- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 19 December 2014 15:18
- Hits: 1977
บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Trigger Fund
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้เปิดทะลุแนว 1,500 จุดขึ้นไปแกว่งกรอบแคบ 1,500-1,510 จุด ขณะที่เกิดแรงซื้อหุ้นหลักช่วงปิดตลาด ผลักดันให้ SET INDEX ขยับขึ้นปิดที่ 1,516.79 จุด บวกเป็นวันที่ 2 มากถึง 36.59 จุด หรือ 2.47% แต่มูลค่าการซื้อขายลดลงเหลือ 52,120 ล้านบาท ผลักดันด้วย PTT / PTTEP เหมือนวันก่อน
ต่างชาติ ลดน้ำหนักการลงทุนตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 7 ลดลงเหลือ 1,198 ล้านบาท Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 5,239 สัญญา แต่คงการขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 5 อีก 1,187 ล้านบาท จะเห็นว่าเงินทุนต่างชาติเริ่มชะลอการลดน้ำหนักการลงทุนในไทย
ปัจจัยสำคัญวันนี้
• ติดตามการประชุม BoJ วันนี้
• กองทุนทริกเกอร์ฟันด์ของ UOBAM วงเงิน 3 พันล้านบาท ปิดการขายวานนี้ คาดเงินทุนเริ่มลงทุนวันนี้ ส่วนที่เหลือ 5 กองทุน วงเงิน 5 พันล้านบาทคาดเริ่มลงทุนต้นสัปดาห์หน้า
• การเซ็นต์ MoU กับรัฐบาลจีน ในโครงการรถไฟรางคู่วันนี้ เป็นบวกต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
• ตลท. ประกาศรายชื่อหุ้นใน SET50 / SET100 รอบเดือนม.ค.- มิ.ย. 2558 ดังนี้
SET50 Index: เพิ่ม CK / HEMRAJ / KTIS / SPALI และ ออก BLA / GLOBAL / KKP/ THCOM
SET100 Index: เพิ่ม ANAN / DEMCO / HANA / ICHI / KTIS / PTG/ SAWAD / SF / SGP / SIM และ ออก BLA / DCC / ESSO / MCOT / NYT / RS/ SRICHA/ TASCO/ THRE/ WHA
ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า
• เงินทุนใหม่จากการทยอยปิดขาย IPO กองทุนทริกเกอร์อีก 5 กองทุน วงเงิน 5.0 พันล้านบาท
• การปิดทำการในตลาดหุ้นหลายประเทศวันที่ 25 ธ.ค. คาดเงินทุนต่างชาติชะลอตัวจากนี้ไป
• ติดตามการประชุมครม. ทุกวันอังคาร อาจพิจารณาประเด็นด้านเศรษฐกิจเพิ่มเติม
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองต่อการลงทุนเป็น “กลาง” เป็นวันที่ 3 แม้ว่า SET INDEX วานนี้จะปิดดีกว่าคาดที่ 1,516.79 จุด จากการ Covered Short หุ้น PTT / PTTEP / KBANK และแรงขายจากต่างชาติชะลอตัว สำหรับทิศทางตลาดหุ้นไทยในวันสุดท้ายของสัปดาห์ เราคาด SET INDEX จะยังพยายามไต่ระดับขึ้นทดสอบ 1,520-1,525 จุด แต่จะเผชิญกับแรงขายทำกำไรมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง PTT / PTTEP ที่ฟื้นตัวกว่า 10% ในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา น่าจะมากเพียงพอต่อการทำ Covered Short และสะท้อนราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวในระดับต่ำ เพียงแต่ Downside risk ในช่วงที่เหลือของเดือนธ.ค.เป็นไปอย่างจำกัด จากเม็ดเงินทุนใหม่ทั้งจากทริกเกอร์ฟันด์ที่เริ่มทยอยลงทุนในวันนี้และต่อเนื่องสัปดาห์หน้า รวมถึงการทำ Window Dressing
ประเด็นรัสเซีย นักลงทุนยังมีความจำเป็นต้องติดตามต่อเนื่อง ทั้งการเคลื่อนไหวค่าเงินรูเบิ้ล และ ตลาดหุ้นรัสเซีย เพื่อประเมินความผันผวนของสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก และการเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเภทของสินทรัพย์ ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้
ตลาด Nikkei / Kospi เช้านี้ (7.12 น) เปิดบวกกว่า 1% ทั้ง 2 ตลาด สอดคล้องกับ DJIA คืนวานนี้ และสถานการณ์ในรัสเซีย เริ่มทรงตัว
กลยุทธ์การลงทุน
เราแนะนำให้ “นักลงทุนที่ทยอยสะสมมาตลอด 3-4 วันทำการก่อนหน้า พิจารณาขายทำกำไรราวครึ่งหนึ่งของพอร์ตเทรดดิ้ง” แล้วกลับมาถือเงินสดให้มากขึ้น หรือหากต้องการเก็งกำไรต่อเม็ดเงินผ่านกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ ควรจำกัดวงเงินพร้อมกำหนดจุดสต็อปลอส เป็นเงื่อนไขสำคัญ
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “เก็งกำไร” ได้แก่
1. AAV : ราคาปิด 4.68 บาท ราคาเหมาะสม 4.90 บาท
a) MBKET คงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มสายการบิน เนื่องจากได้ประโยชน์โดยตรงต่อราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง และส่งผลบวกโดยตรงต่อผลประกอบการปี 2558
b) คาดผลประกอบการ 4Q57 จะพลิกเป็นกำไรสุทธิ เพราะเป็น High Season ของธุรกิจท่องเที่ยว จึงส่งผลบวกโดยตรงต่อ Loading Factor ของ AAV ทั้งเส้นทางในประเทศ และเส้นทางต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวจากจีนซึ่งเป็นฐานลูกค้าสำคัญของบริษัท
c) และราคาน้ำมันดิบ NYMEX ที่ปรับตัวลงมากถึง -40.6% QTD ใน 4Q57 เหลือ US$54.11/barrel (สิ้นสุดวันที่ 12 ธ.ค.) ย่อมส่งผลบวกโดยตรงต่อต้นทุนเชื้อเพลิงซึ่งเป็นต้นทุนหลักให้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญใน 4Q57 – 1Q58 และมีโอกาสที่จะเป็น Positive Surprise ให้กับตลาด
d) ซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี ที่ระดับเพียง PBV 2558 เพียง 0.85 เท่า และคาดว่ากำไรสุทธิปี 2558 จะเติบโตสูงถึง +873.5% yoy เป็น 1,577 ล้านบาท
2. KTB : ราคาปิด 22.90 บาท ราคาเหมาะสม 27.00 บาท
a) MBKET คาดว่าราคาหุ้นจะตอบรับเชิงบวก จากการเซ็น MOU โครงการรถไฟฟ้ารางคู่ระหว่างรัฐบาลไทย - จีนในวันนี้ เนื่องจาก KTB มีสัดส่วนการปล่อยกู้ให้กับโครงการภาครัฐฯสูงที่สุดในกลุ่มธนาคาร
b) คาดสินเชื่อ 4Q57 ขยายตัว qoq จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐฯ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่การตั้งสำรองคาดว่าจะเข้าสู่ระดับปกติ และส่งผลให้กำไรสุทธิ 4Q57 ขยายตัว qoq และต่อเนื่องถึงปี 2558
c) คาดกำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +12.9% yoy เป็น 38,054 ล้านบาท และมี Valuation ที่ยังไม่สูงมากนัก โดยซื้อขายระดับ PBV 2558 ที่ 1.28x ต่ำกว่าธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ เช่น KBANK 1.88x, SCB 1.94x และ BAY 1.82x เป็นรองเพียงแค่ BBL ที่ซื้อขาย 1.07x เท่านั้น
a) ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดี โดยคาดการณ์เงินปันผลปี 2557 หุ้นละ 1.00 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 4.3% สูงที่สุดในหุ้นธนาคารขนาดใหญ่ เนื่องจาก KTB จ่ายเงินปันผลปีละ 1 ครั้ง