- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 06 January 2015 15:47
- Hits: 1804
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Selective Buy
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับฐานลงต่อจากปลายปีที่ผ่านมา โดยกลุ่มธนาคารถูกลดน้ำหนักอย่างโดดเด่น หลังมีโบรกเกอร์ต่างชาติปรับน้ำหนักลงมาเป็น Underweight บวกกับ PTT / PTTEP ที่ลดลงแรงจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ลดลงทดสอบแนว US$50/barrel ขณะที่มูลค่าการซื้อขายยังคงเบาบาง ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX ลบทั้งสิ้น 14.42 จุด มาอยู่ที่ 1,483.25 จุด มูลค่าการซื้อขายเพียง 29,722 ล้านบาท
แม้ว่า ต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทย 1,847 ล้านบาท น่าจะเป็นการลดน้ำหนักในกลุ่มน้ำมัน และกลุ่มธนาคารที่ปรับตัวลงแรงวานนี้ แต่คงการ Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 8 อีก 3,989 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้ไทยเป็นวันที่ 3 อีก 2,648 ล้านบาท ส่งสัญญาณเงินทุนต่างชาติเป็นกลาง
ปัจจัยสำคัญวันนี้
•ราคาน้ำมันดิบ NYMEX หลุด US$50/barrel ระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีครึ่ง สร้างแรงกดดันต่อ PTT / PTTEP แต่เป็นบวกต่อกลุ่มสายการบิน
•เช้านี้ติดตามตัวเลข HSBC PMI ภาคบริการของจีน เดือนธ.ค.
•ติดตามการหารือการจัดทำงบประมาณปี 2559 หลัง รมว.คลัง เสนอทำงบประมาณขาดดุลมากขึ้นจากปีงบประมาณ 2558 ที่ขาดดุล 2.0 แสนล้านบาท เพื่อนำเงินมากระตุ้นเศรษฐกิจ
•ติดตาม การหารือของผู้นำไทย – พม่า วันที่ 8-9 ม.ค.ต่อโครงการทวาย อาจมีการประกาศแผนการลงทุนเฟดเริ่มต้นให้แก่ ITD / ROJNA
•ขณะที่ Risk Free Rate ของไทยลดลงแรง ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10 ปีวานนี้ลดลงมากถึง 22.49bps ปิดที่ 2.603% เมื่ออัตราเงินเฟ้อเดือนธ.ค.ทำระดับต่ำสุดในรอบ 62 เดือน สะท้อนโอกาสที่กนง.จะพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายภายใน 1Q58 มีน้ำหนักมากขึ้น
•ความเสี่ยงทางการเมืองในกรีซ อาจสร้างความผันผวนต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นยุโรปช่วงสั้น เพราะเชื่อว่ากรีซจะออกจากระบบอียูเป็นไปได้ค่อนข้างยาก
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองต่อการลงทุนวันที่ 2 ของปี 2558 ระดับ “กลาง” ต่อเนื่องจากวานนี้ และให้น้ำหนักแนวรับ 1,470-1,480 จุด จะทำงานได้อย่างแข็งแกร่ง แม้ว่าวันนี้หุ้นหลักอย่าง PTT / PTTEP จะยังปรับตัวลงแรงต่อ หลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลดลงทำระดับต่ำสุดในรอบกว่า 5 ปีก็ตาม แต่ราคาน้ำมันที่ลดลงกลับเป็นบวกต่อกลุ่มสายการบินในทางตรง และทางอ้อมในแง่ของต้นทุน ของกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง/ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง / กลุ่มที่อยู่อาศัย รวมถึงภาคการบริโภคภายในประเทศ เมื่ออัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ
