WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

Today's Selection : BJC, TTA, AOT, SCB
Follow Buy : -
Follow Sell : -

 

Sideway up ปัจจัยใน-นอกหนุน
       ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดในแดนบวก หลังนักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเพิ่มขึ้นแตะระดับ 81.9 จุด และดัชนี PMI ที่ระดับ 65.5 จุด สูงสุดในรอบ 7 เดือน
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ คาดเคลื่อนไหว Sideway up จากปัจจัยบวกทั้งภายในและภายนอก โดยสุดสัปดาห์ทีผ่านมาไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงจากการชุมนุมต่อต้านรัฐประหาร อีกทั้ง Roadmap ทั้ง 3 ระยะของ คสช. มีความชัดเจนมากขึ้น โดยมีแผนที่จะเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ เช่นโครงการโครงสร้างพื้นฐาน การท่องเที่ยว การลงทุน การบริโภค และการจัดตั้งรัฐบาล โดยทางคณะฯ จะสรุปมาตรการผลักดันการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในเดือน มิ.ย. นี้ อย่างไรก็ดี เรามองว่ามี 2 ปัจจัย ให้ต่างชาติเทขายหุ้นไทย ได้แก่ (1) การปรับเปลี่ยนบอร์ดกรรมการรัฐวิสาหกิจทั้ง 58 บริษัท ซึ่ง คสช. ระบุว่าการปรับเปลี่ยนจะต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย (2) การปฎิรูปโครงสร้างพลังงาน เพื่อให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ทั้งนี้เรามองว่ากลุ่ม PTT ยังมีความเสี่ยงจากทั้ง      2 ประเด็น ซึ่งยังคงต้องติดตามความชัดเจนภายใน 2 สัปดาห์นี้
      ดัชนี PMI ภาคการผลิตจีนเดือน พ.ค. อยู่ที่ระดับ 50.8 จุด ขยายตัวมากสุดในรอบกว่า 5 เดือน และสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ตลาดคลายความกังวลว่า GDP ปี 57 ของจีนอาจขยายตัวไม่ถึง 7.3% นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลัง รัฐบาลจีนมีนโยบายปรับลด Reserve requirement ให้แก่ธนาคารพาณิชย์ ซึ่งเรามองว่าส่งผลบวกต่อสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น สินแร่เหล็ก ถ่านหิน และค่าระว่างเรือ
      ค่าเงินบาทเช้านี้ อยู่ที่ 32.82-32.86 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าตามทิศทางสกุลเงินของตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย อย่างไรก็ตาม เรายังคงมุมมองเดิมว่าแรงขายต่างชาติเริ่มอ่อนตัวลง หลังแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้ง 3 ระยะ มีความชัดเจนมากขึ้น
      กลยุทธ์การลงทุน : แนะนำ Let profit run เนื่องจากคาดการณ์การปรับตัว Sideways up ของ SET Index ในเดือนนี้จากการประกาศนโยบายผ่อนคลายทางการเงินของ ECB และนโยบายเศรษฐกิจในประเทศที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น แนะนำสะสมหุ้น 10 บริษัทตามบทวิเคราะห์ Big Picture ประจำเดือนมิถุนายนซึ่งได้แก่ CPALL, BJC, SCB, ANAN, MACO, AMATA, HEMRAJ, TICON, AAV, NOK

 

Stock S R Comment
BJC 46.00 48.00 ภาคการบริโภคเริ่มฟื้น หนุนผลการดำเนินงานครึ่งหลัง
TTA 21.00 21.50 BHSI ฟื้นตัว คาด 3Q57F ยังมีกำไร
AOT 185.00 191.00 อานิสงส์ฟื้นฟูท่องเที่ยว-การเมืองผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว
SCB 160.00 164.00 laggard หุ้นที่ฟื้นตัวตาม roadmap คสช.

แนวรับ 1,395 แนวต้าน 1,430

หุ้นมีข่าว :
       คสช.สั่งตรึง "ดีเซล-แอลพีจี" เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนประชาชน พร้อมเตรียมแพกเกจใหญ่กระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ลั่นในเดือน มิ.ย. นี้ ต้องเสร็จ ทั้งนี้ เรามองว่าการตรึงราคา LPG นั้น ไม่ได้ส่งผลลบต่อ PTT เนื่องจากเป็นการคงราคาขาย ไม่ได้ปรับเปลี่ยนราคารับซื้อจาก PTT ขณะที่ การคงราคาน้ำมันดีเซล ส่งผลลบทางอ้อมต่อค่าการตลาดขอธุรกิจค้าปลีก ของ BCP และ PTT โดยในกรณีที่ค่าการกลั่นน้ำมันดีเซลปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ค่าการตลาดถูกบีบลดลง ประเมิน EBITDA ต่อปี ของ BCP และ PTT ลดลง 360 ล้านบาท และ 1,250 ล้านบาทหากจาก sensitivity analysis ภายใต้สมมติฐานค่าการตลาธุรกิจขายปลีกในประเทศลดลง 10 สตางค์ต่อลิตร (BCP ซื้อ ราคาเป้าหมาย 36.25 บาท PTT ซื้อ ราคาเป้าหมาย 369 บาท)
'ทีวีดิจิตอล' โอด 2 เดือนรายได้ต่ำเป้าจี้เร่งแจก'คูปอง' โดยภาพรวมการออกอากาศทีวีดิจิตอล ตั้งแต่การทดลองออกอากาศวันที่ 1 เม.ย.จนถึงปัจจุบัน พบว่าส่วนใหญ่ยังคงพบปัญหารายได้โฆษณาไม่เข้าเป้า

      ปัจจัยหลักมาจากปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ รวมถึงคำสั่งระงับการออกอากาศของ คสช. ส่งผลให้เอเยนซี่โฆษณาระมัดระวังการใช้เงินกระทบรายได้ โดยในวันที่ 5มิ.ย.ทางชมรมผู้ประกอบการโทรทัศน์ระบบทีวีดิจิตอล พร้อมตัวแทนจากสถานีโทรทัศน์ช่องรายการต่างๆ ในระบบทีวีดิจิตอลจะเดินทางทางไปยื่นหนังสือต่อ กทปส. เพื่อขอความชัดเจนต่อบอร์ดประเด็นระยะเวลาการอนุมัติให้แจกคูปอง ก่อนนำส่งเรื่องไปให้ กสทช. อนุมัติในขั้นตอนสุดท้ายหลังจากยืดเยื้อมานาน เราจึงยังคงแนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนในกลุ่มสื่อผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล เช่น GRAMMY RS BEC MCOT WORK อย่างไรก็ตามมอง VGI และ MACO บเป็นสื่อทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากไม่ได้รับผลกระทบจากประเด็นดังกล่าว
นักวิเคราะห์ :
ดุลเดช บิค, CFA, FRM, CAIA (ID: 29932)
E-mail: [email protected]
ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!