- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 06 January 2015 15:46
- Hits: 1585
บล.เคเคเทรด : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET แกว่งตัวลงมองหาแนวรับ
SET View
แนวโน้มวันนี้เป็นลบ มองกรอบเคลื่อนไหว 1,460 – 1,480 จุด
SET มีโอกาสปรับตัวลงจาก ตลาดภูมิภาควันนี้มีโอกาสปรับตัวลงจากความวิตกต่อเศรษฐกิจโลกชะลอตัวส่งผลให้นักลงทุนมองหาที่หลบภัย (Safe Haven) จึงเห็นการขายทำกำไรในตลาดหุ้นทั่วภูมิภาคเมื่อวานนี้ทั้งตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับลดลงราว 3-4% ดัชนีดาวโจนส์ของสหรัฐปรับลดลงกว่า 331 จุด (-1.8%) ดัชนีความกลัว (VIX Index) ที่ปรับสูงขึ้นอีกครั้งมาที่ 20% จากระดับปกติที่ 13% ขณะที่อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรสหรัฐปรับลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 20 เดือน ที่ 2.0% บ่งบอกถึงนักลงทุนสถาบันในสหรัฐเริ่มหนีจากตลาดหุ้นเข้าสู่ตลาดพันธบัตร สำหรับปัจจัยภายในประเทศ ยังมีความกดดันจากราคาน้ำมันดิบ Brent ที่ปรับลงสู่ US$51 ต่อบาร์เรล ระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี คาดว่ายังกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับขึ้นสวนทางราคาน้ำมันดิบก่อนหน้านี้ เศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้ากว่าคาดเริ่มส่งผลกระทบไปยังหุ้นกลุ่มธนาคาร ตลอดสัปดาห์นี้เป็นช่วงของการ Preview งบ 4Q57 ของกลุ่มธนาคาร ก่อนที่จะมีการประกาศงบช่วงกลางเดือน ซึ่งเราคาดว่านักวิเคราะห์บางส่วนจะเริ่มปรับลดประมาณการผลประกอบการปี 58 ลง กอปรกับนักลงทุนจะเริ่มวิตกต่อหนี้สินภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องอาจกดดันความสามารถในการขยายสินเชื่อ นอกจากนี้ฝั่งนักลงทุนสถาบันที่ขายสุทธิออกมา 2.5 พันล้านบาทเมื่อวานนี้ ยืนยันการขายทำกำไรของกองทุน LTF ที่ครบกำหนดไถ่ถอนตามที่เรากังวลมาก่อนหน้า ทางเทคนิค SET อยู่ในช่วงของการปรับฐานโดยจะมีแนวต้านสำคัญบริเวณ 1538 จุด และมีแนวรับสำคัญบริเวณ 1460 จุด (50% Fibonacci)
กลยุทธ์การลงทุน เก็งกำไรระยะ 1-2 วัน ชะลอการลงทุนกลับมาถือครองเงินสด หรือเสี่ยงซื้อหาก SET ปรับลงแถว 1460 จุด+/- เพื่อรอขายตอนรีบาวน์
Top Daily Pick : HEMRAJ (เกิด Synergies หากการซื้อกิจการโดย WHA สำเร็จ และราคาเข้าซื้อที่ 4.5 บาทถูกกว่าราคาตลาดช่วยจำกัด downside ขณะที่ธุรกิจหลักขายที่ดินมีแนวโน้มฟื้นตัวในปีนี้) /WORK (จำนวนผู้ชมและ rating มีแนวโน้มดีขึ้นเกือบทุกเดือน เพิ่มโอกาสปรับขึ้นค่าโฆษณา ขณะที่การดึงรายการช่อง 5 และ 9 มาออกใน WORKPOINT TV ส่งผลให้ฐานรายได้
เพิ่มขึ้น)
Technical Pick: ECL RS CYBER GENCO HEMRAJ
Theme Play : หุ้นเติบโตปันผลเด่นระดับ 6% ขึ้นไป (INTUCH MFEC MODERN) /กลุ่มสายการบิน (AAV NOK) ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบทิศทางขาลง /กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (HANA KCE) ได้ประโยชน์จากเงินดอลลาร์สหรัฐมีทิศทางแข็งค่าเทียบสกุลบาท / หุ้นยอดนิยมที่ราคาปรับลงมาแรงจากสัปดาห์ก่อน (ITD NBC MINT SPALI STEC AP CENTEL RS SIRI SIM)
พอร์ตลงทุน
Trading AMATA KAMART MFEC MODERN NOK SIM WORK
Growth HOTPOT SNC TOP TUF WORK
Dividend BBL EGCO KAMART MODERN PTTGC SNC SRICHA
Quant AH BTS EGCO MODERN MSC PTG TUF
รายงานวันนี้
Update : กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (น้ำหนักการลงทุน “เท่าตลาด”) น่าสนใจจากผลตอบแทนเงินปันผลสูง AP QH และ SIRI ให้ผลตอบแทนเงินปันผล 4-5%
Fundamental Talk
ส่องหุ้น Top gainer / Top loser ที่หาจังหวะเล่นรีบาวน์ได้
จากการติดตามกลุ่มหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูงในแต่ละสัปดาห์ (Weekly Top gainer) พบว่าสัปดาห์ก่อนซึ่งเป็นสัปดาห์ทำการสุดท้ายก่อนจบปี (22-29 ธ.ค.) มีหุ้นเพียง 30 ตัวที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวก และมีเพียง 4 ตัวที่ปรับตัวขึ้นมากกว่าตลาด (SET ติดลบ 2.5%) ขณะที่มีหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเป็นลบมากถึงราว 400 ตัว และหุ้นที่ราคาคงที่อีกราว 200 ตัว ในหุ้น 30 ตัวที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกก็ไม่มีรูปแบบที่ชัดเจน คือเป็นในลักษณะการปรับตัวบวกน้อยๆแค่ไม่ปรับตัวลงมาตามตลาดเท่านั้น ไม่ชัดเจนว่าเป็นหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมใด หรือเป็นกลุ่มหุ้นเล็กหรือใหญ่ แถมยังเป็นหุ้นคนละกลุ่มกับในชุด Top gainer ของสัปดาห์ก่อนหน้านี้ กล่าวคือไม่มีหุ้นที่อยู่ในขาขึ้นชัดเจน ลักษณะแบบนี้จึงสะท้อนภาพตลาดที่อยู่ในขาลง ตรงกับมุมมองของเรา โดยการจะกลับมาเป็นขาขึ้นได้จะต้องเห็นหุ้นขนาดใหญ่กลับมาบวกพร้อมกัน และให้นักลงทุนระยะสั้นเข้าเก็งกำไรกลุ่มหุ้นที่ปรับขึ้นดีต่อเนื่องอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ (อยู่ในรูปแบบขาขึ้น)
หันมาดูหุ้นที่ปรับตัวลงมาก พบว่ามีหุ้นจำนวนมากที่ปรับตัวลงแรงเกินกว่า 7% ขึ้นไป (หลายตัวติดลบเกือบๆ 20%) ซึ่งมีจำนวนราว 50 ตัวและมักเป็นหุ้นขนาดเล็กมากที่มีการเก็งกำไรรุนแรงในช่วงก่อนหน้า สะท้อนว่าตลาดเริ่มชะลอการเล่นหุ้นร้อน ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะความระมัดระวังต่อมาตรการสกัดจับหุ้นร้อนใหม่ของตลาดหลักทรัพย์ ในขณะที่หุ้นขนาดใหญ่ใน SET50 ปรับตัวลงราว 2-5% ในลักษณะซึมลง จึงสะท้อนว่าตลาดอาจเข้าภาวะ sideway down ไปอีกระยะ
ในภาวะตลาดซึมๆแบบนี้ จึงไม่เหมาะแก่การเข้าลงทุนสำหรับนักลงทุนระยะสั้นที่ลงทุนตาม
แนวโน้ม โดยนอกจากหุ้นส่วนใหญ่จะเป็นขาลงแล้ว ยังคาดเดาได้ยากว่าหุ้นตัวไหนหรือกลุ่มไหนจะกลับมาบวกสวนตลาดได้เนื่องจากไม่มีรูปแบบที่ชัดเจน เว้นแต่นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้มากอาจหาจังหวะเข้าลงทุนเพื่อคาดหวังการรีบาวน์ระยะสั้น หากตลาดเกิดแรงขายตกใจ (Panic Selling) จน SET ปรับลงมาแถว 1460 จุด +/- โดยแนะนำกลุ่มหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีแต่ราคาปรับตัวลงแรงกว่าตลาดมาก ที่น่าสนใจได้แก่ ITD NBC MINT SPALI STEC AP CENTEL RS SIRI SIM (เรียงตามผลตอบแทนจากติดลบมากไปน้อย) ส่วนหุ้น PTTGC PTTEP ก็ปรับตัวลงมากกว่าตลาดแต่ยังไม่ให้เข้าไปเก็งกำไรการรีบาวน์จนกว่าจะเห็นการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบ