- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 18 December 2014 16:51
- Hits: 2256
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“ไม่ยืนเหนือ 1500 ขายก่อน...ยืนได้ถือต่อ”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : BCP, TOP (จากถือเป็นซื้อ), PTTEP (จากถือเป็น Fully Valued)ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : เมื่อวานตลาดรีบาวด์ ปิดบวก 18.46 จุด ที่ 1480.20 นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานที่ร่วงแรงในช่วงก่อนหน้า ผนวกกับการซื้อกลับแบงค์ใหญ่อย่าง BBL นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อ 5.8 พันล้านบาท พอร์ตบล.ขายสุทธิ 1 พันล้านบาท สถาบันในประเทศและรายย่อยซื้อสุทธิ สำหรับตลาด SET50 Futures สถาบันในประเทศทำ Net Long ขณะที่ต่างชาติและรายย่อยทำ Net Short แต่จำนวนสัญญาที่ต่างชาติทำ NetShort น้อยลงไปมาก
สำหรับวันนี้ บรรยากาศการลงทุนดีขึ้น ปัจจัยหนุนหลัก คือ การที่เฟดส่งสัญญาณคงอัตราดอกเบี้ยต่ำต่อไป ราคาน้ำมันดิบเริ่มมีรีบาวด์เล็กน้อย ค่า VIXS&P500 ลดลงต่ำกว่า 20% (หลังขึ้นไป 23.6% ในวันก่อนหน้า) ขณะที่กนง.ของไทยคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.00% ก่อน และเก็บกระสุนนี้ไว้ใช้เมื่อจำเป็นในปี 58 เรายังคงให้กลยุทธ์การลงทุนเป็น การเลือกและทยอยซื้อหุ้นพื้นฐานดีเพื่อลงทุน สำหรับหุ้นที่อยู่ใน Shopping List ของเรา ได้แก่KBANK, TMB, CK, STEC, CPALL, INTUCH, MINT, SPALI, TOP, KCE, AAV และ BA สำหรับหุ้นพื้นฐานแนะนำซื้อลงทุนวันนี้เป็น TOPการวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดในระยะสั้นมากเป็นบวกเล็กๆ โดยมีลุ้นรีบาวด์ที่มีแนวต้าน 1490, 1500 จุด แต่ถ้าไม่ผ่านและไม่ยืนเหนือแนว1500 จุดควรขายก่อน แนวฟิวเตอร์สำหรับการ Cut Loss อยู่ที่ 1460 จุด สำหรับการ Scan หาหุ้นที่ราคามีโอกาสทำ New High พบว่าหุ้นที่ยังอยู่ใน ListAEONTS ส่วนหุ้นที่เข้ามาใหม่ ได้แก่ TOP, TCMC ส่วนหุ้นที่หลุด List คือ -ไม่มี- สำหรับหุ้นที่แนะนำไปแล้วและราคาขึ้นมาในพื้นที่ขายทำกำไร คือPPS, PACE, DNA
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
+ สหรัฐ : เฟดระบุว่าสามารถทนรอต่อไปได้อีกในการปรับนโยบายการเงินให้เข้าสู่ภาวะปกติ และยืนยันใช้อัตราดอกเบี้ยต่ำใกล้ศูนย์ต่อไปทั้งนี้กิจกรรมทางเศรษฐกิจขยายตัวระดับปานกลางนับตั้งแต่ต.ค.ปีนี้ ส่วนราคาพลังงานที่ลดลงทำให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายระยะยาวของเฟด
+ สหรัฐ : เฟดปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP Growth ปี 57 เป็น 2.3-2.4% จากคาดการณ์ในเดือนก.ย.57 ที่ 2.0-2.2% แต่คงของปี 58 ไว้ที่2.6-3.0% อัตราการว่างงานสิ้นปี 57 จะอยู่ที่ 5.8% และลดลงเป็น 5.2-5.3% ในปี 58
•/+ สหรัฐ : ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ย. ลดลง 0.3%MoMจากเดือนต.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 0.1%MoM ปัจจัยที่ทำให้ดัชนี CPI ต่ำกว่าเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% มาจากราคาพลังงานที่อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง
• ยูโรโซน : อัตราเงินเฟ้อยูโรโซนเดือนพ.ย.อยู่ในระดับต่ำที่ 0.3%เท่ากับรายงานเบื้องต้น ซึ่งลดลงจาก 0.4% ในเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้ราคาพลังงานที่ลดลงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เงินเฟ้อทั่วไปต่ำ ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.7% เท่ากับเดือนต.ค. นับว่าอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนต่ำกว่าเป้าหมายที่ธนาคารกลางยุโรปตั้งเป้าไว้ที่ 2.0% อย่างมาก และกังวลว่ายูโรโซนอาจจะเกิดภาวะเงินฝืด
- รัสเซีย : บริษัทใหญ่หยุดการซื้อขายออนไลน์ในรัสเซีย Apple Incตัดสินใจระงับการจำหน่าย iPhone, iPad และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทางออนไลน์ในรัสเซีย เนื่องจากค่าเงินรูเบิลอ่อนค่าลงอย่างหนักและผันผวนทำให้การกำหนดราคาขายทำได้ยาก เราคาดว่าน่าจะมีบริษัทอื่นๆ หยุดทำการซื้อขายชั่วคราวกับรัสเซียก่อนจากประเด็นเรื่องค่าเงิน ซึ่งจะกดดันภาคการเงินและเศรษฐกิจรัสเซียย่ำแย่ลงไปอีก
+ ตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้นแรง สะท้อนเฟดยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยเร็ว โดยดัชนี DJIA +288.00 จุด หรือ +1.69% ดัชนี NASDAQ +96.48 จุด หรือ+2.12% ดัชนี S&P500 +40.15 จุด หรือ +2.04%
+ สัญญาน้ำมันดิบรีบาวด์ โดย WTI ส่งมอบม.ค.+0.54 ดอลลาร์ ปิดที่56.47 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน BRENT +1.17 ดอลลาร์ ปิดที่ 61.18ดอลลาร์/บาร์เรล
• สัญญาทองคำขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย โดยสัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 20 เซนต์หรือ +0.02% ปิดที่ 1,194.5 ดอลลาร์/ออนซ์
+ VIX-S&P500 ลดลงเป็น 19.44% หลังจากขึ้นไป 23.6% ในวันก่อน บ่งชี้ถึงความวิตกกังวลที่ผ่อนคลายลง ซึ่งปัจจัยหนุนหลักในระยะสั้นคือ การที่เฟดยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็ว
ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหลักทรัพย์เด่น
• เมื่อ 17 ธ.ค.57 กนง. มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.00% โดย 2 เสียงให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25%ทั้งนี้กรรมการส่วนใหญ่เห็นว่า นโยบายการเงินปัจจุบันยังผ่อนปรนเพียงพอต่อเศรษฐกิจที่คาดว่าจะทยอยฟื้นตัวในปี 58 และสอดคล้องกับการรักษาเสถียรภาพทางการเงินในระยะยาว สำหรับคาดการณ์ GDP Growth คาดว่าจะปรับใหม่ โดยธปท.กำหนดแถลงวันที่ 26 ธ.ค.นี้ เบื้องต้นจะปรับของปี 58ลดจากปัจจุบันเล็กน้อย (ปัจจุบันธปท.ประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 57-58เติบโต 1.5% และ 4.8% ตามลำดับ) สำหรับ ADB ปรับคาดการณ์ของไทยใหม่เป็น 1.0% ในปี 57 และ 4.0% ในปี 58 (จากเดิม 1.6% และ 4.5%ตามลำดับ)
- BOI เปิดเผยยอดขอส่งเสริมการลงทุนช่วง 11M57 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 6.5 หมื่นล้านบาท คิดเป็นมูลค่า 7.66 แสนล้านบาทสะท้อนการฟื้นตัวของการลงทุนที่ยังไม่แข็งแกร่งนัก ส่วนหนึ่งมาจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นช้า สำหรับปี 58 เราคาดว่าการลงทุนภาคเอกชนของไทยจะกระเตื้องขึ้นแต่อาจไม่สูงและเร็วมากนัก เนื่องจากความไม่แน่นอนจากภายนอกยังมีค่อนข้างสูง ดังนั้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนภาคเอกชน โดยหลักคือ นิคมอุตสาหกรรม ก็ยังต้องใช้เวลานานการฟื้นตัว
+ สคช.เปิดเผยว่าไทย-จีนเตรียมลงนาม MOU รถไฟรางคู่ 19 ธ.ค.นี้เส้นทางคือหนองคาย-โคราช-มาบตาพุด 734 กม. และแก่งคอย-กรุงเทพฯ133 กม. โดยแผนการทำงาน เช่น การสำรวจเส้นทาง เทคนิค รูปแบบการลงทุน คาดว่าจะชัดเจนในช่วงกลางม.ค.58
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 [email protected]
