- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 25 December 2014 15:55
- Hits: 1342
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
คาด SET ยังมีสิทธิแกว่งผันผวนต่อเนื่อง ดังนั้นทยอยซื้อเฉพาะช่วงลบ..
กลยุทธ์ : คาดว่า SET ยังอยู่ในช่วงแกว่งตัวผันผวนและมีจังหวะปรับย้อนลบได้อยู่อีกสักพัก ดังนั้นช่วงนี้ FSS จึงไม่แนะนำให้ซื้อตามในลักษณะไล่ราคา แต่ให้รอซื้อช่วงตลาดอ่อนตัวลงดีกว่า และสามารถหาจังหวะขายทำกำไรช่วงบวกบ้างเพื่อลดความเสี่ยงจากการผันผวนได้ด้วย แต่ถ้าเป็นส่วนถือลงทุนระยะกลาง-ยาว เรายังแนะนำให้เน้นถือต่อเนื่องมากกว่า เพราะคาดว่า SET ยังมีลุ้นกลับไปแกว่งตัวขึ้นต่ออย่างจริงจังอีกครั้งในต้นปีหน้า
หุ้นเด่นทางเทคนิค : ECF, KC, BCH(buy back)
แนวโน้ม : เมื่อคืนนี้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐด้านแรงงานยังออกมาดีเกินคาดต่อเนื่อง ช่วยกระตุ้นให้ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปปิดบวกต่อเนื่อง แต่ก็ถือว่าเริ่มมีจังหวะแกว่งตัวผันผวนมากขึ้นและกรอบบวกยังจำกัด หลัง EIA เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ ทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของอุปสงค์พลังงานในสหรัฐ ขณะที่เช้านี้ตลาดหุ้นในเอเชียปิดทำการเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ SET ค่อนข้างขาดปัจจัยชี้นำ รวมทั้งช่วงที่ผ่านมา SET ก็ดีดกลับขึ้นมามากพอควร จึงทำให้เริ่มมีแรงขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงจากการผันผวนออกมากดดันมากขึ้น ซึ่ง FSS คาดว่าตลาดหุ้นไทยยังมีแนวโน้มปรับพักตัวลงได้อีก อย่างไรก็ตามเราคาดว่า SET จะแกว่งผันผวนและมีรอบปรับพักในกรอบจำกัดนี้แค่เพียงช่วงสั้นๆ เท่านั้น โดยคาดว่าหลังจากเข้าสู่ปี 2015 แล้ว นักลงทุนจะเริ่มกลับเข้ามาเลือกซื้อหุ้นจริงจังอีกครั้ง เพื่อตอบรับกับคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจไทยที่น่าจะเริ่มดูดีขึ้นเป็นลำดับ ดังนั้นเรายังแนะนำให้เลือกหุ้นเข้าซื้อในช่วงตลาดเป็นลบได้ ส่วนถ้าเทรดดิ้งสั้นตามรอบก็สามารถดูจังหวะขายช่วงบวกเพื่อลดความเสี่ยงจากการผันผวนของตลาดได้ด้วย
แนวรับ 1520 , 1515-1510 จุด แนวต้าน 1530-1532 , 1535-1540 จุด
Fund Flow วานนี้ยังไหลออกจากตลาดหุ้นภูมิภาคในปริมาณที่เบาบางต่อเนื่อง นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นอินโดนีเซีย US$222.9 ล้าน แต่ซื้อไต้หวัน US$101.6 ล้าน ไทย US$3.6 ล้าน และเวียดนาม US$3.6 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้ค่อนข้างนิ่ง Flow น่าจะเบาบางต่อเนื่อง เพราะหลายตลาดในภูมิภาคปิดทำการเนื่องในวันคริสต์มาส ยกเว้นไทย
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) ปัญหาเศรษฐกิจของรัสเซียกระทบภาคส่งออกและท่องเที่ยวของไทย GDP ของรัสเซียในปีหน้ามีแนวโน้มหดตัวถึง 4-5% และใช้เวลากว่า 1 ปีจึงฟื้นตัว กระทบไทย 2 ส่วนคือส่งออกและท่องเที่ยว ด้านส่งออก ผลกระทบไม่มีนัยเพราะรัสเซียมีสัดส่วนเพียง 0.5% ของตลาดส่งออกรวม แต่ด้านท่องเที่ยวถูกกระทบมากกว่า เพราะนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียทำรายได้เข้าไทยสูงเป็นอันดับ 2 รองจากจีน ช่วง 11M14 ชาวรัสเซียเข้ามาเที่ยวไทยลดลง 5% Y-Y เฉพาะเดือน พ.ย. ลดลง 21% Y-Y แม้รายได้ท่องเที่ยวในปี 2015 จะโตต่ำกว่าที่ควรจะเป็น แต่ยังดีที่ถูกชดเชยบางส่วนจากชาวจีนและเอเชีย เราชอบกลุ่มท่องเที่ยวน้อยลงกว่าเดิม แต่หุ้นเด่นในกลุ่มนี้ยังคงเป็น AAV (ราคาเป้าหมาย 5.40 บาท) และ MINT (ราคาเป้าหมาย 42 บาท) อย่างไรก็ตาม กลุ่มที่เราชอบสำหรับลงทุนในปีหน้าคือ แบงก์ รับเหมา สื่อสาร สำหรับบริษัทไทยที่เข้าไปลงทุนในรัสเซียมีจำนวนน้อยเช่น CPF และสาขาของธนาคาร แต่แทบไม่กระทบเพราะมีธุรกรรมน้อยมาก
(-) PTT เราคาดกำไรสุทธิใน 4Q14 ลดลงถึง 77% Q-Q และ 66% Y-Y จากการตั้งด้อยค่าสินทรัพย์ที่ไปลงทุนในต่างประเทศของ PTTEP และผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันของบริษัทลูกในธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมี ขณะที่ธุรกิจท่อก๊าซของ PTT เองคาดมีกำไรเพิ่มเล็กน้อยทั้ง Q-Q และ Y-Y เราปรับกำไรสุทธิปีนี้ลง 14% เหลือ 8.81 หมื่นล้านบาท ลดลง 7% Y-Y และปรับกำไรสุทธิปี 2015 ลง 18% เป็น 8.84 หมื่นล้านบาทใกล้เคียงปีนี้ จากการปรับราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยลงเหลือ US$70/บาร์เรล จาก US$90/บาร์เรล ราคา NGV และ LPG ที่ปรับขึ้นไม่สามารถช่วยให้กำไรเติบโตได้ และปรับเป้าหมายปี 2015 ลงเป็น 350 บาทจาก 390 บาท ราคาหุ้นที่รีบาวนด์ขึ้นมาหลังร่วงไปก่อนหน้านี้ทำให้ upside จำกัด จึงยังคงแนะนำเพียงถือ
(+) มุมมองกลุ่มรับเหมาก่อสร้างปี 2015 เรายังคงน้ำหนัก Overweight โดยคาดหวังว่าการลงทุนของภาครัฐจะเพิ่มขึ้น 8% ในปีหน้า จากปีนี้ที่คาดลดลง 8.2% เพราะการประมูลโครงการขนาดใหญ่ในปีนี้มีเพียงโครงการเดียวคือรถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต วงเงิน 2.9 หมื่นล้านบาท (ผู้ชนะคือ ITD, STEC, UNIQ) แต่เชื่อว่าจะเห็นงานประมูลขนาดใหญ่มากขึ้นในปีหน้าด้วยงบลงทุนของกระทรวงคมนาคม 5.6 หมื่นล้านบาท และคาดการลงทุนภาคเอกชนกลับมาขยายตัว 7.5% หลังการเมืองนิ่ง เรายังคงประมาณการกำไรปกติของทั้งกลุ่มในปี 2014-15 ลด 1% Y-Y และฟื้นตัว 10% Y-Y กลุ่มรับเหมาจะได้ประโยชน์จากต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่จะลดลงตามราคาน้ำมัน Top pick คือ CK (ราคาเป้าหมายปี 2015 ปรับขึ้นเป็น 33 บาทจาก 30 บาท) ส่วน STEC มีราคาเป้าหมาย 28 บาทและ ITD มีราคาเป้าหมาย 8.10 บาท ราคาหุ้นที่ปรับลงระยะนี้เป็นโอกาสดีในการทยอยสะสมรองานประมูลใหม่ๆมากขึ้นในปีหน้า
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมายังขยับขึ้นได้อีกเล็กน้อยและทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้ต่อเนื่องโดยบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 6 จากตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดผสม โดยนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนถึงช่วงวันหยุดในเทศกาลคริสต์มาส
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้หลายประเทศปิดทำการเนื่องในวันคริสต์มาส ส่วนตลาดที่เปิดอยู่ปรับตัวในกรอบแคบ
ค่าเงินบาทยังแกว่งตัวออกทางข้าง ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 32.80-33.94 บาท/ดอลลาร์
น้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ร่วงลง 1.28 ดอลลาร์ ปิดที่ 55.84 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นจากการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นขณะที่โรงกลั่นในประเทศยังคงกำลังการผลิต
ทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ลดลง 4.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,173.50 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัญฯออกมาแข็งแกร่งซึ่งทำให้นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
25 ธ.ค. - ตลาดหุ้นที่ปิดทำการมี ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ อินเดีย และสหรัฐฯ
26 ธ.ค. - ตลาดหุ้นที่ปิดทำการมี ฮ่องกง อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์
- ไทย: ดุลการค้า (พ.ย.), LHSC เริ่มเทรด
30 ธ.ค. - ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน พ.ย.
- สหรัฐ: S&P/Case Shiller Index (ต.ค.)
31 ธ.ค. - ตลาดหุ้นที่ปิดทำการมี ฮ่องกง อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ และไทย
- จีน: HSBC China Manufacturing PMI (ธ.ค.)
- สหรัฐ: Pending Home Sales (พ.ย.)
1 ม.ค. - ไทย: อัตราเงินเฟ้อ (พ.ย.)
- จีน: Manufacturing PMI (ธ.ค.)
- สหรัฐ: ISM Manufacturing (พ.ย.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Manufacturing PMI (พ.ย.)
3 ม.ค. - จีน: HSBC China Composite PMI (พ.ย.)
- สหรัฐ: การจ้างงานภาคเอกชน (พ.ย.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852