถผลักดันดัชนีได้อย่างมีนัย หลังจากตลาดได้ตอบสนองประเด็นบวกเหล่านี้เข้าไปพอสมควร
.....ส่วนประเด็นในประเทศ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยยังคงเป็นไปอย่างช้าๆ นักลงทุนยังคงจับตาการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของทางภาครัฐฯ โดยที่ ธปท.และ สศค. ประเมินการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 58 ไว้ที่ 4.0% ในขณะที่การแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อาจจะส่งผลต่อการไหลออกของเม็ดเงินจากต่างประเทศ หลังจากล่าสุด USD index เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 91.8 จุด สูงสุดในรอบ 9 ปี และยังแนะติดตามแรงขายจากสถาบันในประเทศ (LTF / RMF) ในช่วงเดือนแรกของปี ’58
.....และแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม ในปี ’58 – ’65 ซึ่ง ครม. อนุมัติเมื่อ 21/10/57 เช่น รถไฟรางคู่ รถไฟฟ้า การขยายถนน และการขยายสนามบินฯ เป็นต้น เพื่อช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ และเพิ่มศักยภาพของประเทศ ให้รองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งคาดกลุ่มรับเหมาก่อสร้างน่าจะได้รับผลดีต่อเนื่องในระยะยาว
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.0275 อยู่ที่ 1.9677% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) -1.81 อยู่ที่ 19.31
หุ้นแนะนำ : BEAUTY
ประเด็นที่ต้องติดตาม (8 ม.ค.’58 – 9 ม.ค.’58)
8/1/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
9/1/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ธ.ค. (2) ตัวเลขสต็อกสินค้าและยอดค้าส่งเดือน พ.ย.
นักวิเคราะห์ : พลเทพ วงษ์นาค, FRM 02-684-8796