ขณะที่เราให้ความสนใจกับกรณีผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยที่ลดลงแรงวานนี้ โดยเฉพาะอายุ 10 ปี ซึ่งถือเป็นตัวแทนของ Risk Free Rate ของตลาดหุ้นไทย ลดลงเหลือ 2.603% สะท้อนมุมมองของตลาดต่อโอกาสที่กนง.จะพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ย RP1 วันลงเหลือ 1.75% มีความเป็นไปได้มากขึ้น กลายเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมของตลาดหุ้นไทย รวมไปถึงกลุ่มอสังหาฯ และหุ้นปันผล ขณะที่หุ้นหลักในกลุ่มธนาคารจะได้รับผลกระทบช่วงสั้น หาก กนง. ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจริง แต่ความกังวลดังกล่าวเริ่มสะท้อนมายังราคาหุ้นที่ปรับตัวลงแรงวานนี้แล้วเช่นกัน
ตลาด Nikkei / Kospi เช้านี้ (7.29 น) เปิดปรับตัวลงต่อเนื่องจากวานนี้ โดยเฉพาะ Nikkei -2.09% จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงแรงคืนวานนี้
กลยุทธ์การลงทุน
เราแนะนำ “นักลงทุนควรพิจารณาทยอยสะสมหุ้นที่ผลการดำเนินงานใน 4Q57 เติบโตเด่น หรือผลตอบแทนเงินปันผลงวดปัจจุบันไม่ต่ำกว่า 5%” เป็นทางเลือก ขณะที่นักลงทุนสามารถเก็งกำไรระยะสั้นต่อกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงแรงในช่วงสั้นนี้
Portfolio Top Pick in 1Q15: ADVANC / BJCHI / ITD / KTB
HOLD: ITD / TPIPL
Accumulative Buy: BJCHI
Trading Buy: AAV
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “ทยอยสะสม” ได้แก่
1.BJCHI : ราคาปิด 34.00 บาท ราคาเหมาะสม 45.00 บาท
a)MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มเงินปันผลสูงจะ Outperform ตลาดที่ผันผวนได้ เนื่องจากมีโอกาสสูงที่ กนง.อาจพิจารณาลดดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมวันที่ 28 ม.ค. จากปัจจุบันที่ 2.00% หลังเงินเฟ้อ เดือน ธ.ค. +0.6% yoy ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 1.10% yoy
b)BJCHI ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในอัตราสูง โดยคาดการณ์เงินปันผลปี 2557 (จ่ายปีละ 1 ครั้ง) หุ้นละ 2.40 บาท คิดเป็น Dividend Yield 7.1%
c)คาดผลประกอบการ 4Q57 จะขยายตัวสูง qoq เนื่องจากจะมีการรับรู้รายได้งานของ Petrobras ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง นอกจากนั้น ยังมี Catalyst รออยู่ใน 1Q58 คือการประกาศชนะงานประมูลขนาดใหญ่เพิ่มเติม จากงานทั้งหมดที่อยู่ระหว่างประมาณราว 2-3 หมื่นล้านบาท
d)Valuation น่าสนใจ โดยซื้อขายระดับ PER 2558 เพียง 9.2 เท่า ต่ำกว่า SET INDEX ที่ 13.6 เท่า และประมาณการรายได้ปี 2558 มี Backlog รองรับแล้วราว 65% จึงมีความเสี่ยงของประมาณการรายได้ค่อนข้างจำกัด
และ “ซื้อเก็งกำไร” ได้แก่
2.AAV : ราคาปิด 4.30 บาท ราคาเหมาะสม 4.90 บาท
a)MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มสายการบินจะปรับตัวได้ดีกว่าตลาดในวันนี้ เนื่องจากได้ประโยชน์โดยตรงจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX ที่ปรับตัวลง -5.6% dod เหลือ US$50.04/barrel ทำระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 ปี
b)เนื่องจากจะส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ Jet ซึ่งเป็นต้นทุนหลักของธุรกิจสายการบินปรับตัวลงในทิศทางเดียวเดียว และส่งผลบวกอย่างมีนัยสำคัญต่อผลประกอบการปี 2558
c)คาดผลประกอบการ 4Q57 จะพลิกเป็นกำไรสุทธิ เนื่องจากเป็น High Season ของธุรกิจสายการบิน และจะมีกำไรต่อเนื่องในปี 2558 จากอานิสงค์ของต้นทุนเชื้อเพลิงที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
a)ผลักดันให้กำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +873.5% yoy เป็น 1,577 ล้านบาท และราคาหุ้นยังซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี เทียบเท่า PBV 2558 เพียง 0.78 เท่า
