- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 08 January 2015 15:51
- Hits: 1687
บล.เคเคเทรด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
SET แกว่งตัวสร้างฐานแถว 1500 จุด
SET View
แนวโน้มวันนี้เป็นกลาง มองกรอบเคลื่อนไหว 1,485 – 1,515 จุด
SET มีโอกาสแกว่งตัวแถว 1500 จุด หากการปรับขึ้นเมื่อวานมาจากข่าวที่กองทุนประกันสังคมที่มีเม็ดเงินกว่า 1.2 ล้านล้านบาทมีแผนเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นไทยที่ปัจจุบันมีขนาดเพียง 1 แสนล้านบาทหรือเพียง 8% ของเงินกองทุน เช้าวันนี้ต้องระวังการขายทำกำไรเนื่องจากแผนดังกล่าวอยู่ระหว่างการเสนอขออนุมัติจากบอร์ดเท่านั้น ส่วนการที่นักลงทุนสถาบันกลับมาซื้อสุทธิเป็นวันแรกของปีนี้ที่ 1.2 พันล้านบาท แม้ช่วยผ่อนคลายความวิตกต่อการขายของกองทุน LTF แต่นักลงทุนต่างชาติที่ยังคงขายสุทธิต่อเนื่องกว่า 2.6 พันล้านบาทจะยังถ่วงการปรับขึ้นของ SET อยู่ ด้านหุ้นกลุ่มพลังงานที่รีบาวน์เมื่อวานนี้เสี่ยงต่อการถูกขายทำกำไรหลังราคาน้ำมันดิบ Brent ยังคงปรับลดลงทำจุดต่ำสุดใหม่บริเวณ US$49 ต่อบาร์เรล ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารเสี่ยงต่อการถูกปรับลดประมาณการลงในช่วงของการทำ Preview/ประกาศงบ 4Q57 ใน 1-2 สัปดาห์จากนี้ ช่วงที่ SET มีแนวโน้มไม่ชัดเจนเราเชื่อว่าหุ้นขนาดกลางและเล็ก รวมถึง Laggard play จะกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้งหนึ่ง ทางเทคนิค SET กราฟราย 15 นาทีเกิดสัญญาณซื้อช่วงเบรคเหนือ Downtrend line บริเวณ 1485 จุด บริเวณสำคัญที่พิจารณาคือ 1500 จุด หากยืนได้จะขึ้นไปทดสอบแนวต้านแถว 1515-1536 จุด ถ้ายืนไม่ได้จะกลับลงมาสร้างฐานแถว 1485 จุดอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน เก็งกำไรระยะ 1-2 วัน หาก SET อ่อนตัวลงหาจังหวะซื้อ ปรับขึ้นเหนือ 1500 จุดทยอยขายทำกำไร แต่หากปิดต่ำกว่า 1485 จุด กลับมาถือครองเงินสด
Top Daily Pick : EFORL (ผลการดำเนินงานจะโตก้าวกระโดดจากการรวมงบ WCIH เข้ามาเต็มไตรมาสใน 1Q58) /THAI (ผลการดำเนินงานมีโอกาสฟื้นตัวจากการปรับโครงสร้างธุรกิจหลังมี DD ใหม่เข้ามา)
Technical Pick: SAWAD CYBER SAMART UNIQ INTUCH
Theme Play : TPOLY (มูลค่าแฝงราว 5.2 บาทต่อหุ้น จากเงินลงทุน ในTPCH ที่จะเข้ามาซื้อขายในวันนี้) /CK (ได้ประโยชน์โดยตรงจากเงินลงทุนหากบริษัทลูก BECL และ BMCL ควบรวมกันจริงตามข่าว) /หุ้นทีวีดิจิทัล (GRAMMY NBC RS WORK) ที่ผลการดำเนินงานจะโตชัดเจนตั้งแต่ปีนี้จากการปรับขึ้นค่าโฆษณา) /กลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัยปันผลเด่น (AP QH SIRI) /หุ้นเครือข่ายร้านอาหาร/ความงามที่จะฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ (KAMART M SST) /กลุ่มสายการบิน (AAV NOK) ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบทิศทางขาลง /หุ้นเติบโตปันผลเด่นระดับ 6% ขึ้นไป (INTUCH MFEC MODERN)
รายงานวันนี้
Preview : MCOT (ขาย/มูลค่าเหมาะสม 16.80 บาท) คาดกำไร 4Q57 จะทำสถิติต่ำสุดใหม่
Comment : AP (ซื้อ/มูลค่าเหมาะสม 7.20 บาท) ยอดขายปี57 ทำได้ตามคาด
Comment : กลุ่มพลังงาน (น้ำหนักการลงทุน“เท่าตลาด”) กบง.มีมติปรับโครงสร้างราคา LPG ได้ประโยชน์ไม่มาก
Fundamental Talk
AAV กำลังฟื้นตัว ราคาหุ้นไม่แพง
•การเข้าพบผู้บริหารวันก่อนมีพัฒนาการที่น่าสนใจหลายด้าน (1) แอร์เอเชียไทยไม่ได้รับ
ผลกระทบจากเหตุการณ์อุบัติเหตุเครื่องบินแอร์เอเชียที่อินโดนีเซีย โดยจวบจนปัจจุบันมียอดยกเลิกตั๋วเครื่องบินไปไม่ถึง 1% ของยอดผู้เดินทางทั้งปีและไม่เห็นการหดตัวอย่างมีนัยของยอดจองใหม่ ถือเป็นการหักล้างความกังวลของตลาดในช่วงที่ผ่านมา (2) ปี 58 จะเป็นปีที่ดีของบริษัท โดยผู้บริหารคาดยอดผู้โดยสารขยายตัวตามอัตราการเติบโตเฉลี่ยปกติที่ 20% และตั้งเป้าไว้ที่ 14.5 ล้านคนบนสมมุติฐานยกเลิกกฎอัยการศึกภายในปีนี้ และเป็นปีที่รัฐบาลให้การสนับสนุนการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศเต็มปี (3) ปัจจุบันบริษัทยุติการป้องกันความเสี่ยงราคาเชื้อเพลิงแล้วและจะรับรู้ประโยชน์เต็มที่หลัง 1Q58 ไปแล้ว เนื่องจากทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงล่วงหน้าบางส่วนของยอดผู้โดยสารที่จองตั๋วเดือน ม.ค.-ก.พ. ไปแล้ว
•อย่างไรก็ตามการประกาศงบปี 57 ช่วงปลายเดือน ก.พ. จะออกมาไม่ดี เราประมาณการกำไรสุทธิอยู่หลักร้อยล้านบาทต่ำกว่าปกติที่อยู่ระดับ พันล้านบาท เนื่องจากจะยังไม่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันและปี 57 มีค่าตั๋วที่ลดลงต่อเนื่องและค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นจากการขยายกำลังรองรับผู้โดยสารที่คาดว่าจะโต 20% แต่ยอด 9M57 ขยายตัวแค่ 16% จึงเกิดการขาดทุนจากการดำเนินการ จะมาถ่วงการฟื้นตัวใน 4Q57
•สำหรับผลประกอบการปี 58 ประเมินเบื้องต้นเราคาดหมายกำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท (PHATRA ประมาณการกำไรปี 58 ที่ 1.7 พันล้านบาท) จากสมมติฐานผู้โดยสารขยายตัวราว 20% และราคาตั๋วทรงตัวตามที่บริษัทคาด โดยจะมีรายได้ราว 2.9 หมื่นล้านบาท มีค่าใช้จ่ายการเพิ่มเครื่องบินใหม่อีก 5 ลำ ทำให้ต้นทุนขายเพิ่มมาอยู่ที่ราว 2.8 หมื่นล้านบาท กำไรส่วนที่เกินจาก 1 พันล้านจะขึ้นอยู่กับผลจากน้ำมันเชื้อเพลิงที่รับรู้ได้ช่วง 2Q-4Q หักกับความเสี่ยงที่จะปรับลดค่าภาษีน้ำมันลงตามทำให้ได้ประโยชน์ไม่มาก โดยรวม AAV ก็ถือว่าน่าสนใจในแง่การฟื้นตัวจากฐานต่ำในปี 57
•ในเชิงประเมินมูลค่า AAV ก็มีความน่าสนใจ ซื้อขายเพียง 1.1 เท่าของมูลค่าทางบัญชี ต่ำกว่าของ NOK ที่ 2.2 เท่า แม้ NOK จะมีจุดเด่นที่มีความสามารถในการทำกำไรได้ดีกว่าและมี upside จาก NokScoot แต่ก็มีความเสี่ยงจากความสามารถในการควบคุมค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ส่วน AAV ยังเน้นการเติบโตจากฐานธุรกิจเดิมที่ผู้บริหารมีความเข้าใจอยู่แล้วนอกจากนี้ ในปีนี้บริษัทมีแผนจะจ่ายเงินปันผลเป็นครั้งแรก ในเบื้องต้นคาดจะจ่ายได้ในครึ่งปีหลัง ปี 58 โดยจ่ายจากกำไรสะสม จะเป็นอีกปัจจัยช่วยจำกัด downside ของราคาหุ้น
โดยสรุป หุ้น AAV เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนสำหรับปีนี้ ทั้งในแง่การฟื้นตัวและ downside risk ต่ำ โดย IAA consensus ให้มูลค่าเหมาะสมที่ 4.9 บาท (แต่เราเชื่อว่านักวิเคราะห์จะทยอยปรับขึ้นอีกหลังเข้าพบผู้บริหาร ขณะที่ PHATRA ให้มูลค่าเหมาะสมที่ 5.6 บาท) นักลงทุนควรหาโอกาสเข้าลงทุนถ้าราคาปรับลงมาใกล้มูลค่าทางบัญชีแถว 4 บาทและหาจังหวะเก็งกำไรเมื่อมีกระแสข่าวยกเลิกกฎอัยการศึก
Smart Port Note
PTTGC ถือหุ้น GPSC อยู่ 30.31% โดยคาดนำหุ้นเข้าจดทะเบียนใน SET ไตรมาส 2/58 จากเดิมที่จะเข้าไตรมาส 1/58 โดยจะระดมทุนราว 1 หมื่นล้านบาท และตั้งเป้าขยายกำลังการผลิตไฟฟ้า 200 เมกะวัตต์ต่อปีในช่วง 5 ปีข้างหน้า โดยขณะนี้บริษัทมีกำลังการผลิตที่ 1800 เมกะวัตต์
Beta ของพอร์ตลงทุนแสดงถึงความเสี่ยงของหุ้นในพอร์ตเทียบกับ ตลาด SET หากค่า Beta สูงกว่าหนึ่งเท่า แสดงถึงความเสี่ยงของ พอร์ตลงทุนที่สูงกว่า SET
Growth Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.78
Trading Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.86
Dividend Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.73
Quant Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.50