- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 06 January 2015 15:55
- Hits: 1883
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selection >> BMCL, PYLON, SAMART, WORK
Stock S R Comment
BMCL 1.95 2.10 ลุ้นสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ค่าโดยสารเพิ่ม 1-2 บาท
PYLON 8.80 9.25 พื้นฐานแข็งแกร่ง อานิสงค์แผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ
SAMART 37.50 40.00 รุกธุรกิจโรงไฟฟ้าขยะ
WORK 42.50 45.00 อัดงบ 800 ล้านบาท เน้น local content สร้าง rating หนุนรายได้ปี 58
No 1460 No Buy
SET Index ปรับตัวลงตามความคาดหมายหลังไม่มีปัจจัยกระตุ้นในระยะสั้นบวกกับปัจจัยกดดันที่เพิ่มขึ้น โดยปริมาณการซื้อขายเมื่อวานนี้ยังคงเบาบางโดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก หลังจากที่ตลาดหลักทรัพย์เริ่มบังคับใช้มาตรการควบคุมหุ้นร้อนเป็นวันแรก (ดูรูป) โดยสัดส่วนการซื้อขายในหุ้นใหญ่ที่เพิ่มมากขึ้นส่วนใหญ่เป็นแรงขายจากนักลงทุนสถาบันในประเทศจากแรงไถ่ถอนเม็ดเงิน LTF/RMF และจากนักลงทุนต่างชาติเนื่องจากไม่มีปัจจัยหนุน Fund flow ในระยะสั้น
Oil : คาดการปรับตัวลงอีกครั้งของราคาน้ำมันดิบเมื่อคืนนี้จะเป็นปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน ราว 2-4% ซึ่งจะส่งผลกดดัน SET Index ในวันนี้ประมาณ 4-9 จุด ซึ่งทำให้ SET Index มีแนวโน้มสูงที่จะปรับตัวลงทดสอบแนวรับแรกของเราที่ 1460 จุดภายในสัปดาห์นี้
Lowflation : กระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปประจำเดือนธันวาคมที่ 0.6% ถือเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบ 62 เดือน โดยได้รับผลกระทบจากราคาพลังงานเป็นสำคัญ ตัวเลขเงินเฟ้อที่ออกมาต่ำนี้อาจทำให้ความเป็นไปได้ที่กนง.จะลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 28 มกราคมนี้มีสูงขึ้น แต่เรามองว่าด้วย 1) สัญญาณตัวชี้เศรษฐกิจทิ่เริ่มดีขึ้น 2) หนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง และ 3) ค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ณ ขณะนี้ ถือเป็นปัจจัยที่ทำให้การลดดอกเบี้ยเกิดขึ้นได้ยาก ดังนั้นยังคงคาดการณ์การคงอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้ที่ 2.0% เช่นเดิม
Savings bond : เรามองประเด็นที่กระทรวงการคลังเตรียมออกพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษวงเงินกว่า 1 แสนล้านบาทในระหว่างวันที่ 12 - 23 มกราคมนี้จะเป็นปัจจัยที่เข้ามาดูดสภาพคล่องออกจากระบบตลาดทุนไทยได้พอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสินทรัพย์ประเภท High yield ซึ่งมีคุณลักษณะคล้ายคลึงกัน อาทิ Property fund, REIT, Infrastructure fund รวมถึงหุ้นปันผล ประเด็นนี้ถือเป็นปัจจัยเชิงลบทางด้านสภาพคล่องอย่างแท้จริงและถือเป็นปัจจัยลบในตลาดล่าสุดที่เกิดขึ้น
กลยุทธ์การลงทุน : ยังคงแนะนำชะลอการลงทุนต่อไปเนื่องจากไม่มีปัจจัยกระตุ้นใหม่ มอง Timing ที่น่าสนใจในการเข้าสะสมหุ้นรอบใหม่ได้แก่ช่วงกลางเดือนมกราคมเป็นอย่างเร็ว มองระดับแนวรับแรกที่ 1460 จุด และระดับเลวร้ายสุดของ SET Index ที่ 1420 จุด พยายามหลีกเลี่ยงหุ้นขนาดใหญ่ที่น่าจะเป็นเป้าหมายของการไถ่ถอนเม็ดเงิน LTF/RMF และการเทขายของนักลงทุนต่างชาติในช่วงนี้อาทิ กลุ่มธนาคารและพลังงาน แนะนำใช้จังหวะที่ SET Index ปรับฐานต่ำกว่าระดับ 1460 จุดในการเริ่มเข้าสะสมหุ้น Core portfolio ของเราที่มีระยะเวลาถือครองประมาณ 3-6 เดือน ซึ่งได้แก่ SOLAR, BCP, IFEC, GEL, PYLON, SEAFCO, ITD, CK, STEC, BTS, BMCL, AAV, BA, THAI, CKP
แนวรับ 1,460 แนวต้าน 1,500
บทวิเคราะห์วันนี้ :
KTB (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 27 บาท) คาดกำไร 4Q57 แกร่ง หลังอาจไม่มีสำรองพิเศษ
หุ้นมีข่าว :
PETRO : Update สถานการณ์ปิโตรเคมีระยะสั้น (+)
Today's Event :
TTL XD 38.00 บาท
MAX XR 10:1 @ 1.30 บาท
ROJNA ลูกหุ้นเข้า 311,547,740 หุ้น
TIES ลูกหุ้นเข้า 2,455,701,776 หุ้น?
นักวิเคราะห์ :
ดุลเดช บิค, CFA, FRM, CAIA (ID: 29932) E-mail: [email protected]
ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379) E-mail: [email protected]