- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 05 January 2015 16:16
- Hits: 2005
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
คาด SET ต้อนรับปีใหม่ด้วยการแกว่งตัวสักพัก..ก่อนลุ้นขึ้นต่อ!!
กลยุทธ์ : เนื่องจาก FSS ยังมีมุมมองเชิงบวกกับภาวะ SET ช่วงต้นปีใหม่นี้ ถึงแม้ว่าระยะสั้นตลาดยังมีโอกาสที่จะแกว่งตัวผันผวนต่ออีกสักพัก ดังนั้นเราจึงยังแนะนำให้เน้นถือต่อเนื่องไว้ก่อนได้ โดยถ้าจะเลือกหุ้นเข้าซื้อเพิ่มก็น่ารอช่วงตลาดอ่อนตัวในจังหวะแกว่งก่อน และถ้าเทรดดิ้งตามรอบก็สามารถแบ่งส่วนขายทำกำไรในช่วงบวกบ้าง เพื่อรอซื้อกลับช่วงตลาดปรับลงได้
หุ้นเด่นทางเทคนิค : BJCHI, DCC, TPIPL(short)
แนวโน้ม : SET ติดช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลปีใหม่ ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่ยังมีเปิดทำการในช่วงท้ายของสัปดาห์ที่แล้วอยู่ ซึ่งค่อนข้างไร้ทิศทางเพราะมีทั้งที่เป็นบวกและลบสลับกัน ขณะที่เช้านี้ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่จะเปิดทำการด้านลบ เนื่องจากความวิตกต่อสถานการณ์ของราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ยังอยู่ในช่วงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รุนแรงเท่าช่วงก่อน แต่ก็ยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัว รวมทั้งนักลงทุนผิดหวังต่อข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่เปิดเผยในช่วงต้นปีด้วย นอกจากนี้ตัวเลข PMI ของยูโรโซนก็ขยายตัวต่ำกว่าตัวเลขประมาณการอีก ทำให้ FSS คาดว่า SET ในช่วงต้นของปียังมีโอกาสที่จะแกว่งตัวผันผวนต่อเนื่องอยู่ แต่เราคาดว่าจะมีลักษณะทรงตัวได้ดีขึ้น และเตรียมพร้อมที่จะกลับไปแกว่งตัวบวกในช่วงถัดไปได้ ดังนั้น SET ลงจึงยังเป็นโอกาสเลือกซื้ออยู่
แนวรับ 1495-1493 , 1490-1487 จุด
แนวต้าน 1505-1510 , 1515-1518 จุด
Fund Flow ในปี 2014 ยังไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาค US$22,862 ล้าน เพิ่มขึ้นจาก US$6,985 ล้านในปี 2013 โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไต้หวัน US$13,116 ล้าน เกาหลีใต้ US$5,684 ล้าน อินโดนีเชีย US$3,766 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$1,256 ล้าน และเวียดนาม US$131 ล้าน แต่ขายไทย US$1,091 ล้าน (ปี 2013 ขายไทย US$6,214 ล้าน) แนวโน้ม Flow ปี 2015 น่าจะยังไหลเข้าต่อเนื่อง จากเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ(QE)จากยุโรปและญี่ปุ่น และภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคที่ยังแข็งแกร่ง แต่ปริมาณอาจจะเบาบาง หากเศรษฐกิจสหรัฐเติบโตต่อเนื่องจะกดดันให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงกลางปี 2015
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) ปี 2014 ตลาดหุ้นโลกให้ผลตอบแทนต่ำสุดในรอบ 3 ปีแต่ชนะสินทรัพย์เสี่ยงอื่น น้ำมันเป็นสินทรัพย์ที่น่าผิดหวังที่สุด -46% สินค้าโภคภัณฑ์อื่น -17% ส่วนทองคำลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่สอง -1.5% ขณะที่ตลาดหุ้นโลก +5% ตลาดหุ้นพัฒนาแล้ว (DM) ให้ผลตอบแทนดีกว่าตลาดเกิดใหม่ (EM) ซึ่งลดลง 4% สำหรับตลาดหุ้นเอเชีย ตลาดจีนชนะเลิศ +50% สูงสุดในรอบหลายปี รองลงมาเป็นอินเดีย +29% อินโดนีเซีย +23% ฟิลิปปินส์ +22.8% ไทย +15% ไต้หวัน +8% ญี่ปุ่น +7% สิงคโปร์ +6% ฮ่องกง +1% และมี 2 ตลาดที่ให้ผลตอบแทนลดลงคือ มาเลเซีย -5.4% และเกาหลีใต้ -4.8%
(-) ปี 2014 ต่างชาติขายหุ้นไทยเป็นปีที่ 2 อีก 3.6 หมื่นล้านบาท ต่อเนื่องจากปี 2013 ที่ขาย 1.93 แสนล้านบาท สวนทางกับกองทุนในประเทศที่ซื้อหนัก 2 ปีติดต่อกันอีก 7.1 หมื่นล้านบาทในปี 2014 ส่วนกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดในปีก่อนได้แก่กลุ่มโรงพยาบาล (+48%) รับเหมา (+45%) โลจิสติกส์ (+38%) ส่วนกลุ่มที่แย่สุดคือ ปิโตรเคมี (-24%) พลังงาน (-2%) และยานยนต์ (+7%)
(-) ปัจจัยต่างประเทศกลับมากดดันตลาดรอบใหม่ในเดือนนี้ โดยปกติเดือนมกราคมเป็นเดือนที่ผันผวนที่สุดในช่วงครึ่งปีแรก สถิติ 4 ปีที่ผ่านมา SET ในเดือน ม.ค. มีกรอบแกว่งกว้างถึง 90-100 จุด นอกเหนือจากแรงขายของ LTF ที่ครบกำหนดซึ่งเป็นความเสี่ยงระยะสั้นแล้ว สถานการณ์ในกรีซและรัสเซียอาจเพิ่มความเสี่ยงให้ตลาดหุ้นทั่วโลกในเดือนนี้ และหากราคาน้ำมันยังไหลลงอีกจะสร้างความกังวลมากกว่าจะเป็นข่าวดี ในทางเทคนิค SET ยังมีโอกาสแกว่งตัวผันผวนในกรอบ 1,450-1,560 จุดต่อไปอีกระยะ ก่อนจะกลับเป็นตลาดขาขึ้นจริงจังในช่วงกลาง-ปลาย 1Q15 จึงไม่แนะนำให้ซื้อไล่ราคา แต่เทรดดิ้งตามรอบสั้นๆได้ เรายังมอง SET Target สิ้นปีนี้ที่ 1,680 จุด เน้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการลงทุนภาครัฐและการปรับลงของราคาน้ำมัน คือกลุ่มธนาคาร รับเหมาก่อสร้าง และกลุ่ม ICT สำหรับหุ้นแนะนำเดือนนี้ได้แก่ ADVANC, AIT, CK, GUNKUL, TUF
(0) มุมมองกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมปี 2015 มูลค่าขอส่งเสริมการลงทุนปี 2014 (ถึง 19 ธ.ค.) -3.6% Y-Y ไม่แย่นักเพราะมีผู้เร่งยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนมากในเดือน ธ.ค. ก่อน BOI จะเริ่มใช้เกณฑ์ใหม่ 1 ม.ค. 2015 BOI ตั้งเป้ายอดขอรับการส่งเสริมฯ ปี 2015 ที่ 8 แสนล้านบาท ลดลงกว่า 20% Y-Y เพราะนักลงทุนยื่นขอส่งเสริมฯไปมากแล้วในปีก่อน เราคาดยอดขายที่ดินของ AMATA, HEMRAJ, ROJNA ในปี 2014 ลดลง 41% Y-Y และจะเพิ่ม 52% Y-Y ในปี 2015 คาดกำไรปกติปี 2015 +11% Y-Y ชะลอจากปีก่อนที่คาด +17% Y-Y Top pick คือ AMATA (ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 17.80 บาท)
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดบวกเล็กน้อยท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนโดยนักลงทุนผิดหวังต่อตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาต่ำกว่าคาด
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดในแดนลบหลังตัวเลข PMI ภาคการผลิตเดือน ธ.ค. ของยูโรโซนขยายตัวต่ำกว่าคาด
ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ในแดนลบจากบรรยากาศการลงทุนที่ไม่สดใสจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าคาดรวมถึงราคาน้ำมันดิบที่ยังดิ่งลง
ค่าเงินบาทเริ่มขยับอ่อนค่าลงต่อเนื่อง ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 32.97-33.08 บาท/ดอลลาร์
น้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ปิดที่ 52.69 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.58 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยนักลงทุนยังวิตกกังวลต่ออุปทานที่ยังคงล้น รวมถึงตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น
ทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ปิดที่ 1,186.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ขยับขึ้น 2.10 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ต่ำกว่าคาด
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
5 ม.ค. - ไทย: อัตราเงินเฟ้อ (ธ.ค.)
6 ม.ค. - จีน: HSBC China Composite PMI (ธ.ค.)
- สหรัฐ: Markit Composite PMI (ธ.ค.), Factory order (พ.ย.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ธ.ค.)
7 ม.ค. - สหรัฐ: การจ้างงานภาคเอกชน (ธ.ค.)
8 ม.ค. - ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ธ.ค.)
- จีน: ดุลการค้า (ธ.ค.)
- สหรัฐ: รายงานการประชุม FOMC ของวันที่ 16-17 ธ.ค.
- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ธ.ค.)
9 ม.ค. - จีน: ยอดสินเชื่อ (ธ.ค.), อัตราเงินเฟ้อ (ธ.ค.)
- สหรัฐ: การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงาน (ธ.ค.)
14 ม.ค. - สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (ธ.ค.)
- ยูโรโซน: Industrial Production (พ.ย.)
15 ม.ค. - เกาหลีใต้: ธนาคารกลางประชุม
16 ม.ค. - สหรัฐ: อัตราเงินเฟ้อ (ธ.ค.)
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (ธ.ค.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852