- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 18 December 2014 16:31
- Hits: 1568
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET ยังลุ้นบวกต่อแต่อาจผันผวน ดังนั้นเน้นถือ//ถ้าจะขายก็แบ่งส่วน...
กลยุทธ์ : SET ยังอยู่ในช่วงรีบาวด์กลับเป็นบวกหลังการปรับตัวลงแรงในช่วงก่อน ซึ่งแม้ว่าอาจจะยังมีจังหวะแกว่งผันผวนและย้อนลบเป็นจังหวะ แต่กรอบลงน่าจะเริ่มแคบและยังมีลุ้นขยับบวกต่อได้อีก ดังนั้น FSS ยังแนะนำให้เน้นถือต่อเนื่องไว้ก่อนดีกว่า ส่วนถ้าจะแบ่งส่วนขายทำกำไรตามรอบในช่วงบวกบ้างก็ทำได้ แต่น่าแบ่งส่วนไว้ถือลุ้นทำกำไรกรอบกว้างด้วย
หุ้นเด่นทางเทคนิค : TTA, FPI, AOT(short)
แนวโน้ม : แม้ว่าผลประชุม กนง. ช่วงบ่ายวานนี้ไม่มีการลดอัตราดอกเบี้ยตามที่เป็นข่าวมาก่อนหน้า แต่ก็ถือว่าไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุนนัก เพราะความเห็นในช่วงที่ผ่านมามีทั้ง 2 ทิศทาง ซึ่งในส่วนของ FSS เองก็คาดว่าแบงก์ชาติจะยังไม่ปรับอัตราดอกเบี้ยในช่วงท้ายปีนี้ตามที่เราได้เคยกล่าวถึงไปแล้ว ส่วนผลประชุมเฟดเมื่อคืนนี้แม้ว่าเฟดจะไม่ได้ให้คำมั่นว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำไว้อีกนานเท่าใด แต่อย่างน้อยก็มีแนวโน้มว่าจะยังไม่ขยับขึ้นในการประชุมเฟด 2-3 ครั้งแรกของปี 2015 ช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวลงแรงพอควรในช่วงต้นชั่วโมงเริ่มพลิกกลับมาปิดบวกเล็กน้อยได้หลายแห่งและหนุนให้ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกขึ้นได้ดี ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เปิดบวกได้ดีเช่นกัน ขณะที่ SET ในช่วง 2 วันที่ผ่านมาก็เริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนให้ดัชนีสามารถขยับรีบาวด์ขึ้นจากจุดต่ำสุดในวันที่เกิด panic sell ได้ค่อนข้างแข็งแกร่งมากขึ้นด้วย ทำให้ FSS ยังคาดหมายว่า SET จะอยู่ในช่วงแกว่งตัวเพื่อบวกต่อได้อีก แม้ว่าอาจจะยังมีแรงขายกดดันให้ผันผวนเป็นระยะ แต่ก็มีแนวโน้มที่จะยังเน้นหนักทางด้านบวก โดยเรายังคาดว่าแรงซื้อจากเม็ดเงิน LTF, RMF ช่วงท้ายปีจะมีเข้ามาช่วยหนุนตลาดต่อได้
แนวรับ 1475-1470 , 1465-1462 จุด แนวต้าน 1485-1488 , 1492-1494 จุด
Fund Flow วานนี้ยังไหลออกจากตลาดหุ้นภูมิภาคต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไต้หวัน US$654.3 ล้าน เกาหลีใต้ US$367.9 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$45.6 ล้าน ไทย US$176.8 ล้าน อินโดนีเชีย US$4.3 ล้าน และเวียดนาม US$4.3 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้ค่อนข้างนิ่ง Flow น่าจะยังไหลออกต่อแต่ชะลอลง
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) ตลาดตอบรับเป็นบวกกับผลประชุม Fed เพราะ Fed ยังใช้คำว่า ‘จะคงดอกเบี้ยต่ำ for a considerable time’ ไว้ในคำแถลง นางเยเลนยังกล่าวว่าจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 2-3 ครั้งหน้าเป็นอย่างน้อย (การประชุมครี้งที่ 4 คือเดือน มิ.ย.) นักลงทุนจึงสบายใจว่าการขึ้นดอกเบี้ยจะไม่ใช่เร็วๆนี้ และ Fed ยังมีมองเศรษฐกิจดีขึ้นโดยปรับ GDP ปีนี้ขึ้นเป็น 2.3-2.4% สูงกว่าที่คาดในเดือน ก.ย. ที่ 2-2.2% และคงประมาณการปี 2015 ที่ 2.6-3% และคาดอัตราว่างงานปีนี้จะลดลงเป็น 5.8% และลดเหลือ 5.2-5.3% ปีหน้า แต่สิ่งที่ยังกังวลคือเงินเฟ้อต่ำกว่าเป้า 2% (พ.ย. อยู่ที่ 1.3%) ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นหลังผลประชุม Fed ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดบวกเฉลี่ย 0.9%
(0) กนง.คงดอกเบี้ยที่ 2% ตามคาด แต่เสียงไม่เป็นเอกฉันท์โดย 2 เสียงให้ลดดอกเบี้ย 0.25% (การประชุมครั้งก่อนมี 1 เสียงให้ลดดอกเบี้ย) และมองเศรษฐกิจปี 2015 ฟื้นตัวแต่จะปรับประมาณการลงจากที่คาดไว้ 4.8% (ธปท.จะปรับประมาณการอย่างเป็นทางการ 26 ธ.ค. นี้) โดยยังกังวลกับการลงทุนภาคเอกชนและการส่งออก
(+) GUNKUL เราปรับเป้าหมายปี 2015 ขึ้นเป็น 40 บาทจาก 30 บาท หลังบริษัทซื้อหุ้น 100% ใน GK Sendai ซึ่งทำธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่นเป็นสัมปทาน 20 ปี กำลังผลิต 38.1MW อัตรารับซื้อไฟฟ้าแบบ Feed-in tariff หน่วยละ 36 เยน คาดสร้างเสร็จและรับรู้รายได้ภายในปี 2017 เราประเมินว่าโครงการนี้จะทำกำไรปีละ 130-150 ล้านบาท เพิ่มมูลค่าให้หุ้นอีก 4 บาท อีก 6 บาทมาจากสมมติฐานการรับงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์เพียง 5% ของที่กพช.ประกาศรับซื้อไฟ 1,031 เมกะวัตต์ เรายังแนะนำซื้อโดย GUNKUL เป็นหุ้น Top pick ของเราในกลุ่มพลังงานทดแทน
(+) มุมมองกลุ่มที่อยู่อาศัยปี 2015 เราคงน้ำหนัก Neutral จากสถานการณ์การขายที่อยู่อาศัยที่จะฟื้นตามภาวะเศรษฐกิจ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อและดอกเบี้ยจะยังอยู่ในระดับต่ำ เป็นปัจจัยหนุนกำลังซื้อ เราคาดกำไรปกติปี 2015 โต 13.6% Y-Y ชะลอจากปีนี้ที่คาดโต 17% Y-Y กำไรที่เติบโตในปีหน้ากระจุกอยู่ใน 3 บริษัทคือ SIRI (+46%) LPN (+31%) และ PS (+14%) นอกนั้นกำไรโตเฉลี่ย 6-7% หุ้น Top picks คือ PS (ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 42 บาท) QH (เป้าหมายปี 2015 ที่ 4.90 บาท) และ SIRI (เป้าหมายปี 2015 ที่ 2.45 บาท) ส่วน LPN ราคาหุ้นสะท้อนการเติบโตปีหน้าแล้ว แนะนำเพียงถือ
(+) มุมมองกลุ่มพลังงานทดแทนปี 2015 ปี 2015 เป็นปีทองของธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เพราะตลาดที่ใหญ่ถึง 1,031MW ที่ต้องประมูลและก่อสร้างให้เสร็จในปีหน้า จากทั้งหมด 2,245MW เราชอบ GUNKUL เพราะครบวงจรมากที่สุดเพราะทำทั้งก่อสร้างโรงไฟฟ้า ขายอุปกรณ์ และถือหุ้นในโรงไฟฟ้า
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาพุ่งขึ้นแรงเกือบ 300 จุด จากราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัวรวมถึงขานรับถ้อยคำแถลงของ FED ที่กล่าวว่ายังสามารถอดทนรอต่อไปได้อีกสำหรับการขึ้นดอกเบี้ยในอนาคต
ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนส่วนใหญ่ปิดในแดนบวกได้เช่นกันนำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานแต่การปรับขึ้นยังจำกัดเนื่องจากมีแรงเทขายในกลุ่มธนาคารจากความกังวลด้านเศรษฐกิจของรัสเซีย
ทำให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ยังขยับตัวเพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่องตามตลาดหุ้นภูมิภาคอื่นจากบรรยากาศการลงทุนที่ผ่อนคลายมากขึ้น
ค่าเงินบาทแกว่งตัวออกด้านข้าง ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 32.90-33.05 บาท/ดอลลาร์
น้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ม.ค. ขยับขึ้น 0.54 ดอลลาร์ ปิดที่ 56.47 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA เปิดเผยตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ที่เพิ่มขึ้นซึ่งช่วยลดความกังวลด้านอุปทานที่ล้นตลาด
ทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 0.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,194.50 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยแนวโน้มราคาทองคำยังถูกกดดันจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ในอนาคต
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
18 ธ.ค. - ไทย: WHART เริ่มเทรด (ราคา IPO 10 บาท)
- สหรัฐ: ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
19 ธ.ค. - ไทย: PSTC เริ่มเทรด (ราคา IPO 0.65 บาท)
- ญี่ปุ่น: BOJ Monetary Policy Statement
22 ธ.ค. - สหรัฐ: ยอดขายบ้านเก่า (พ.ย.)
- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ธ.ค.)
23 ธ.ค. - ไทย: KCM เริ่มเทรด (ราคา IPO 1.30 บาท)
- สหรัฐ: คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (พ.ย.), ยอดขายบ้านใหม่ (พ.ย.), 3Q14 GDP (ตัวเลขสุดท้าย)
24 ธ.ค. - ตลาดหุ้นที่ปิดทำการมี ฟิลิปปินส์และฮ่องกง
- ไทย: EPG เริ่มเทรด (ราคา IPO 5.80 บาท)
25 ธ.ค. - ตลาดหุ้นที่ปิดทำการมี ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ อินเดีย และสหรัฐฯ
26 ธ.ค. - ไทย: ดุลการค้า (พ.ย.), LHSC เริ่มเทรด
30 ธ.ค. - ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน พ.ย.
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852