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ต่างชาติลดการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียเกิดใหม่ US$100 ล้าน
ตลาดหุ้น วานนี้(US$ ล้าน) วันก่อนหน้า(US$ ล้าน) YTD(US$ ล้าน) 2557(US$ ล้าน) 2556(US$ ล้าน)
TAIEX -103.5 Closed -103.5 13,190.4 9,188.0
KOSPI 68.2 n.a 98.6 6,165.50 4,875.1
JSE -11.5 -0.3 -11.9 3,750.60 -1,806.4
PSE 1.9 Closed 1.9 1,256.1 678.4
ตลาดหุ้นเวียดนาม 0.7 Closed 0.7 135.6 263.2
SET INDEX -56.0 Closed -56.0 -1,091.4 -6,210.5
Foreign Investors Action วานนี้
คาดต่างชาติทำ Arbitrage ระหว่างตลาดหุ้น และ SET50 Index Futures ต่อเนื่อง
วานนี้ วันก่อนหน้า
ตลาดหุ้น (ล้านบาท) -1,847 -146
SET50 Index Futures (สัญญา) +3,989 +2,694
SSF (สัญญา) +1,408 +346
Metal Futures (สัญญา) +1,359 -47
ตลาดตราสารหนี้ (ล้านบาท) +2,648 +175
นักลงทุนต่างชาติ คงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยในวันที่ 2 อีก 1,847 ล้านบาท รวม 2 วันทำการ ขายสุทธิเล็กน้อย 1,993 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Long สุทธิเป็นวันที่ 8 อีก 3,989 สัญญา รวม 8 วันทำการ Long สุทธิ 31,740 สัญญา คาดเป็นการเปิดสถานะ Long หลัง S50M15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index เท่ากับ 5.10 จุด แคบลงจากวันก่อนหน้าที่ Discount กว้างถึง 11.91 จุด น่าจะเป็นการทำ Arbitrage ระหว่าง ตลาดหุ้นที่ขายสุทธิ และมา Long สุทธิใน SET50 Index Futures ที่มีต้นทุนถูกกว่า
ขณะที่นักลงทุนกลุ่มนี้ ซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 3 อีก 2,648 ล้านบาท รวม 3 วันทำการซื้อสุทธิ 2,908 ล้านบาท ขณะที่ราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงแรงถึง 22.49bps ปิดที่ 2.603%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling มากถึง 940 ล้านบาท
Stock Total Value(mn Bt) % of trading Volume Avg.Price(Bt)
PTT 277.48 12.94% 320.86
KBANK 153.74 8.26% 225.49
PTTEP 108.74 12.68% 110.23
TRUE 54.91 4.60% 11.29
SCC 33.51 7.31% 449.20
NVDR Movement
NVDR เริ่มต้นด้วยการลดน้ำหนัก เน้นกลุ่ม ICT อย่างโดดเด่น
การซื้อขายผ่าน NVDR วันแรกของปี 2558 ขายสุทธิ 970 ล้านบาท โดยเป็นการลดน้ำหนักกลุ่มหลัก ICT และกลุ่มวัสดุก่อสร้างอย่างหนาแน่น ภาพรวมสรุปได้ดังนี้
1.กลุ่ม ICT ถูกขายสุทธิสูงสุด 421 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ขายสุทธิ 222 ล้านบาท กลุ่มพลังงาน ขายสุทธิ 136 ล้านบาท และกลุ่มธนาคาร ถูกขายสุทธิ 118 ล้านบาท
2.ส่วนกลุ่มโรงพยาบาล กลับถูกซื้อสุทธิสูงสุด 156 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่ม Professional ซื้อสุทธิ 28 ล้านบาท
ซื้อสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการซื้อขาย ขายสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการขาย
SCB 331.55 50.21 INTUCH -224.47 25.60
BGH 176.27 22.47 SCC -207.24 31.47
KBANK 63.76 21.78 KTB -202.44 12.71
SPALI 54.55 27.24 BBL -183.13 45.63
AOT 40.69 25.37 DTAC -177.64 31.02
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Assistant Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong