- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 30 December 2014 13:53
- Hits: 1713
บล.เคเคเทรด : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET คาดปิดแถว 1500 จุด
SET View : แนวโน้มวันนี้เป็นลบ มองกรอบเคลื่อนไหว 1,480 – 1,500 จุด
เราคาดว่าวันนี้จะมีแรงขายทำกำไรหุ้นกลุ่มพลังงานช่วงเปิดตลาด หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงทำจุดต่ำสุดใหม่ โดยราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลงมาที่ US$56 ต่อบาร์เรลระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี แต่เราคาดว่านักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงชะลอการลงทุนในช่วงวันหยุดยาว น่าจะมีแรงขายทำกำไรออกมาวันนี้ไม่มาก ขณะเดียวกันยังเชื่อว่า SET จะสามารถรีบาวน์กลับมาปิดแถว 1500 จุดได้จากการทำ Window Dressing ของบรรดาผู้จัดการกองทุน อย่างไรก็ตามปัจจัยเสี่ยงที่รอเราอยู่ในต้นปีหน้ายังไม่พ้นเรื่องรัสเซีย โดยเมื่อวานนี้ ค่าเงินรูเบิ้ล ได้กลับมาอ่อนค่าถึง 9% ภายในวันเดียว หลังการประกาศตัวเลข GDP ลดลงครั้งแรกในรอบ 5 ปี เราเชื่อว่าความวิตกต่อเงินทุนหนีออก (Capital Flight) ที่จะสั่นคลอนระบบการเงินในยุโรปกลับมาอีกครั้ง เรามองความเสี่ยงที่พันธบัตรรัสเซียถูกปรับลดความน่าเชื่อลงในไม่ช้า แย่สุดรัสเซียอาจต้องออกมาตรการควบคุมเงินไหลเข้า/ออก เนื่องจากหนี้สินต่างประเทศของรัสเซียมีอยู่ราว 1.7 เท่าของทุนสำรอง และเราไม่รู้ขนาดของธุรกรรมการเงินระหว่างรัสเซียกับภูมิภาค ประเด็นนี้จะกดดันจิตวิทยาการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง อาทิตลาดหุ้นไทยใน 1-2 เดือนข้างหน้า ทางเทคนิค SET อยู่ในช่วงของการปรับฐานโดยจะมีแนวต้านสำคัญบริเวณ 1520 จุดและมีแนวรับสำคัญบริเวณ 1460 จุด
กลยุทธ์การลงทุน เก็งกำไรระยะ 1-2 วัน ชะลอการลงทุนกลับมาถือครองเงินสด รับความเสี่ยงได้มากหาจังหวะลงแรงซื้อ-รีบาวน์ขึ้นขาย ไม่แนะนำถือครองหุ้นข้ามปี
Top Daily Pick : NOK (ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงขาลง ผันผวนจากฤดูกาลท่องเที่ยวน้อยกว่า AAV ) /LPN (ราคาหุ้นลงแรงกว่ากลุ่มสะท้อนยอดโอนต่ำกว่าเป้าของผู้บริหารไปแล้ว แต่เรามองบวกต่อการเติบโตก้าวกระโดดปี 58)
Technical Pick : SAMART DCON CPF DTAC EGCO
Theme Play : LH (ราคาหุ้น laggard กลุ่มขณะที่ 4Q57 จะเป็นไตรมาส ดีที่สุดของปีจากงานในมือรอรับรู้รายได้กว่า 2.2 หมื่นล้านบาทและกำไรพิเศษจากกองทุน REIT) หุ้นยอดนิยมที่ราคาปรับลงมาแรงจากสัปดาห์ก่อน (ITD NBC MINT PTTGC TRUE SPALI) / ADVANC INTUCH ผลประกอบการปี 58 จะกลับมาโตชัดเจนจากต้นทุนดำเนินงานลดลง
พอร์ตลงทุน
Trading : AMATA BCP KAMART MFEC MODERN SIM WORK
Growth : HOTPOT SNC TOP TUF WORK
Dividend : BBL EGCO KAMART MODERN PTTGC SNC SRICHA
Quant : AH BTS EGCO MODERN MSC PTG TUF
รายงานวันนี้
Comment : NBC (แนะนำ “ซื้อ” มูลค่าเหมาะสม 6.00 บาท) ปัญหากลุ่มทุนใหม่ไม่น่ากังวล
Fundamental Talk
SPALI LPN LH โดดเด่นสุดในกลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัยปี 58
แม้เศรษฐกิจโดยรวมในปี 2557 ชะลอตัว แต่ผู้ประกอบการกลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัยค่อนข้างระมัดระวังในการเปิดโครงการใหม่ โดยคาดทั้งปีนี้จะมีการเปิดตัวโครงการใหม่รวม 2 แสนล้านบาท ลดลง 13% YoY แต่ราคาหุ้นกลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่กลับปรับขึ้นเฉลี่ย 22% YTD ดีกว่า SET โดยมีหุ้นหลายตัวที่เราศึกษา ได้แก่ RML SPALI PS AP LPN ปรับขึ้นมากกว่า 50% YTD จากการรับรู้รายได้โครงการเก่าเป็นจำนวนมากหรือสามารถขายโครงการใหม่ได้ดีกว่าเป้า สำหรับแนวโน้มในปี 2558 แม้ผู้ประกอบการมีความหวังรอการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมากขึ้นแต่ระดับหนี้ภาคครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูงอาจกดดันการขยายตัวสินเชื่อ ขณะที่ความผันผวนของส่งออกอาจกดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดังนั้นเราจึงคาดว่าหุ้นที่มีงานในมือรอบันทึกรายได้ (Backlog) สูงๆยังคงเป็นตัวที่ outperform กลุ่มในปีหน้า
แนวโน้ม 4Q57 ของหุ้นกลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัยใน kktrade coverage ผู้ประกอบการโดยรวมมียอดเปิดตัวโครงการใหม่ราว 5 หมื่นล้านบาทใกล้เคียงกับ 3Q57 โดย SPALI กับ QH มียอดเปิดตัวสูงที่สุด ยอดใกล้กันที่ 1.1 หมื่นล้านบาท ส่วน AP กับ LH จะมียอดโครงการใหม่น้อยที่สุด ด้านกำไร LH จะโดดเด่นที่สุดจากแผนโอนกรรมสิทธ์จำนวนมากและการขาย REIT ส่วน SPALI PS SIRI LPN ประเมินว่าจะเป็นกลุ่มที่กำไรจะเติบโต ทั้งQoQ และ YoY จากยอดโอนคอนโดมีเนียม ในขณะที่ AP กับ RML มีแผนรับรู้รายได้ไม่มากคาดจะหดตัว QoQ และ YoY
กลยุทธ์การลงทุน หุ้นกลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่มักจะเป็นหุ้นที่เคลื่อนไหวแนบแน่นไปตามทิศทางตลาด ปัจจุบันแนวโน้ม SET ที่ยังอยู่ในขาลงจึงมีความเสี่ยงที่จะเข้าลงทุนหุ้นกลุ่มนี้ แนะนำให้อาศัยจังหวะที่ราคาอ่อนตัวตามภาวะตลาดเป็นโอกาสค่อยๆทยอยเข้าสะสมเพื่อรอการฟื้นตัวช่วง 2Q58 โดยหุ้นที่น่าสนใจได้แก่ SPALI LPN LH
SPALI (ซื้อ / มูลค่าที่เหมาะสม 32.7) ยังคงเป็น Top pick ของกลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัย โดยในปี 57 เป็นหุ้นที่ perform ดีที่สุดในกลุ่มอสังหาฯจากการเปิดตัวโครงการใหม่และรับรู้รายได้เป็นจำนวนมาก ในขณะที่รักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ได้ดี โดยใน 4Q57 ยังคงเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่าราว 1.1 หมื่นล้านบาทสูงที่สุดในกลุ่ม และมีงานในมือรองรับรายได้ปี 58 เทียบยอดขายสูงเป็นอันดับสองของกลุ่มที่ 81% รองจาก LPN
LPN (เก็งกำไร / มูลค่าเหมาะสม 23.20 บาท) โดดเด่นที่มีงานในมือรอรับรู้รายได้มากสุดในกลุ่มมูลค่ากว่า 1.6 หมื่นล้านบาท และคิดเป็นสัดส่วนเทียบยอดขายสูงเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มที่ 83% หากในปี 58 รับรู้ Backlog จำนวนนี้ได้สำเร็จทั้งหมด รายได้จะเติบโตก้าวกระโดดกว่า 50%
LH (ซื้อ / มูลค่าเหมาะสม 11.9 บาท) แม้ LH ไม่โดดเด่นเรื่อง Backlog และโครงการใหม่เปิดตัวในช่วงปลายปีน้อย แต่ 4Q57 จะเป็นไตรมาสที่บันทึกกำไรมากที่สุดของปี 57 จากกำไรจากเงินขายกองทุน LHSC ราว 1-1.2 พันล้านบาทมารวมกับแผนโอนกรรมสิทธ์คอนโดสองแห่งราว 6 พันล้านบาท และจะเป็นไปตามเป้าทั้งปีที่ 3.2 หมื่นล้านบาท รวมถึงราคาหุ้นยัง Laggard กลุ่ม และมีสินทรัพย์แฝงเพิ่มมูลค่าในบริษัทย่อยทั้ง HMPRO, LHBANK และ QH) มีสินทรัพย์แฝงที่รอ unlock value
Smart Port Note
Beta ของพอร์ตลงทุนแสดงถึงความเสี่ยงของหุ้นในพอร์ตเทียบกับ ตลาด SET หากค่า Beta สูงกว่าหนึ่งเท่า แสดงถึงความเสี่ยงของ พอร์ตลงทุนที่สูงกว่า SET
Growth Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.78
Trading Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.86
Dividend Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.73
Quant Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.55